ชัยภูมิ – กฟผ. เพิ่มศักยภาพเขื่อนจุฬาภรณ์ เสริมความมั่นคงการผลิตไฟฟ้าให้ประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสานให้มีศักยภาพมากขึ้น
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ร่วมกับ บริษัท ปัญญา คอนซัลแตนท์ จำกัด เปิดเวทีให้ชาวชัยภูมิและขอนแก่น เข้าร่วมประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 1 โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำจุฬาภรณ์แบบสูบกลับ และระบบโครงข่ายไฟฟ้า เพื่อเป็นแหล่งกักเก็บพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานน้ำ เสริมความมั่นคงระบบไฟฟ้าของประเทศได้อีกจุด อย่างยั่งยืนตามมาในอนาคตได้อีกทาง !
ข่าวน่าสนใจ:
- กฟผ.แม่เมาะ มอบความสุข สไตล์บาหลี อินโดนีเซีย ในงานฤดูหนาวและของดีนครลำปาง
- "เลยดั้น" แค่มุมภาพเดียว กลายเป็นไวรัล ดึงดูด นทท.แห่เช็คอินถ่ายภาพ อ.น้ำหนาวเตรียมดันเป็นซอฟพาวเวอร์
- ขอนแก่น พร้อมจัด " Khonkaen Countdown 2025 Rise Beyond" ขอนแก่น พุ่งทะยานสู่อนาคต อย่างยิ่งใหญ่ คาดเงินสะพัด 50 ล้านบาท
- ขอนแก่นเข้มต่อเนื่อง!!เปิดปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด รวบคู่รักนักค้ายา หลังฝ่ายชายเพิ่งพ้นโทษจากเรือนจำ
โดยเวทีครั้งนี้จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 12 – 13 กันยายน 2563 เพื่อเปิดให้ประชาชนในพื้นที่ได้มีส่วนร่วม ในการนำความคิดเห็นที่ได้ ไปกำหนดขอบเขตการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพิ่มเติม ให้ครบถ้วนรอบด้านครอบคลุมทุกมิติ เพื่อจะให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนโดยรวมมากขึ้น ทั้งต่อการกำหนดขอบเขตการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำจุฬาภรณ์แบบสูบกลับ และระบบโครงข่ายไฟฟ้า 230 กิโลโวลต์ โดยมีประชาชนในพื้นที่ศึกษา ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน หน่วยงานราชการ สถานศึกษา องค์กรเอกชนด้านสิ่งแวดล้อม สื่อมวลชน ตลอดจนประชาชนทั่วไป เข้าร่วมเวทีฯ
ซึ่งวันที่ 12 กันยายน 2563 มีนายเสกสรร สวัสดิ์ศรี นายอำเภอคอนสาร เป็นประธานการรับฟังความคิดเห็นงโครงการระบบโครงข่ายไฟฟ้า 230 กิโลโวลต์ ช่วงที่ผ่านพื้นที่อนุรักษ์ ณ หอประชุมโรงเรียนทุ่งลุยลาย (กฟผ.อุปถัมภ์) ต.ทุ่งลุยลาย อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ
ส่วนวันที่ 13 กันยายน 2563 นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นประธานการรับฟังความคิดเห็น โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำจุฬาภรณ์แบบสูบกลับ ณ อาคารอเนกประสงค์ โรงเรียนคอนสารวิทยาคม อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ซึ่งมีตัวแทนภาครัฐและประชาชนในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ และ จ.ขอนแก่น เข้าร่วม จำนวน 702 คน มีผู้แสดงความคิดเห็นด้วยวาจา 24 คน ซึ่งเป็นผู้แทนจากประชาชนใน อ.คอนสาร อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ และ อ.ภูผาม่าน อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น
นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า ในปัจจุบัน พลังงานไฟฟ้าเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต ทั้งยังเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศ โครงการนี้จะเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนา แก่จังหวัดชัยภูมิและใกล้เคียงตามมาได้อีกจำนวนมาก ที่ กฟผ. เล็งเห็นถึงความสำคัญของการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยดำเนินการศึกษาโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำจุฬาภรณ์แบบสูบกลับ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านระบบไฟฟ้า ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ การประชุมรับฟังความเห็นครั้งนี้ เปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่ ร่วมแสดงความคิดเห็นและข้อห่วงกังวลเพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมครบถ้วนทุกด้าน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อชาวชัยภูมิและชาวขอนแก่น ในอนาคตอย่างยั่งยืนต่อไปได้
ด้านนางศรีวรรณ บูรณโชคไพศาล ผู้ช่วยผู้ว่าการแผนงานโรงไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวขอบคุณผู้เข้าร่วมประชุมทั้ง 2 เวที โดยข้อมูลและข้อคิดเห็นต่าง ๆ ล้วนมีคุณค่าต่อการกำหนดขอบเขตการศึกษาและจัดทำรายงาน การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ให้มีความสมบูรณ์ เหมาะสมกับประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุด ต่อโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำจุฬาภรณ์แบบสูบกลับ ที่มีกำลังผลิตติดตั้ง 800 เมกะวัตต์ อยู่ในขั้นตอนการวางแผนและศึกษา เพื่อผลักดันสู่แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อทำหน้าที่เป็นแบตเตอรี่เก็บกักพลังงานขนาดใหญ่ ใช้ผลิตไฟฟ้าในช่วงความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงที่จะเป็นการเข้ามาช่วย เสริมความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าให้กับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ยั่งยืนและของประเทศไทยต่อไปได้
โดยการดำเนินการก่อสร้างเขื่อนปิดกั้นลำน้ำสุ (อ่างเก็บน้ำตอนล่าง) ซึ่งอยู่ท้ายน้ำโรงไฟฟ้าเขื่อนจุฬาภรณ์ประมาณ 5 กิโลเมตร ในช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าต่ำ โรงไฟฟ้าจะทำการสูบน้ำบางส่วนกลับขึ้นไปเก็บไว้ในอ่างเก็บน้ำเขื่อนจุฬาภรณ์ (อ่างเก็บน้ำตอนบน) แล้วระบายน้ำผ่านโรงไฟฟ้าใต้ดินอีกครั้ง เพื่อผลิตไฟฟ้าในช่วงที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง ถือเป็นการใช้ทรัพยากรน้ำให้เกิดประโยชน์สูงสุด
สำหรับการดำเนินการปรับปรุงระบบโครงข่ายไฟฟ้าเดิม จาก 115 กิโลโวลต์ เป็น 230 กิโลโวลต์ จะไม่มีการขยายแนวเขตระบบโครงข่ายไฟฟ้าเพิ่มเติม ทั้งนี้ โครงการฯใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 8 ปี จะก่อให้เกิดการใช้จ่ายและกระตุ้นเศรษฐกิจในท้องถิ่น รวมถึงการจ้างงานให้กับชุมชน เมื่อเปิดดำเนินโครงการฯ และยังสามารถพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว เพิ่มโอกาสสร้างรายได้และอาชีพแก่ชุมชน อีกทั้งยังได้รับงบประมาณในการพัฒนาชุมชนจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้าได้อีกด้วย
ขณะที่ นายชูลิต วัชรสินธุ์ ผู้จัดการโครงการ บริษัท ปัญญา คอนซัลแตนท์ จำกัด ระบุว่า การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งนี้ บริษัทฯ ได้นำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดโครงการ และรายละเอียดขอบเขตการศึกษาประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมในทุกมิติ พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่ริมลำน้ำพรมและริมลำน้ำเชิญ รวมถึงส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น องค์กรเอกชน สถาบันการศึกษา สื่อมวลชน และประชาชนทั่วไป ได้ร่วมแสดงความคิดเห็น
สำหรับสิ่งที่ประชาชนมีความกังวล ได้แก่ การบริหารจัดการน้ำโดยเฉพาะในช่วงภัยแล้ง เพื่อให้ชุมชนมีน้ำใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคและเกษตรกรรม การบริหารจัดการกองทุนพัฒนาโรงไฟฟ้า การจ้างแรงงานในพื้นที่ การดูแลความปลอดภัยทางถนนในช่วงการก่อสร้าง การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่ การดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและบูรณาการพื้นที่ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชุมชน ซึ่งทุกข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของประชาชน นับว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง บริษัทที่ปรึกษา จะรวบรวมข้อมูลข้อเสนอแนะที่ได้ไปกำหนดขอบเขตการศึกษา ของการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำจุฬาภรณ์แบบสูบกลับและระบบโครงข่ายไฟฟ้า จ.ชัยภูมิ เพิ่มเติมให้ครบถ้วนต่อไป
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมต่อการพัฒนาโครงการฯได้อีก จนถึงวันที่ 28 กันยายน 2563 โดยส่งข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะได้ที่ นางสาวชมภู ภาคภูมิ (นักวิชาการประชาสัมพันธ์) โทรศัพท์ 02-943-9630 ต่อ 1624 โทรสาร 02-943-9614 บริษัท ปัญญา คอนซัลแตนท์ จำกัด อาคารเดอะปัณณ์ เลขที่ 125 ถนนคลองลำเจียก แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ 10230 หรือ Email : [email protected]
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: