ปราจีนบุรี – โจรใจบาปเดินสายงัดตู้บริจาควัดประทุมบูชา ต.บ้านทาม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 22 ส.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีคนร้ายงัดกุฏิเจ้าอาวาสวัดประทุมบูชา ต.บ้านทาม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างเร่งติดตามหาตัวคนร้ายรายนี้อย่างกระชั้นชิด และเกิดเหตุการณ์ซ้ำสองขึ้นอีกคน หลังก่อเหตุงัดกุฏิพระลูกวัดประทุมบูชา เมื่อคืนวันที่ 22 ส.ค.63 ได้โทรศัพท์มือถือไป 2 เครื่องและคืนวันเดียวกัน มีคนร้ายเป็นชาย 1 ราย บุกงัดวัดอินทรแบกและวัดใหม่กรงทอง โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้ ตำรวจยังไม่สามารถจับตัวคนร้ายที่ก่อเหตุได้ ล่าสุด เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 22 ส.ค.63 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า ที่วัดหนองคร้อ หรือวัดรัตนชมภู ต.วังดาล อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ถูกงัดตู้บริจาคด้วย ซึ่งเป็นวัดของเจ้าคณะอำเภอกบินทร์บุรี จึงเดินทางตรวจสอบ พบกับพระครูรัตนสุทธิคุณ เจ้าอาวาสวัดหนองคร้อ ที่เกิดเหตุเป็นมณฑปเก่าภายในวัด ซึ่งได้ใช้เป็นที่ทำงานของเจ้าคณะอำเภอ ด้านในห้องกระจกใส มีตู้ไม้บริจาค 1 ใบ ถูกคนร้ายงัดกุญแจพังเสียหาย มีเหรียญบาทวางอยู่ด้านใน 4 บาท กระจกรอบด้านมณฑปไม่มีร่องรอยถูกงัดแงะ แต่อย่างใด
เจ้าคณะอำเภอ เปิดเผยว่า เพิ่งรู้ว่าตู้บริจาคค่าน้ำค่าไฟของสำนักงานฯ ถูกงัดตอนกลับมาจากทำธุระ รู้สึกตกใจมาก ยังติดตามข่าวที่วัดประทุมบูชาอยู่เลย ไม่คิดว่าวัดจะถูกโจรใจบาปมางัดตู้บริจาค คาดว่า น่าจะเข้ามางัดตู้บริจาคเมื่อคืน ปกติแล้วตนเองกับพระจะมานั่งทำงานที่นี่แทบทุกวัน ไม่เป็นสิ่งผิดปกติ ข้าวของไม่ได้ถูกรื้อค้นหรืองัดแงะ ตู้บริจาคตั้งอยู่ด้านหน้ามณฑป เครื่องคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะอยู่ด้านหลังยังอยู่ เงินในตู้บริจาคน่าจะมีราว 5,000-10,000 บาท ทุกครั้งที่เปิดจะมีเงินที่ญาติโยมทำบุญประมาณนี้และได้โทรแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ
เวลาต่อมา ร.ต.อ.ยุทธภูมิ ดำรงธรรม รองสารวัตรเวรสอบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ มาตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมสายตรวจและชุดสืบสวน เจ้าคณะอำเภอได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า โดยปกติวัดมีทางเข้าทางเดียว คือประตูด้านหน้าติดกับโบสถ์ ไม่มีประตูปิด-เปิดและไม่มีกล้องวงจรปิด ทางวัดมีรั้วกำแพงสูง 2 เมตร รอบวัดและติดกับบ้านญาติโยม ที่ผ่านมาทางวัดไม่เคยมีใครมาพลุกพล่าน กลางคืนจะไม่ให้ใครมาค้างคืนภายในวัดโดยเด็ดขาด ยกเว้นทีมงานต่าง ๆ เจ้าคณะอำเภอได้เทศนาธรรมฝากถึงคนร้ายที่ลักตู้บริจาคของวัด ถือว่าบุคคลเหล่านี้ เป็นคนบาปหนัก จะต้องได้รับผลของกรรมที่ร้ายแรงและรวดเร็ว ชีวิตจะไม่มีความสุข ขอให้หยุดการกระทำที่เบียดเบียนวัดได้แล้ว ขณะเดียวกัน ป้าเตี้ย ผู้ถือศีลปฏิบัติธรรม กล่าวว่า คนร้ายไม่น่ามาลักข้าวของทางวัด มันเป็นบาป ตำรวจยังจับตัวไม่ได้ ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัวมากขึ้น เชื่อว่า เวรกรรมจะตามสนองคนร้ายในเร็ว ๆ นี้แน่นอน
————————
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์, ลักขณา สีนายกอง
