รถเป็นซากอยู่อู่หลายปีแต่มีใบสั่งมาให้ไปชำระ แม่ค้าก๋วยเตี๋ยวนำเก๋งไปเข้าอู่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว แต่ทางอู่ไม่ยอมซ่อมให้ อยู่ๆ มีใบสั่งมาให้ไปชำระค่าปรับ
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนางทองใบ ทองปาน อายุ 46 ปี ว่าตนเองได้รับใบสั่งให้ไปชำระค่าปรับฐานขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ทั้งๆที่รถนำไปซ่อมเป็นซากอยู่ที่อู่ โดยในใบสั่งระบุรถยนต์ฮอนด้า สีแดง หมายเลขทะเบียน กง 9818 จันทบุรี ระบุชื่อนางทองใบ ทองปาน เป็นเจ้าของรถได้ถูกใบสั่งขับรถเร็ว 124 กม./ชม. เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2563 บริเวณถนนทางหลวงสาย 317 ตำบลปัถวี อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี หลังมีใบสั่งส่งไปให้ที่บ้านเกิดในจังหวัดร้อยเอ็ด ทั้งที่รถยนต์ของตนเองนำไปซ่อมและยังอยู่ในอู่มานานมากแล้ว จึงได้เดินทางมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และพาตำรวจพร้อมผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังอู่ประจักร ในพื้นที่ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี และพบว่ารถยนต์เก๋งซีวิคของตนเองยังจอดอยู่ที่อู่ แต่สภาพรถถูกถอดอะไหล่ไปแล้วหลายชิ้น และไม่พบเจ้าของอู่แต่อย่างใด ด้านนางทองใบยังเล่าอีกว่า ตนเองได้นำรถฮอนด้าซีวิค สีแดง หมายเลขทะเบียน กง 9818 จันทบุรี ได้นำรถไปซ่อมปะผุและเปลี่ยนสีเป็นสีเขียว ที่อู่ช่างประจักร ที่ตั้งอยู่ซอยสมอทอง ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี เมื่อปี 2557 ซึ่งทางอู่ประเมินราคาค่าใช้จ่ายไว้ 30,000 บาท ซึ่งทางอู่ได้ขอเบิกเงินโดยอ้างว่าจะนำไปซื้ออะไหล่ครั้งละ 4,000-5,000 บาท โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาเข้าไปดูรถโดยตลอด แต่ทางอู่ไม่ได้ทำรถให้อ้างว่ารออะไหล่ และพบว่ารถยังจอดอยู่สภาพเดิม จนปี 2560 ได้มีการพูดคุยกับช่างว่าจะขายรถยนต์คันนี้เพราะถูกทางอู่ถอดชิ้นส่วนออกไปหลายชิ้น ทำให้ระหว่างที่รอนั้นก็เกิดความท้อใจ และคิดจะไม่เอารถคันนี้แล้ว จึงได้ติดต่อทางอู่จะขอเงินคืนและจะลากรถกลับไป แต่ถูกทางอู่บ่ายเบี่ยงมาตลอด หลังจากปี 2561 ก็คิดว่าไม่ได้เงินคืนและสภาพรถก็ใช้ไม่ได้แล้วแน่นอนจึงได้ปล่อยรถทิ้งไป
จนมาล่าสุด วันที่ 10 กันยายน 2563 ได้มีใบสั่งส่งมาที่บ้านเกิดที่จังหวัดร้อยเอ็ดว่ารถยนต์ ฮอนด้าซีวิค สีแดง หมายเลขทะเบียน กง 9818 จันทบุรี ที่ระบุชื่อนางทองใบ ทองปาน เป็นเจ้าของรถได้ถูกใบสั่งในข้อหาขับรถเร็ว 124 กม./ชม. เมื่อวันที่ 4 กันยายน 2563 บริเวณถนนทางหลวงสาย 317 ตำบลปัถวี อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี แต่ในใบสั่งเป็นรูปรถเก๋งฮอนด้า สีขาว หมายเลขทะเบียน กง 9818 จันทบุรี ซึ่งทำให้ตนเองตกใจมาก เพราะรถหมายเลขทะเบียนดังกล่าวตนเองไม่เคยได้ใช้แถมเป็นซากมานานกว่า 6 ปีแล้ว และสีรถในใบสั่งก็เป็นคนละสีกัน จึงได้เดินทางมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองจันทบุรี เพราะคาดว่าจะมีการนำป้ายทะเบียนไปสวมหรือ มีการนำซากรถของตนเองไปขายและสวมทะเบียนหรือไม่ และกลัวว่าจะมีการนำไปรถไปขนยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมาย เดือดร้อนมาถึงตนเอง
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง คู่ซี้ พระ-ฆราวาส เมาแอ๋ด่าทอชาวบ้านใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อาละวาดอ้างมีปืน ทำชาวบ้านแตกตื่น ตร.หิ้วปีกบังคับสึก กร่างไม่เลิกบอกรู้จักพระผู้ใหญ่
- ตรัง สับปะรดทอด-ข้าวเม่าทอด ดาวเด่นประจำร้านสมพร รสชาติอร่อย ราคาเป็นกันเอง
- เพชรบูรณ์ - ผู้การตำรวจฯย้ำ! แผนรับมือ"ทริปน้ำไม่อาบ" เน้นบังคับใช้กฎหมายหากพบทำผิด
จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามและตรวจสอบเอกสารการครอบครองรถว่าตรงกันหรือไม่ ทั้งนี้เพื่อการทำงานที่รวดเร็วทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำผู้เสียหายไปตรวจสอบที่อู่ที่ผู้เสียหายนำรถมาซ่อมภายในซอยสมอทอง ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี เพื่อตรวจสอบว่ารถยนต์ยังอยู่หรือไม่ เมื่อเดินทางมาถึงพบว่าทางอู่ปิดกิจการไปแล้ว พบเพียงรถยนต์เก๋งของผู้เสียหายที่ช่างได้เปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้ว จอดอยู่ แต่ไม่พบเจ้าของอู่แต่อย่างใด ทางพนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกเจ้าของอู่มาสอบสวนเรื่องป้ายทะเบียนและเจรจาชดใช้ค่าเสียหาย กรณีที่นำรถมาซ่อมแล้วไม่เสร็จ และสืบค้นข้อมูลว่าผู้ที่ขับขี่รถยนต์เก๋งสีขาวหมายเลขทะเบียน กง 9818 จันทบุรี เป็นใคร และประสานสำนักงานขนส่งจังหวัดจันทบุรีตรวจสอบว่ารถคันดังกล่าวมีเอกสารถูกต้องหรือไม่ และฝากถึงผู้ที่ขับรถยนต์เก๋งฮอนด้า สีขาว หมายเลขทะเบียน กง 9818 จันทบุรีนำเอกสารรถมายืนยันและตรวจสอบความถูกต้องของป้ายทะเบียน ที่ปรากฎในใบสั่งต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: