เชียงราย-ความเสียหายกว่า 100 ล้าน เปิดสหกรณ์หลอกชาวบ้านนำโฉนดมากู้เงิน ปิดบัญชีชื่อหลังโฉนดถูกเปลี่ยนมือไปแล้ว เสียทั้งเงินและที่ดิน รวมตัวร้อง DSI นำเข้าเป็นคดีพิเศษ พบความเสียหายวงกว้างหลายจังหวัด เตือนประชาชนให้ระมัดระวัง
เวลา 11.00 น.วันนี้ ที่ห้องประชุมหิรัญนคร สำนักงานอัยการจังหวัดเชียงราย นายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงษ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI,นายอนุสรณ์ วงศ์ใหญ่ อัยการจังหวัดเชียงราย,นายธานินทร์ เปรมปรีด์ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค DSI,นางสาวเปรมกมล ลอรัชวี อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิ์ฯ จ.เชียงราย และ นางนิภัทธรา ตั้งศรีไพโรจน์ อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิ์ฯ จ.พะเยา ร่วมกับ เจ้าหน้าที่สอบสวน DSI ทำการร่วมกันสอบปากคำกลุ่มชาวบ้านที่เสียหาย นำโฉนดที่ดิน ไปเป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันเงินกู้กับ “สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน เชนลิสซิ่ง จำกัด” ซึ่งเมื่อได้ทำการผ่อนชำระเงินกู้ครบถ้วน ไถ่ถอนโฉนดออกมาจากเจ้าหนี้ซึ่งเป็นสหกณ์ กลับพบว่าโฉดที่ใช้ค้ำประกันมีการเปลี่ยนชื่อผู้ถือกรรมสิทธิ์ ไปเป็นของผู้อื่น ซึ่งมีจำนวนผู้เสียหายมาให้ปากคำในวันนี้ถึง 16 รายนายไตรยฤทธิ์ เตมหิวงษ์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่ามีผู้เสียหายในเรื่องดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ซึ่วงส่วนมากจะกระจายอยู่ใน จังหวัดเชียงราย พะเยา แพร่ ลำปาง และชลบุรี ซึ่ง “สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน เชนลิสซิ่ง จำกัด” ได้ไปทำการเปิดสาขาอยู่ จากการการสอบสวนเบื้องต้น ความเสียหายจะมีความละม้ายคล้ายคลึงกัน พฤติกรรมชาวบ้านจะนำหลักทรัพย์ซึ่งเป็นโฉนดที่ดิน หรือ นส 3. ไปเป็นหลักทรัพย์ในการคำประกันวงเงินกู้ และเมื่อครบกำหนดสัญญาพบว่า หลักทรัพย์ได้มีการเปลี่ยนผู้ถือกรรมสิทธิ์ ทำชาวบ้านที่ส่งเงินครบเสียทั้งเงินต้น ดอกเบี้ย และหลักทรัพย์ที่เป็นของตนไปเป็นของบุคคลที่ 3 แล้ว รวมทั้งสิ้นกว่า 300 ราย ซึ่งจะได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดไปใช้ในการดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดต่อไป ในเบื้องต้นแม้จะยังไม่สามารถดำเนินการเอาผิดกับ “สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน เชนลิสซิ่ง จำกัด” ได้ แต่พบว่ามีพฤติกรรมที่อาจจะเข้าข่ายเป็นความผิดฐาน ฉ้อโกง,ฉ้อโกงประชาชน,และหลีกเลี่ยงภาษีอากร มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก จึงรับเป็นคดีพิเศษของ DSIนายไตรยฤทธิ์ ยังได้กล่าวเชิญชวนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ หรือมีความเสียหายกรณีดังกล่าวเกิดขึ้น ให้เข้ามาให้ปากคำซึ่งทีมสอบสวนจะทำการสอบสวน ที่ จ.เชียงราย ถึงวันที่ 26 ตุลาคม 2561 จากนั้นในวันที่ 27-30 ตุลาคม 2561 จะเข้าไปดำเนินการสอบปากคำผู้เสียหายที่ ห้องประชุมตำรวจภูธร จ.แพร่ โดยให้เตรียมหลักฐานประกอบคำให้การเป็น บัตรประชาชน,เอการที่เกี่ยวข้องกับการกู้ยืม,สำเนาหลักทรัพย์ที่ใช้ในการค้ำประกัน,สำเนารายการความเคลื่อนไหวทางบัญชี กรณีที่มีการโอนเงินเข้า-ออก อันเกิดจากการกู้-ยืม,เอกสารการชำระเงินให้กับสหกรณ์,ใบเสร็จรับเงินต่างๆ และวมถึงเอกสารที่เกี่ยวข้องต่างๆ มาให้ครบถ้วน และขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการทำนิติกรรมต่างๆ ให้ตรวจสอบและทำความเข้าใจในเอกสารนั้นๆ อย่างละเอียดด้วย จะเป็นการช่วยบรรเทาความเสี่ยงได้อีกทางหนึ่ง
ข่าวโดย เพทาย บ้านชี
ข่าวน่าสนใจ:
- นักท่องเที่ยวแห่ชมดอกไม้งามดอยตุง ชิมอาหารพื้นถิ่น ถ่ายรูปดอกไม้สวย
- “ปลายฝน ต้นหนาว เคาท์ดาวน์ มิวสิคเฟส สุราษฎร์ธานี” ไฮไลท์ประกวดควายไทยมูลค่ากว่า 10 ล้าน
- สอ.สามัญศึกษาเพชรบูรณ์ประชุมใหญ่ โชว์กำไร 52 ล้าน พร้อมเลือกตั้งกรรมการและผู้ตรวจสอบกิจการ
- บ้านใหญ่พรรคเพื่อไทยเชียงราย เปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ.พร้อมกับนำทีมผู้สมัคร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ทั้ง 36 เขต ในนามพรรคเพื่อไทย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: