ชาวบ้าน ต.นาโยงเหนือ อ.นาโยง แหล่งทำและจำหน่ายขนมเดือนสิบแหล่งใหญ่ที่สุดในจังหวัดตรัง เร่งมือทำขนมเดือนสิบส่งขายให้กับพ่อค้าแม่ค้าจากต่างอำเภอและจังหวัดใกล้เคียง ที่สั่งซื้อเพื่อนำไปเตรียมจำหน่ายในช่วงเทศกาลเดือนสิบที่กำลังจะมาถึง จนแต่ละเจ้าทำแทบไม่ทัน
วันที่ 31 สิงหาคม 2563 ถนนสายสารทเดือนสิบ คือ ถนนเทศบาลตำบลนาโยง 10 เขตเทศบาลตำบลนาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง ซึ่งพบว่าสองฝั่งถนนเรียงรายด้วยแม่ค้านับ 10 ราย ที่ยกกระทะ และอุปกรณ์ทำขนม มาตั้งแผงทำขนมและจำหน่ายขนมท้องถิ่น ที่ใช้ในงานบุญสารทเดือนสิบของชาวภาคใต้ ได้แก่ ขนมพอง ขนมลา ขนมบ้า และขนมดีซำ หรือขนมรู โดยพ่อค้าแม่ค้าล้วนเป็นชาวบ้านในพื้นที่เทศบาลตำบลนาโยงเหนือ อ.นาโยง จ.ตรัง ซึ่งจะปักหลักทำขนมและขายขนม ตั้งแต่ก่อนเทศกาลวันสารทเดือนสิบ จนสิ้นสุดเทศกาลรวมเป็นเวลาประมาณสองเดือน โดยบางรายยอมลงทุนเช่าบ้านที่เจ้าของไม่ได้อยู่อาศัย เพื่อยึดเป็นทำเลทองในการทำขนมขายทุกปี โดยบางเจ้าทำรวมกันทั้งครอบครัว พี่น้อง และทำเป็นงานหลักทุกวันตลอดระยะเวลา 2 เดือน บางรายจะออกมาทำหลังจากเสร็จจากการกรีดยางพารา ทำให้แต่ละปีมีรายได้จากการขายขนมดังกล่าว ประมาณรายละ 20,000 – 50,000 บาท ขนมที่ทำจากที่นี่ส่งขายไปทุกอำเภอในจังหวัดตรัง รวมทั้งจังหวัดใกล้เคียง เช่น จ.นครศรีธรรมราช ,จ.กระบี่ และ จ.ภูเก็ต โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นเจ้าประจำที่สั่งซื้อทุกปีรายละ 200 – 1,000 แผ่น ทำให้ต้องเร่งมือทำ เพราะจะมีลูกค้ามารับไปขายต่อทั้งในช่วงทำบุญเล็ก หรือวันรับตายาย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใกล้ถึงวันทำบุญใหญ่วันสารทเดือนสิบ แต่ละรายจะต้องเร่งทำไปจนถึงกลางดึกกลางดื่น เพื่อให้ทันส่งขาย และเพียงพอกับความต้องการของลูกค้า โดยขณะนี้ลูกค้าที่สั่งซื้อเริ่มเดินทางมารับแล้ว เจ้าของเร่งบรรจุลงเข่ง เพื่อเตรียมจัดส่ง
นางพัตรา นวลทอง (เสื้อสีชมพู) อายุ 50 ปี แม่ค้า กล่าวว่า ชาวบ้านจะเริ่มทำขนมกันตลอดประมาณ 2 เดือน แต่ละคนก็จะทำตามกำลังความสามารถวันละ 8 – 10 กิโลกรัมต่อวัน ซึ่งขายหมดทำแทบไม่ทัน ทั้งทำตามออเดอร์ที่ลูกค้าสั่งซื้อ และทำขายหน้าร้าน ซึ่งราคาขายก็ไม่มีการปรับขึ้น โดยราคาขายปลีก ขนมลา แผ่นเล็กราคาแผ่นละ 5 บาท แผ่นใหญ่ราคาแผ่นละ 6 บาท ขนามพอง ขนาดเล็กราคา 7 บาท ขนาดใหญ่ ราคา 8 บาท ขนมดีซำหรือขนมรู และขนมบ้า ราคากล่องละ 10 บาท และขนมที่จัดเป็นชุด ประกอบด้วย ขนมพอง ขนมลา ขายในราคาชุดละเล็กราคาชุดละ 20 – 30 บาท แต่หากเป็นชุดใหญ่ ราคาชุดละ 25 – 35 บาท
ด้านนางสายพิณ คงนคร อายุ 59 ปี (เสื้อสีฟ้า) กล่าวว่า ปีนี้ราคาวัตถุดิบหลักในการทำขนมพองคือ ข้าวเหนียวปรับราคาขึ้น จากกระสอบน้ำหนัก 48 กิโลกรัม ราคา 1,300 บาท เป็นกระสอบน้ำหนัก 40 กิโลกรัม ราคา 1,550 บาท ปรับลดปริมาณและราคาสูงขึ้น ซึ่งยอมรับว่าทำต้นทุนสูงขึ้น แต่พวกตนก็ยังขายราคาเดิม ไม่มีการปรับราคา เนื่องจากประเทศไทยเพิ่งพ้นวิกฤตโรคระบาดโควิด19 ทำให้ประชาชนใช้จ่ายอย่างประหยัด ทำให้ได้กำไรน้อยลงแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมา แต่ทุกปีชาวบ้านก็จะมีรายได้จากการทำขนมเดือนสิบรายละประมาณ 20,000 -50,000 บาท ส่วนตนเองมีภาระตอนเช้าต้องกรีดยาง ต้องดูแลคนป่วยติดเตียง ต้องเลี้ยงวัว ทำกับข้าว ต้องเอาเวลาว่างมาทำ แต่ละปีส่วนตัวได้ประมาณ 20,000 บาท ซึ่งเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัว
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง จัดใหญ่ 12 วัน งานฉลองรัฐธรรมนูญและงานกาชาดจ.ตรัง 4-15 ธ.ค.นี้ รีแบร์นใหม่! ย้อนยุคงานเหลิมแต่แรก แสดงบินโดรนพิธีเปิด วธ.ทุ่ม 3.4 ล้าน…
- ชวนชิม 'ศรีบุญเรือน' ร้านข้าวต้มต้นตำรับ สืบทอดสามรุ่น เสน่ห์ร้านข้าวต้มยามค่ำคืน ที่รวมอาหารจีน อาหารเหลา อาหารใต้ไว้ในร้านเดียว
- วิกฤตพะยูนตรัง 7 วันสำรวจ พบแค่ตัวเดียว ทดลองวางแปลงอาหาร กลับถูกเมินไม่ยอมกิน
- ตรัง คู่ซี้ พระ-ฆราวาส เมาแอ๋ด่าทอชาวบ้านใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อาละวาดอ้างมีปืน ทำชาวบ้านแตกตื่น ตร.หิ้วปีกบังคับสึก กร่างไม่เลิกบอกรู้จักพระผู้ใหญ่
โดยเทศกาลสารทเดือนสิบจะเริ่มต้น จะตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 เรียกว่าวันรับตายาย หรือวันทำบุญเล็ก โดยในปีนี้จะตรงกับวันที่ 3 กันยายน 2563 และ วันส่งตายาย หรือวันทำบุญใหญ่ จะตรงกับวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ในปีนี้ตรงกับวันที่ 17 กันยายน 2563
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: