ชัยภูมิ – สร้างรายได้เสริมมาช่วยเลี้ยงครอบครัว ทั้งน้อง ตาและยาย สูงเดือนนับหมื่นบาท หลังอยู่ดีๆ มีความชื่นชอบการทอผ้าไทย มาตั้งแต่ชั้น ป.2 จนพยายามฝึกทอผ้าด้วยตนเองมาได้ตั้งแต่ ป.5 ทอโสร่งใส่เองมาตลอดจนปัจจุบันอายุ 17 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.6 !
( 8 ก.ย.63 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีชาวบ้านต่างพากันฮือฮาว่า มีเด็กหนุ่มน้อยวัย 17 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านดอนมะเกลือ บ้านเลขที่ 93 หมู่ 3 ต.หนองคู อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ ที่มีความชื่นชอบการทอผ้าไทยโบราณมาก จนมีความพยายามฝึกทอผ้ามาใช้และสวมใส่เอง รวมทั้งยังสามารถทอขายสร้างรายได้ให้กับตนเอง ทอผ้าขายมาได้ตั้งแต่ชั้น ป.5 และมาช่วยเลี้ยงครอบครัวคนในบ้านที่อยู่กับน้อง ตาและยาย พ่อแม่ไปทำงานต่างถิ่นมาได้จนปัจจุบันนี้
ด้วยการใช้เวลาว่างหลังเลิกเรียนและช่วงวันหยุด เด็กหนุ่มน้อยวัย 17 ปี รายนี้ จะรีบกลับบ้านมาฝึกทอผ้าขายหารายได้พิเศษช่วยเหลือครอบครัว ที่น้องมุ่งมั่นฝึกมาตั้งแต่ชั้น ป.2 และถึงช่วงชั้น ป.5 เขาก็สามารถทำได้จนสำเร็จทอผ้าไทยแบบยากๆ และทอโสร่งสวมใส่เองมาจนปัจจุบัน
โดยหนุ่มรายนี้ ชื่อ นายกิตติพศ อนันต์เต่า หรือน้อง”บอส” อายุ 17 ปี ซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.6/2 โรงเรียนบ้านแท่นวิทยา อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ ที่เจ้าตัวบอกว่า เป็นเรื่องที่ชื่นชอบส่วนตัวมาตั้งแต่เด็กแล้ว หลังเคยเห็นคนนำผ้าไหมทอมือนำมาขาย ก็ถามดูว่ามีราคาเท่าไร ซึ่งผ้าผืนก็ไม่ใหญ่มากยาวไม่กี่ศอกแต่มีราคาสูงกว่า 500 บาท ตั้งแต่นั้นมาจึงคิดอยากลองทอผ้าเองบ้างเพื่อที่จะนำไปขายได้ และเริ่มใช้เวลาว่างช่วงหลังเลิกเรียนมาตั้งแต่ ป.2 มาแอบทอผ้าในห้องเก็บตัวในบ้าน ซึ่งยายเห็นก็ว่าไม่ใช่เรื่องที่ผู้ชายเขาทำกัน แต่ด้วยความชอบจึงพยายามฝึกทอผ้าด้วยตนเองมาตลอด
จนสามารถเริ่มนำไปขายสร้างรายได้เสริม ที่จะประกาศขายผ่าน FB ในนามชื่อของตนเอง เพื่อช่วยผู้ปกครอง ตาและยาย แบ่งเบาภาระ พร้อมยังมีรายได้มาช่วยส่งตัวเองและน้องเรียนได้มาจนปัจจุบัน ซึ่งทำให้มีรายได้มากกว่าเดือนละนับหมื่นบาทเลยทีเดียวได้เงินมา ก็เก็บหอมรอมริบไว้ใช้ซื้อของที่ต้องการไม่เที่ยวเตร่ไม่ชอบแต่งตัว จะชอบใส่มีเพียงผ้าโสร่ง ที่ตัวเองก็ทอขึ้นมาใช้ใส่เอง โดยไม่ต้องเป็นภาระเพิ่มค่าใช้จ่ายให้กับตา ยาย และพ่อแม่ที่ต้องไปหาทำงานต่างจังหวัด เพื่อส่งเงินมาให้ตาและยาย ทุกวันนี้ส่วนหนึ่งก็ทำให้ตนเองก็ภูมิใจที่ทำได้ และสามารถหารายได้มาเลี้ยงดูน้อง และดูแลตา ยายได้
และโดยส่วนตัวหนุ่ม วัย 17 ปี รายนี้ กล่าวย้ำอีกว่า ที่ตนเองชอบกิน (เคี้ยว) หมากและนุ่งโสร่ง แบบคนโบราณมาตั้งแต่เด็กๆ เวลาทอผ้าอยู่บ้านด้วยนั้น ก็เพราะเมื่อตอนเด็กๆ ตา ยาย เคยพาไปเที่ยวคำชะโนด และไปเห็นผ้าไหมสวยดีแต่ราคาแพงมากอยากได้ขึ้นมาจริงๆ แต่ไม่มีเงินซื้อ และยิ่งเห็นคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านทอผ้ามีลวดลายสวยงาม ก็รู้สึกชอบทันที และอยากลองทำดู ก็ทำได้ และก็ทำไปเรื่อยๆ จึงมีความชำนาญขึ้น พอหลังเลิกเรียนหรือวันหยุด ตนจะไม่ไปเล่นที่ไหนจะรีบมาทอผ้าเพราะชอบมากจนเป็นชีวิตจิตใจไปแล้วก็ว่าได้
ซึ่งเดือนหนึ่งทอผ้าไหมได้ประมาณ 5 ผืน ขายได้ผืนละ 1,500 – 2,000 บาท ก็มีรายได้หลักหมื่นแล้วยิ่งทำให้เกิดความภูมิใจ เพราะมีคนเห็นคุณค่าผ้าที่ตัวเองทอ และยังมีการสั่งให้ทอผ้าส่งให้ตามมาเป็นจำนวนมากในปัจจุบัน ที่มีความภูมิใจที่เมื่อตั้งใจได้เรียนรู้ศิลปะการทอผ้าไทย การทอผ้าไหม ที่ต้องบอกว่าทำยากมาก แต่เมื่อหากใครมีความตั้งใจแล้ว ก็เชื่อว่าทุกคนทำได้ เพราะการทอผ้าต้องใช้เวลามีความใส่ใจมีความละเอียดมาก ถึงทำให้ผ้าที่ทอออกมาแต่ละครั้งมีคุณค่ามีราคาสูงด้วย และตนเองจะตั้งใจจะทำไปเรื่อยๆ โดยจะลองฝึกทอผ้าลายที่มีความยากเพิ่มขึ้นเพื่อพัฒนาตนเอง ซึ่งขณะนี้กำลังเก็บเงินสะสมไว้เพื่อซื้อเครื่องมือสาวไหม ที่เป็นแบบมอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อจะช่วยมาทอผ้าส่งลูกค้าได้ทันและรวดเร็วมากขึ้นได้ เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ให้มากขึ้นตามมาในอนาคตที่ยั่งยืนต่อไปได้
ด้านนางทองคูณ ครองพวก อายุ 53 ปี ยายของ หนุ่มวัย 17 ปี รายนี้ กล่าวว่า พ่อแม่น้องบอสไปรับจ้างทำงานต่างจังหวัด ให้บอสและน้องชายอีกคนอยู่กับตนเองเลี้ยง ซึ่งทุกวันหลังเลิกเรียน น้องบอสก็จะรีบมากลับมาบ้าน เพื่อทอผ้าทันทีเมื่อตนเองว่าง แรกๆ ก็หัดทอจากลายผ้าง่ายๆ ก่อน ต่อมาก็มีการพัฒนาฝีมือเป็นลายผ้าที่ยาก เขาก็สามารถทำได้ดี และส่งขายได้ และสำหรับเด็กอายุแค่ 17 ปี ทุกวันนี้ยายก็ถือว่าเป็นเด็กดีแล้ว และยังมีนิสัยร่าเริง มีน้ำใจ ช่วยเหลืองานบ้านเรียบร้อยทุกอย่าง ตนเองก็ภูมิใจในตัวหลานคนนี้มาก ขอให้เด็กทุกคนตั้งใจเป็นคนดีได้เห็นลูกหลานภูมิใจต่อคุณค่าของความเป็นไทยผ้าทอของมือไทยที่มีคุณค่ามาได้ทุกวันนี้ก็ดีใจแล้ว
