มวลน้ำมาจากภาคเหนือไหลบ่าลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดน้ำที่ไหลผ่านพื้นที่จังหวัดอุทัยธานีมีสีขุ่นแดง ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ปลาทยอยตายอันเป็นผลมาจากน้ำขุ่นแดงเกาะเหงือก และน้ำขาดอ๊อกซิเจนปลาน็อคตายอื้อ
วันที่ 28 สิงหาคม 2563 เวลา 08.00 น. มวลน้ำจากภาคเหนือที่ไหลบ่าลงสู่ต้นแม่น้ำเจ้าพระยาที่จังหวัดนครสวรรค์ และมีอัตราไหลผ่านวัดได้สถานีวัดน้ำ C2 (เจ้าพระยา ) อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ วัดอัตราน้ำไหลผ่าน 692 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ และล่าสุดปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี ที่ตำบลหาดทะนง ตำบลเกาะเทโพ และตำบลท่าซุง มีระดับน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ยังสามารถรับปริมาณน้ำได้อีก แต่มวลน้ำที่ไหลบ่าดังกล่าวแม้จะยังไม่ส่งผลกระทบต่อการเกิดอุทกภัยอันใกล้นี้ แต่สีของน้ำมีสีขุ่นแดงอย่างเห็นได้ชัด จึงส่งผลให้เกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังในแม่น้ำเจ้าพระยาในพื้นที่ตำบลเกาะเทโพ อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี หลายร้อยกระชังได้รับผลกระและได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ปลาที่เลี้ยงไว้ในกระชังหลายชนิด เช่น ปลาทับทิม ปลาเทโพ ปลาสวายปลาสังขะวาส เป็น ต้น ทยอยตายทุกวันวันละหลายร้อยตัว หากสภาพน้ำยังเป็นอย่างนี้ปลาจะตายเพิ่มขึ้น และจะต้องขาดทุนอย่างหนัก
นางมาธินีนาคสิงห์ และนายประสิทธื์ คั้งพิมายที่เลี้ยงปลาเผยว่าในกระในพื้นที่แห่งนี้ กล่าวว่า มวลน้ำที่ไหลบ่ามาและมีสีขุ่นแดงอย่างเห็นได้ชัดอย่างที่เห็นในภาพ เกิดขึ้นมาเป็นเวลา 3 – วัน แล้ว ส่งผลให้ตะกอนเกาะเหงือกปลาที่เลี้ยงไว้ รวมทั้งทำให้น้ำขาดออซิเจน ปลายจึงปรับสภาพน้ำไม่ทันต้องทยอยตายทุกวันๆ ละหลายร้อยตัว ทุกวันตอนเช้าต้องตักปลาที่ลอยตายเกลื่อนในกระชังออก เอาไปทำปุ๋ยหมัก และต้องติดตั้งเครื่องปั๊มน้ำเพื่อเพิ่มออกซิเจนลดความเสียหาย นอกจากนี้ยังต้องชักรากกระชังปลาให้ชิดริมฝั่งแม่น้ำให้มากที่สุด เพื่อป้องกันน้ำที่อาจจะไหลเชี่ยวไปมากกว่านี้ไม่ให้ตาข่ายกระชังปลาขาดจนปลาหลุดออกจากกระชังเสียหายเพิ่มไปอีก อย่างไรก็ตามหากสภาพน้ำยังเป็นสีขุ่นแดงและมีตะกอนแบบน้ำอีกไปอีกปลาหลายชนิดที่เลี้ยงไว้ในกระชังจะต้องตายเพิ่มอย่างแน่นอน และจะต้องขาดทุน และต้องเป็นหนี้เป็นสินกับการที่กู้เงินมาลงทุนในครั้ง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: