ราชบุรี ในวันนี้(16 ก.ย.63) ชาวบ้านในหมู่ 1 ต.น้ำพุ อ.เมือง จ.ราชบุรี กว่า 50 คน ได้มารวมตัวกันที่บริเวณหน่วยปฎิบัติการพิเศษ(นปพ.) ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสายน้ำพุ-ชัชป่าหวาย หมู่ 1 ต.น้ำพุ เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาดำเนินการนำบรรทุกสารเคมีจำนวน 2 คัน ที่จอดอยู่ในพื้นที่ของหน่วยปฎิบัติการพิเศษ(นปพ.) ออกไปจากพื้นที่ หรือให้เร่งนำไปกำจัด หลังมีการจับกุมรถบรรทุกสารเคมี 2 คันนี้ได้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา แล้วนำมาฝากจอดไว้ จนสารเคมีบนรถนั้นกัดกร่อนถังที่บรรจุมา จนเกิดการรั่วไหลลงสู่พื้นดิน และกัดกร่อนทำให้ตัวรถนั้นเริ่มผุ ส่วนพื้นดินบริเวณที่สารเคมีไหลลงมาก็มีสีดำ ต้นหญ้าตายหมด น้ำจากสารเคมียังไหลลงไปตามร่องน้ำข้างถนนด้วย นอกจากนี้ยังส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณจนชาวบ้านในพื้นที่นั้นทนไม่ไหว ต้องไปร้องที่ อบต.น้ำพุ ให้ช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยดำเนินการให้โดยด่วน แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มีหน่วยงานเข้ามาดำเนินการแต่อย่างใด
จากการสอบถามนายนิวัฒน์ ชัชวาลย์ อายุ 46 ปี ชาวบ้านในตำบลน้ำพุ ก็บอกว่าจากการเฝ้าระวังของชาวบ้านพบรถต้องสงสัย 2 คันนี้ จึงได้แจ้งให้ นายก อบต.น้ำพุ จับกุมไว้ตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา หลังจากการจับกุมแล้ว ก็ได้มีการนำรถต้องสงสัยมาจอดไว้ที่นี่ และเมื่อมีหน่วยงานมานำตัวอย่างสารที่พบบนรถไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นสารเคมีอันตรายจริง แต่เมื่อนำมาจอดก็ไม่มีการดำเนินการใดๆ จนถึงวันนี้ ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงได้รับความเดือดร้อน จึงอยากวอนให้หน่วยงานได้เร่งนำรถบรรทุกสองคนนี้ไปดำเนินการได้แล้ว
ด้านนายนเรส บุตรตา อายุ 49 ปี ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงกับที่จอดรถบรรทุกสารเคมีก็บอกว่า กลิ่นเหม็นจากสารที่อยู่บนรถนั้นรุนแรงมาก และเหม็นมานานแล้วตั้งแต่มีรถมาจอด และในช่วงที่มีฝนตกก็จะมีน้ำสีดำไหลลงจากรถและไหลลงสู่ลำคลองข้างทาง ก็อยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มาทำการย้ายรถออกไป โดยจะนำไปกำจัดหรือเอาไปทำอะไรก็ได้ ซึ่งสภาพของทั้งสองคันนี้ก็ถูกสารกัดกร่อนจนพุพังแล้ว และอยากให้มีการตรวจสอบด้วยสารเหล่านี้มาที่นี่ได้อย่างไร ในเมื่อเป็นสารอันตราย และใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งที่ผ่านมาเวลาจับกุมแล้วก็จะปล่อยทิ้งไม่มีการดำเนินการใดๆ ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน
สำหรับรถบรรทุกสารเคมีนั้นเป็นรถบรรทุกของบริษัทแวกซ์กาเบ็จ รีไซค์เคิล จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากจุดที่จอดรถประมาณ 3 กิโลเมตร ซึ่งบริษัทดังกล่าวนั้นถูกศาลสั่งให้ดำเนินกิจการชั่วคราว แต่ยังมีการลักลอบนำสารเคมีมากลบฝัง จนทำให้ชาวบ้านนั้นได้รับผลกระทบจากน้ำใต้ดินที่ใช้การไม่ได้เนื่องจากมีกลิ่นเหม็น จึงได้มีการร้องเรียนมาตลอด 19 ปี และมีแนวโน้มว่าปริมาณสารเคมีใต้ดินในชั้นน้ำบาดาลนั้นจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และแพร่กระจายขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ และทางกรมทรัพยากรน้ำบาดาลก็ได้มีการตรวจสอบแล้วพบว่าในน้ำมีการปนเปื้อนสารเคมี ชนิดสารอินทรีย์ระเหยง่ายในแหล่งน้ำบาดาลจริง จึงต้องมีการดำเนินการตามกฎหมายกับทางโรงงานและจะต้องหาแนวทางในการฟื้นฟูแหล่งน้ำให้กลับมาใช้ได้เหมือนเดิมด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
- ผกร.ป่วนไม่เลิก!วางบึ้ม 5 (แตก 4, กู้ 1) ทางไปสนามบิน
- มหกรรมไม้ดอกอาเซียนเชียงราย
- ตรัง คู่ซี้ พระ-ฆราวาส เมาแอ๋ด่าทอชาวบ้านใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อาละวาดอ้างมีปืน ทำชาวบ้านแตกตื่น ตร.หิ้วปีกบังคับสึก กร่างไม่เลิกบอกรู้จักพระผู้ใหญ่
- มหกรรมอาหารทะเลพื้นบ้านประมงเรือเล็กระยอง อาหารทะเลสดๆ-สินค้าชุมชน ชมคอนเสิร์ตศิลปินชื่อดัง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: