กห.อาเซียน ประชุมร่วมกับ กห.ประเทศคู่เจรจา เห็นพ้องรับรองแถลงการณ์ร่วมกัน ในความร่วมมือด้านการต่อต้านการก่อการร้าย และ ด้านการสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจร่วมกัน
ผลการประชุม รมว.กห.อาเซียน กับ รมว.กห.ประเทศคู่เจรจา ครั้งที่ 5 ( ADMM – Plus ) ณ สาธารณรัฐสิงคโปร์ โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม.และ รมว.กห. พร้อม ปล.กห. เข้าร่วมประชุม โดยสรุปว่า ก่อนการประชุม กห.อาเซียน กับ กห.ประเทศคู่เจรจา ทั้ง 8 ประเทศ ได้มีการประชุม ร่วมกันอย่างไม่เป็นทางการระหว่าง รมว.กห.อาเซียน – รมว.กห.สหรัฐอเมริกา , รมว.กห.อาเซียน – รมว.กห.สาธารณรัฐประชาชนจีน และ รมว.กห.อาเซียน – รมว.กห.ญี่ปุ่น. ต่อจากนั้น ได้มีการประชุม รมว.กห.อาเซียน ( 10 ประเทศ ) กับ รมว.กห.ประเทศคู่เจรจา ( 8 ประเทศ ) ครั้งที่ 5 โดยที่ประชุมรับทราบ รายงานพัฒนาการล่าสุดของอาเซียน พร้อมทั้ง ได้แลกเปลี่ยนมุมมองการต่อต้านภัยคุกคามของภูมิภาคอินโดแปซิฟิกร่วมกัน
โดยที่ประชุมมีความกังวลร่วมกัน ถึงภัยคุกคามจากการก่อการร้าย ที่ขยายตัวเข้ามาในภูมิภาคมากขึ้น และมีการใช้เทคโนโลยีไซเบอร์เป็นเครื่องมือสนับสนุนและเชื่อมโยง จึงจำเป็นต้องเพิ่มพูนความร่วมมือ วางแผนป้องกันและรับมือกันมากขึ้น นอกจากนั้น ปัญหาทะเลจีนใต้ที่เปิดกว้างและเสรี จำเป็นต้องได้รับการเคารพและยอมรับกติกาหรือกฎหมายระหว่างประเทศร่วมกันมากขึ้น ดังนั้นการสื่อสารร่วมกันอย่างใกล้ชิดสู่ความไว้เนื้อเชื่อใจกันจึงมีความสำคัญยิ่ง ต่อความสงบร่วมกันของภูมิภาค จากนั้น ได้ลงนามร่วมกันใน แถลงการณ์ร่วม ว่าด้วย การป้องกันและต่อต้านภัยคุกคามจากการก่อการร้าย และการเสริมสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจเชิงปฏิบัติ
ต่อจากนั้น ได้กระทำพิธีส่งมอบการเป็นประธานการประชุม รมว.กห.อาเซียน และ การประชุม รมว.กห.อาเซียน กับ รมว.กห.ประเทศคู่เจรจา จากประเทศสิงคโปร์ให้กับประเทศไทย โดย พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวชื่นชมและขอบคุณประเทศสมาชิก ที่ร่วมกันเสริมสร้างความร่วมมือในการพัฒนาขีดความสามารถและเตรียมความพร้อม สำหรับการรับมือกับความท้าทายของภูมิภาคในอนาคต พร้อมกับย้ำ ถึงความมุ่งมั่นของไทยในการทำหน้าที่ประธานอาเซียน ในปี 62 ที่จะส่งเสริมและขับเคลื่อนความร่วมมือให้ประเทศสมาชิกทั้ง 10 ประเทศ ก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน
เพื่อสร้างประชาคมอาเซียน ที่มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังและมองไปสู่อนาคตอย่างมีสมดุล ในทั้งสามเสาความร่วมมือ ภายใต้แนวคิด ความมั่นคงที่ยั่งยืน การเสริมสร้างความเข้มแข็ง การบูรณาการขับเคลื่อนและเพิ่มประสิทธิภาพความร่วมมือด้านความมั่นคง และการสนับสนุนกิจกรรมคาบเกี่ยวระหว่าง 3 เสาความร่วมมือ โดยดำรงไว้ซึ่งความเป็นแกนกลางอาเซียน เพื่อสันติภาพ เสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค
พล.ท.คงชีพ กล่าวสรุปในภาพรวมว่า ความความมั่นคงของภูมิภาคปัจจุบัน มีเสถียรภาพมากขึ้น จากพัฒนาการและความร่วมมืออย่างต่อเนื่องของ กห.อาเซียน และประเทศคู่เจรจา โดยพัฒนาเป็นกลไกความร่วมมือด้านความมั่นคงทางยุทธศาสตร์ ที่เข้มแข็งและเป็นรูปธรรมของประชาคมระหว่างประเทศ ในการเสริมสร้างการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงในมิติต่างๆร่วมกัน เพื่อการรับมือกับความท้าทายของภูมิภาคในอนาคต ซึ่งเสถียรภาพของเสาหลักความมั่นคงของภูมิภาคอาเซียนดังกล่าว มีความสำคัญยิ่งต่อความเชื่อมั่นและผลประโยชน์ของทุกประเทศสมาชิกประชาคมอาเซียนในภาพรวม
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: