อุบลราชธานี-อุบลฯ ยังเข้มป้องกันแรงงานเถื่อนเข้าเมือง กันนำโควิดระบาด
นายสฤษดิ์ วิฑูรย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี กล่าวถึงมาตรการเข้มงวดตามแนวชายแดนไทยและกัมพูชาด้านจังหวัดอุบลราชธานี มีการวางกำลังผสมตำรวจ ทหาร ฝ่าย ปกครองกว่า 400 กิโลเมตร โดยกำลังทั้งหมดเป็นการวางกำลังใช้ปราบปรามการลักลอบนำเข้ายาเสพติด และสิ่งของผิดกฏหมายอื่นๆ จากประเทศเพื่อนบ้าน
เมื่อเกิดการระบาดของไวรัสโควิด 19 ได้ปรับเพิ่มให้กองกำลังที่วางไว้ตามแนวชายแดนดูแลการลักลอบนำแรงงานเถื่อนผ่านตามช่องทางธรรมชาติ เนื่องจากปัจจุบันมีการอนุญาตให้ผ่านเข้าออกได้เพียงด่านพรมแดนสากลไทย-ลาว ช่องเม็ก อ.สิรินธร ซึ่งอนุญาตให้ส่งออกและนำเข้าเฉพาะสินค้าที่จำเป็น และคนป่วยที่เข้ารับการรักษาในประเทศ แต่ต้องผ่านการตรวจมาจากประเทศต้นทางและจากสถานพยาบาลในประเทศไทย ตามมาตรการป้องกันการระบาดของโรค
ส่วนแรงงานเดิมที่อยู่กับสถานประกอบการ ก็ต้องรับการตรวจดูแลจากสถานประกอบการร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข และต้องอยู่ในพื้นที่ที่กำหนด จะออกนอกเขตไม่ได้ ส่วนแรงงานใหม่ยังไม่อนุญาตให้เข้ามา ทำให้ตั้งแต่มีการปิดด่านเมื่อเดือนมีนาคมจนถึงปัจจุบัน ก็ยังไม่พบมีการลักลอบนำเข้าแรงงานเถื่อนตามแนวชายแดนด้านนี้
เพราะเมื่อมีการปิดจุดผ่อนปรน ด่านประเพณี นอกจากมีกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลเป็นหลักอยู่แล้ว ชุมชนตามจุดจอดเรือตามแม่น้ำโขง ยังร่วมกับ อสม.คอยตรวจตราบุคคลจากนอกชุมชนไม่ให้เดินทางข้ามแดนเข้ามาอย่างเข้มงวดตามนโยบายคณะกรรมการควบคุมโรคระบาด
นายสฤษดิ์ยังกล่าวต่อมา แม้จังหวัดอุบลราชธานีไม่ใช่จังหวัดเป้าหมายในการลักลอบนำเข้าแรงงานเถื่อนเหมือนชายแดนด้านอื่นของประเทศไทย แต่ก็ไม่นิ่งนอนใจมีการเข้มงวดตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ป้องกันไม่ให้ผู้ไม่ผ่านตรวจเข้ามาในประเทศ เพื่อไม่ให้ไวรัสโควิด 19 กลับมาระบาดในพื้นที่อีกครั้ง
สำหรับจังหวัดอุบลราชธานี ตรวจพบผู้ป่วยไวรัสโควิด 19 ครั้งแรกเมื่อกลางเดือนมีนาคม และสามารถควบคุมการแพร่ระบาดในพื้นที่ได้อย่างเบ็ดเสร็จในเดือนพฤษภาคม รวมมีผู้ป่วยทั้งสิ้น 15 คน โดยเป็นผู้ป่วยที่เดินทางมาจากนอกพื้นที่ ปัจจุบันจังหวัดยังเปิดใช้สถานกักกันตัวคนไทยที่เดินทางกลับมาจากประเทศเพื่อนบ้าน และที่ผ่านมายังไม่พบมีผู้ติดเชื้อเพิ่มในขณะนี้ด้วย
เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์ ข่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: