นครพนม – วันที่ 24 ต.ค.61 บรรยากาศงานเทศกาลออกพรรษาไหลเรือไฟจังหวัดนครพนม ประจำปี 2561 บริเวณริมฝั่งโขง ถนนสุนทรวิจิตร เขตเทศบาลเมืองนครพนม คึกคักด้วยผู้คนตั้งแต่เวลา 13.00 น. มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ ต่างจับจองที่นั่งกันจนแน่นถนัด ตั้งแต่หน้าโรงเรียนสันตตยานันท์ ที่เป็นจุดตั้งซุ้มเรือไฟจาก อ.นาหว้า ศรีสงคราม และโพนสวรรค์ เรื่อยลงมาจนถึงโรงแรมฟอร์จูน วิวโขง มีระยะทางกว่า 3 กม.
ข่าวน่าสนใจ:
- วธ.จังหวัดนครปฐมส่งเสริมประเพณี “ลอยกระทง วิถีไทย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ประจำปี 2567 “คืนจันทร์เพ็ญงามอร่ามตา สืบสานรักษาคลองเจดีย์บูชา…
- เทศกาลลอยพระประทีปพระราชทาน สิบสองเพ็ง ไทสกล ปี 2567 จังหวัดสกลนคร
- ‘นครพนม’ เดินหน้าขับเคลื่อน ‘นครพนมโมเดล’ ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อให้ประชาชนมีความสุขที่สุด
- คึกคัก!! อบต.แสนตอ ร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทง 67
ก่อนจะปล่อยเรือไฟลำแรก ได้มีการลอยเรือไฟโบราณ 12 ราศี หลังพระอาทิตย์ตกดิน เรือไฟแต่ละลำเริ่มจุดตะเกียง ลวดลายก็จะปรากฏขึ้นมาอย่างเด่นชัด สำหรับปีนี้ถือว่าโชคดี ท้องฟ้าแจ่มใสไม่มีเมฆหมอกมาบดบังดวงจันทร์ในคืนเดือนเพ็ญ และไม่มีกระแสลมมาพัดตะเกียง ที่จะมาทำลายภาพอันงดงาม จึงทำให้ลวดลายตามจินตนาการของศิลปินเรือไฟ ออกมาสู่สายตาของนักท่องเที่ยวได้อย่างสวยงามยิ่งนัก
เรือไฟจาก อ.นาหว้า ประเดิมเป็นเจ้าแรกถูกปล่อยออกสู่กลางสายน้ำ ตามด้วยเรือไฟของ อ.ศรีสงคราม และเรือไฟจาก อ.โพนสวรรค์ ฯลฯ โดยเรือทุกลำจะมีเจ้าหน้าที่คอยควบคุมตะเกียงนับร้อยคน ยืนอยู่ด้านหลังบนโครงสร้างไม้ไผ่ และขณะที่เรือไฟกำลังไหลก็จะมีการแสดงต่างๆ อย่างอลังการ ทั้งการพ่นไฟของพญานาค บางลำก็จะแสดงภาพเคลื่อนไหว พร้อมกับยิงพลุไฟพะเนียง ประกอบอย่างสวยงาม เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมตลอดเวลา
หลังจากเรือไฟทั้ง 12 ลำ ลอยอวดโฉมความงามอันยิ่งใหญ่จนครบแล้ว คณะกรรมการรวบรวมคะแนน และผลการตัดสินปรากฏว่าเรือไฟขนาดใหญ่ ความยาว 4-61-80 เมตร ประเภทสวยงาม ชนะเลิศที่ 1เรือไฟจาก อ.เมืองนครพนม สามารถรักษาแชมป์ไว้ได้ ส่วนรองชนะเลิศเรือไฟของโพนสวรรค์ ที่ทวงบัลลังก์แชมป์กลับมาครองได้ ส่วนที่ 3 เป็นของ อ.ท่าอุเทน ศิลปินเรือไฟในเรือไฟประเภทนี้ได้แก่ นาย กิตติวัฒน์ ศรีพระจันทร์
เรือไฟขนาดใหญ่ ความยาว 61-80 เมตร ประเภทความคิด ชนะเลิศคว้าถ้วยรางวัลไปครอง ได้แก่ เรือไฟของ อ.นาแก รองชนะเลิศที่สองเป็นของ อ..นาทม และอันสามเป็นเรือไฟ อ.ศรีสงคราม ซึ่งประเภทนี้แชมป์เก่าเป็นของ อ.ศรีสงคราม ที่ครองถ้วยรางวัลติดต่อกันถึง 3 ปีซ้อน ปีนี้พลิกล็อคอย่างมโหฬาร ศิลปินเรือไฟคือ นายไพโรจน์ ทัศคร
ส่วนเรือไฟขนาดเล็ก ชนะเลิศเป็นเรือไฟของ อ.ปลาปาก รองชนะเลิศที่สองเรือไฟ อ.นาหว้า และรองชนะเลิศที่สาม เรือไฟ อ.เรณูนคร ศิลปินเรือไฟขนาดเล็กชื่อ นายเฉลียว สุโทจาก สำหรับซุ้มเรือไฟชนะใจกรรมการคือ อ.เมืองนครพนม ที่คว้าทั้งแชมป์เรือไฟใหญ่ และซุ้มศิลปินเรือไฟไปครอง อันดับสอง อ.ปลาปาก และอันดับ 3 อ.เรณูนคร
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: