X

ทะเลหมอกส่งท้ายปี ละลานตาภูพานน้อย หนองบัวลำภู

หนองบัวลำภู-ปรากฎการณ์สวยงามส่งท้ายปี ที่ท้องฟ้าสว่างตอนเช้าตรู่ จู่ ๆ ก็มีกลุ่มหมอกมหึมาเลื่อนไหลลงมาปกคลุมตัวเมือง จนต้องวิ่งแจ้นขึ้นไปบนเขา ชมความงามทะเลหมอกจากจุดชมวิวที่ใกล้ตัวเมืองที่สุดในประเทศ

ความสวยงามละลานตาของทะเลหมอกก่อนวันสิ้นปี 2560 เกิดขึ้นที่ตัวเมืองหนองบัวลำภู โดยตอนเช้าตรู่ของวันที่ 29 ธ.ค. 2560 ช่วงเวลาประมาณเจ็ดโมงเช้า ขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังขับรถผ่านถนนสายรอบเมืองหนองบัวลำภู ได้สังเกตุทางทิศตะวันออก เห็นดวงอาทิตย์กำลังโผล่ขึ้นเหนือสันเขาภูพาน แต่ก็มีกลุ่มหมอกกระจายตัวบดบังดวงอาทิตย์ ทนไม่ไหวต้องจอดรถเก็บภาพกลุ่มหมอกที่เลื่อนไหลมาจากทางทิศเหนือ เข้าปกคลุมตัวเมืองหนองบัวลำภู จนมองเห็นได้ในระยะไม่เกิน 50 เมตร

ปรากฎการณ์ดังกล่าวเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเป็นทะเลหมอกปกคลุมเมือง ทำให้ต้องมุ่งหน้าขึ้นไปบนเขาภูพาน ที่ลานชมเมือง แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศภูพานน้อย บ้านภูพานทอง ต.หนองบัว อ.เมืองหนองบัวลำภู อยู่ห่างจากตัวเมืองเพียง 8 กม. แล้วสิ่งที่ปรากฎแก่สายตาก็คือ ม่านหมอกที่ปกคลุมตัวเมืองหนองบัวลำภู ตั้งแต่ทิศเหนือจรดทิศใต้ โดยแสงแดดยามเช้าสาดส่องไล่ม่านหมอกจากทิศเหนือ บริเวณพื้นที่ภูเขาเหนือเอ่างเก็บน้ำห้วยเหล่ายาง ให้ค่อย ๆ เลือนไปทางทิศใต้


เมื่อมองจากลานชมวิวภูพานน้อย  ภาพที่เห็นคืออาคารบ้านเรือนเมืองหนองบัวลำภู ที่มีปุยหมอกละเลียดในบริเวณที่ต่ำ และสามารถมองเห็นได้ยาวไกลจนเห็นสุดสายตาเป็นแนวเขาในเขต อ.นาวัง และ จ.เลย ขณะที่แนวเขาภูเก้าภูพานคำ เขต อ.โนนสัง ก็เป็นเงาตะคุ่มอยู่ทางทิศใต้ ซึ่งการเกิดทะเลหมอกในครั้งนี้เริ่มมีนักท่องเที่ยวขึ้นมาเก็บภาพความประทับใจ จนกระทั่งเวลา 08.30 น. ทะเลหมอกก็ค่อย ๆ เลือนหายไปพร้อมกับพระอาทิตย์ที่ขึ้นสูงแล้ว คาดว่าทะเลหมอกครั้งนี้คงเป็นธรรมชาติที่สวยสดงดงามส่งท้ายปี 2560 แน่ ๆ

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of วิโรจน์ คงพุฒิคุณ

วิโรจน์ คงพุฒิคุณ

คนหนองบัวลำภู โดยกำเนิด เข้าสู่แวดวงนักข่าวเมื่อปี 2529 เป็นนักข่าวคนเดียวของอำเภอ กระทั่งปี 1 มกราคม 2536 สถาปนาจังหวัด ก็เลยได้เป็นนักข่าวคนแรกของจังหวัดหนองบัวลำภู โดยปริยายจวบจนทุกวันนี้ ชอบถ่ายภาพ ชอบค้นหา คติประจำใจ "ทำยังไงให้คนรู้ว่านี่คือจังหวัดหนองบัวลำภู" จึงได้ตั้งเฟสบุ๊คกลุ่ม "ที่นี่..เมืองลุ่มภู" ขึ้นมาเพื่อทำให้คนได้รู้จัก