เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 63 เวลา 12.30น. ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19(ศบค.) ได้รายงานข้อมูลพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ประเทศเมียนมา ระลอกที่ 2ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยในรัฐยะไข่ มีผู้ติดเชื้อกว่า 580 ราย ทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ประชุมนายอำเภอเพื่อชี้แจงพร้อมวางแนวทางปฏิบัติในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้อำเภอดำเนินการตั้งด่าน จุดตรวจจุดสกัด และเน้นย้ำด่านความมั่งคง เพื่อป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองของชาวเมียนมา ให้อำเภอติดต่อประสานงานกำชับนายหน้า ตัวแทนผู้ประกอบการแรงงานชาวเมียนมา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และให้อำเภอดำเนินการจัดหาสถานที่กักกันตัว เพื่อรองรับการกักกันตัวของบุคคลต่างด้าวที่หลยหนีเข้าเมือง
สำหรับพื้นที่เกาะสมุย นายธีระพงศ์ ช่วยชู นายอำเภอเกาะสมุย และ พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตม.จ.สุราษฎร์ธานี สั่งการให้ นายสุทธิพงษ์ ทองเรือง ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่งคง ร.ต.อ.อรุณ มูสิกิ้ม รอง สว.ตม.จ.สุราษฎร์ธานี นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบสถานที่ก่อสร้าง และสถานที่พักอาศัยของแรงงาน 3 สัญชาติ ได้แก่ เมียนมา ลาว กัมพูชา เพื่อป้องกันแรงงานที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย พร้อมทั้งตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายแรงงานทุกคน และให้ความรู้การป้องกันโควิด-19 เช่น หมั่นล้างมือหรือทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
จากการตรวจสอบ ไม่พบแรงงาน3สัญชาติที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย ทั้งหมดเป็นแรงงานที่มีใบอนุญาตทำงานถูกต้อง เข้ามาทำงานก่อนที่จะมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และไม่เคยเดินทางออกนอกราชอาณาจักรในช่วงที่มีการแพร่ระบาดแต่อย่างใด และจากการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายของทุกคนมีอุณหภูมิไม่เกิน 37.5 องศาเซลเซียส
