เชียงราย-นายอำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย ไฟเขียว เดินหน้าพิจารณาให้ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 15 และวิทยาลัยการอาชีพเวียงเชียงรุ้ง ถอนสภาพที่ดินสาธารณประโยชน์ ทุ่งเลี้ยงสัตว์ และใช้ที่ดินของรัฐ ได้ เพื่อขยายวิทยาเขต 2 สถาบันการศึกษาในพื้นที่ บ้านห้วยเกี๋ยง หลังจากที่เคยมีมวลชนออกมาสอบถามความเหมาะสมและผลกระทบ แต่ได้ข้อยุติรอการประชาคมต่อไป
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 10 กันยายน 2563 นายปกรณ์ สุริวรรณ นายอำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย ได้มอบหมายให้นายกฤษฎา ชัยยา ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง เป็นประธานการประชุมคณะทำงานการพิจารณาความเหมาะสมเกี่ยวกับการใช้ที่ดินของรัฐ กรณี โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 15 (เวียงเก่าแสนภูวิทยาประสาท) และวิทยาลัยการอาชีพเวียงเชียงรุ้ง ขอถอนสภาพที่ดินสาธารณประโยชน์ ตามมาตรา 8 และขอใช้ที่ดินของรัฐ(ที่สาธารณะประโยชน์) ตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งเป็นทุ่งเลี้ยงสัตว์ ณ ห้องประชุมอำเภอเชียงแสน ชั้น 2 โดยที่ประชุมได้ร่วมกันพิจารณาและได้กำหนดแนวทางในการดำเนินการ ดังนี้
1.ให้เทศบาลตำบลเวียงและเทศบาลตำบลเวียงเชียงแสน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 15 วิทยาลัยการอาชีพเวียงเชียงรุ้ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันบริหารจัดการขยะให้ได้มาตรฐานและจะไม่มีการเคลื่อนย้ายบ่อขยะไปยังพื้นที่ป่าชุมชนของหมู่บ้าน
2.กลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์ยินยอมและไม่ขัดข้องที่จะมีการขอใช้พื้นที่บริเวณดังกล่าว
3.ความเหมาะสมของขนาดพื้นที่ที่ต้องการขอใช้ เห็นว่ามีความเหมาะสมโดยใช้พื้นที่ตามจำนวนที่ยื่นคำขอต่อสำนักงานที่ดินจังหวัดเชียงราย สาขาเชียงแสน (โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ จำนวน 48 ไร่ วิทยาลัยการอาชีพเวียงเชียงรุ้ง จำนวน 50 ไร่) ทั้งนี้ ให้นำเรื่องการขอใช้พื้นที่ดังกล่าว เข้าสู่การประชุมประชาคมของราษฎรในหมู่บ้าน ตำบล และประชุมสภาท้องถิ่น ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการถอนสภาพฯ และระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการอนุญาตตามมาตรา 9 แห่งประมวลกฎหมายที่ดินต่อไป
ก่อนหน้านี้มีกลุ่มผู้เลี้ยงกระบือ และประชาชนในพื้นที่ประมาณ 30 ราย ออกมาสอบถามถึงความเหมาะสมในการตั้งสถาบันการศึกษา 2 แห่ง บนทุ่งเลี้ยงสัตว์ บ้านห้วยเกี๋ยง ตำบลเวียง อ.เชียงแสน เนื้อที่มีรวมทั้งหมด 980 ไร่ ซึ่งมีบ้านพักราชการ และมีบ่อขยะของเทศบาลตำบลเวียง และ ตำบลเวียงเชียงแสนในพื้นที่นี้ เหลือ 300 กว่าไร่ จะแบ่งมาทำสถานศึกษา รวมราว 100 ไร่ งบก่อสร้าง รวมราว 300 ล้านบาท ว่าจะใช้งบประมาณคุ้มค่าหรือไม่ และส่งผลต่อผู้เลี้ยงกระบืออย่างไร แต่เมื่อทางอำเภอ และหลายฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน คงจะมีการนำเรื่องนี้เข้าสู่ประชาคมระดับตำบลต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: