นครพนม – ระเบิดศึกคนเหล็ก”ไตรกีฬา 2020” มนต์เสน่ห์ริมฝั่งโขง เชื่อมโยงสองแผ่นดิน ฟื้นฟูเศรษฐกิจเมืองกีฬาแห่งอีสานเหนือ
วันที่ 28 สิงหาคม 2563 เวลา 16.00 น. บริเวณลานหน้าองค์พญาศรีสัตตนาคราช แลนด์มาร์คชื่อดัง ริมแม่น้ำโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม มีการแถลงข่าวการจัดกิจกรรมกีฬาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว “นครพนมไตรกีฬา 2020” โดยมี นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวถึงความพร้อมฯในการรองรับกิจกรรมกีฬาขนาดใหญ่ และให้การต้อนรับนักกีฬาร่วมทั้งนักท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ ในกิจกรรมการแข่งขันภายใต้ธีม “โขงนทีไตรกีฬา ศรีสัตตนาคาแห่งนครพนม มนต์เสน่ห์ริมฝั่งโขง เชื่อมโยงสองแผ่นดิน”
นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง/ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทย และนายกสมาคมกีฬาจังหวัดฯ ได้กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมของจังหวัด ในการรองรับการจัดกิจกรรมกีฬา และแสดงความพร้อมของทุกภาคส่วน เพื่อพัฒนาจังหวัดนครพนม ด้วยกิจกรรมกีฬา พร้อมทั้งชักชวนให้นักกีฬาทั่วประเทศมาร่วมแข่งขัน
นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม กล่าวว่าในฐานะเป็นผู้บริหารเขตเทศบาลเมืองฯ พร้อมอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อร่วมกันให้งานแข่งขันออกมาอย่างประทับใจนักกีฬา หากขาดเหลืออะไรให้แจ้งมาได้ตลอดเวลา
นายภาสกร พุทธานุภากร ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย(กทท.) จังหวัดนครพนม ก็ได้กล่าวถึงความเป็นมา วัตถุประสงค์การจัดฯแข่งขัน เพื่อกระตุ้น ฟื้นฟูเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวในภูมิภาคด้วยกิจกรรมกีฬา
ด้านนายแพทย์จิณณพิภัทร ชูปัญญา นายแพทย์สาธารณสุขฯ ได้กล่าวถึงการจัดการแข่งขันตามมาตรการผ่อนปรนกิจการและกิจกรรมด้านการกีฬา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรควิด-19 ตามประกาศกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ด้านการจราจรและรักษาความปลอดภัย พ.ต.อ.พลาเดช เพ็ชรหว้าโง๊ะ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม จะตั้งจุดตรวจและหน่วยเคลื่อนที่เร็ว ตรวจตราความเรียบร้อยตามโรงแรมที่พักของนักกีฬาอย่างเข้มงวด
ขณะที่นายธเนศ กิตติพรพานิช กรรมการการแข่งขัน(Race Director) ได้พูดคุยถึงรายละเอียดในการรายละเอียดการแข่งขัน และเส้นทางการแข่งขันฯ และ “กอล์ฟ”น.ส.สุรัมภา หยกโชติสกุล นางฟ้านักปั่นซึ่งเพิ่งไปคว้าแชมป์การแข่งขันไตรกีฬานาวีเฉลิมพระเกียรติ ครั้งที่ 4 อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ที่ผ่านมา เชื้อเชิญนักกีฬาจากทั่วสารทิศลงชิงความเป็นยอดมนุษย์ในสนามของจังหวัดนครพนม
การแข่งขันนครพนมไตรกีฬา 2020 จัดโดยสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดนครพนม และสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทย(กทท.) จังหวัดนครพนม เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจเมืองกีฬา และชุมชนกีฬาในภูมิภาคแบบวิถีใหม่ ภายหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย ระหว่างวันที่ 19-20 กันยายน 2563 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง ภายหลังสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คลี่คลาย
อีกทั้งได้เล็งเห็นว่าการจัดแข่งขันกีฬา ที่มีชนิดกีฬาที่เป็นที่นิยมสูงและรู้จักกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เป็นอีกแนวทางหนึ่ง ที่จะสามารถดึงดูดให้ประชาชน เยาวชนทั่วไป ทุกเพศ ทุกวัย ตลอดจนนักกีฬาจากต่างประเทศ ได้มีโอกาสเข้ามาร่วมแข่งขันและใช้เวลาในการท่องเที่ยว ในแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดนครพนม อีกทั้งยังสามารถสร้างภาพลักษณ์ความเชื่อมั่นประเทศไทย จากการแพร่ภาพข่าวการแข่งขันไปอย่างกว้างขวาง ทำให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคธุรกิจท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมกีฬาของจังหวัดนครพนม สามารถสร้างรายได้จากแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่
โดยเปิดรับสมัครคนเหล็ก ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม 2563 เป็นต้นไป การแข่งขัน ประกอบด้วยโอลิมปิค, สปรินต์, และทวิกีฬา ว่ายน้ำโขง ปั่นข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) วิ่งเลาะชายโขง ค่าสมัคร Olympic 800 บาท, Sprint 600 บาท, Duathlon 800 บาท และ Olympic ประเภททีม 1,200 บาท รับสมัครในจำนวนจำกัดแบบ New Normal
สำหรับเส้นทางและพื้นที่ที่จะใช้จัดการแข่งขันคือ “ว่ายน้ำ” สตาร์ทจากท่าน้ำชมรมนกเป็ดน้ำโขง หน้าจวนผู้ว่าฯ เข้าเส้นชัยที่ท่าเทียบเรือท่องเที่ยวเทศบาลเมืองฯ หน้าตลาดอินโดจีนนครพนม ซึ่งมีเรือจากเวทีกลางจัดงานไปส่งที่จุดปล่อยตัว “ปั่นจักรยาน” เป็นเส้นทางจากลานพญาศรีสัตตนาคราช เลียบตามริมโขงไปทางทิศใต้ในแยกถนนบายพาสบ้านน้อยใต้ มุ่งไปทางทิศเหนือถึงสามแยกท่าควาย มุ่งตรงไปปั่นข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 “นครพนม-คำม่วน” แล้วกลับตัวเข้าเมืองตามเส้นทางเดิม และ “วิ่ง” เส้นทางจากลานพญาศรีสัตตนาคราช เลียบอัฒจันทร์ริมโขงไปทางทิศเหนือ ถึงวัดนักบุญอันนา แล้ววนกลับมาสู่เส้นชัยตามทางเดิม นอกจากนี้ยังมีการออกร้านของดีเมืองนครพนม เพื่อให้นักกีฬาและนักท่องเที่ยวได้ซื้อไปเป็นของฝากอีกด้วย
การจัดกิจกรรมกรรมครั้งนี้ จัดแบบ New Normal ป้องกันโรคโควิด-19 ถึงแม้จังหวัดนครพนม จะเป็นจังหวัดที่ไม่มีการแพร่ระบาด มีความปลอดภัยสูง แต่กองเชียร์ ผู้เข้ามาชมงาน ต้องใส่หน้ากากอนามัย ป้องกันตนเองไม่สัมผัสใกล้ชิดในพื้นที่คนหมู่มากตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม
