กำนันยื่นหนังสือไล่พระปางมะโอ ส่งกลิ่นอิทธิพลในเครื่องแบบ
ม็อบกำนันไล่พระนักพัฒนาส่งผล ผู้ว่าฯ ตั้งกรรมการสอบ ชาวบ้านในโครงการแก้ปัญหาที่ดินเตรียมเดินทางเข้าพบนายกรัฐมนตรีใน ครม.สัญจร ที่เชียงรายขอความเป็นธรรมให้พระพระนักพัฒนาวัดปางมะโอโดนหนัก ก่อนหน้านี้ ถูกกล่าวหาเป็นแก๊งต้มตุ๋นหลอกลวงชาวบ้านออกเอกสารสิทธิ์ที่ดินหวังรีดเงินก้อนโตใส่กระเป๋า ถูกลอบยิงจนกุฏิพรุนตำรวจไม่ดำเนินการ ล่าสุดกลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้านในตำบลแม่พุงเข้ายื่นหนังสือขับไล่ออกจากวัดเป็นการเปิดหน้าสู้ของกลุ่มไม่พอใจวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงวันที่ 31 ตุลาคม
ผู้สื่อข่าว รายงานจากจังหวัดแพร่ วันที่ 28 ตุลาคม ถึงความคืบหน้าหลังจากนายบุญเทียม วงศ์ปินตา กำนันตำบลแม่พุง นายรัก มังคะลา อดีตกำนัน ต.แม่พุง อ.วังชิ้น จ.แพร่ พร้อมด้วย สมาชิกกองทุนหมู่บ้านบางส่วนราว 20 คน เข้ายืนหนังสือขับไล่พระฐาปนพงษ์ ฐานิสโร รักษาการณ์เจ้าอาวาสวัดปางมะโอ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา หลังจากนายสกุลไชย จุมทอง นายอำเภอวังชิ้น ได้รับเรื่องร้องเรียนได้รายงานให้นายพงษ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ทราบไปแล้วนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ได้มีคำสั่งเร่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในคำกล่าวหาของกำนันตำบลแม่พุงโดยเร่งด่วน
กำหนดให้เชิญผู้เกี่ยวของเข้าประชุมที่ห้องประชุมอำเภอวังชิ้นในวันที่ 31 ตุลาคมนี้
นายอดุลย์ มูลเมือง ชาวบ้านปางมะโอ หมู่ 12 ต.แม่พุง อ.วังชิ้น จ.แพร่ กล่าวว่า ชาวบ้านไม่ทราบเรื่องที่จะมีการประท้วงไล่พระเลย ยังคงเข้าสวนทำนาช่วงนี้เกี่ยวข้าว อยู่ๆ ก็ทราบจากข่าวว่าชาวบ้านปางมะโอไปประท้วงไล่พระออกจากวัดรู้สึกแปลกใจและตกใจมาก ในเมื่อพระมาทำให้วัดเจริญ เพียง 8 เดือน มีศรัทธาร่วมทำให้วัดเจริญขึ้นอย่างมาก มีหอระฆัง มีโรงทาน เกิดขึ้นวัดสะอาดสะอ้าน มีญาติโยมมาทำบุญกันเพิ่มขึ้น นอกจากนั้นยังมีการนำเอาปัญหาของชาวบ้านเข้ามาตั้งวงพูดคุยเพื่อนำไปสู่การแก้ไข สิ่งที่แก้ไขได้แล้วอยู่ระหว่างการดำเนินการของทางราชการ คือ การแก้ปัญหาที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิ์ โดยผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ตั้งคณะทำงานร่วมกับชาวบ้านแก้ปัญหามีนายธีระ เงินวิลัย ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นประธาน คณะกรรมการภาครัฐประกอบด้วย หัวหน้าสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดแพร่ ฝ่ายปกครอง ที่ดินจังหวัด ป่าไม้ ร่วมกันพิจารณาจนมีทางออกและเห็นปัญหาที่ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถตัดไม้สักสวนป่าได้ตามกฎหมาย เพราะปัญหาการกำหนดแนวเขตป่าที่ทับซ้อนกับที่ทำกิน งานที่กำลังทำอยู่คือการฟื้นฟูลุ่มน้ำห้วยกะบาน เป็นพื้นที่เกษตรอินทรีย์โดยเน้นไปที่ทุเรียนแร่ทองคำ เป็นไปตามยุทธศาสตร์และนโยบายของรัฐบาลปัจจุบัน งานที่กำลังช่วยชาวบ้านอีกงานคือการแก้ปัญหากองทุนหมู่บ้าน ซึ่งมีการทำงานแบบผูกขาดไม่เป็นไปตามระเบียบซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบของหน่วยงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง การแก้ปัญหาปลูกไม้สักแล้วตัดแบบถูกกฎหมายไม่ได้เป็นช่องทางหากินของพวกไม้เถื่อนที่มีกลไกรัฐอยู่เบื้องหลัง ได้ถูกเปิดโปงและนำไปสู่การแก้ไขแล้ว เจ้าหน้าที่หลายคนถูกย้ายออกนอกพื้นที่ สิ่งที่ตามมาคือการลักลอบตัดไม้สวนป่าจากกลุ่มอิทธิพล ทำไม่ได้ในช่วงนี้ และคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านจะต้องปล่อยเงินกู้ในขณะที่เงินคืนไม่มีไม่สามารถแก้หลักฐานได้ ตรงนี้ต่างหากที่เป็นแรงกดดันให้มีการยื่นหนังสือขับไล่พระให้ออกไปจากวัดปางมะโอ
นายชาญ เพชรฉลอง ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านปางมะโอ อยู่บ้านเลขที่ 88/1 หมู่ 12 ต.แม่พุงกล่าวว่า ข้อร้องเรียนพระนั้นอ้างว่าพระหลอกลวงชาวบ้านรีดเงินชาวบ้าน การบริจาคเงินเข้าวัดไม่โปร่งใส สร้างความแตกแยก เรื่องนี้ความจริงแล้วชาวบ้านปางมะโอต่างหากที่ไปขอความช่วยเหลือจากพระในการต่อสู้กับผู้มีอิทธิพลและกลุ่มราชการที่มีผลประโยชน์ในชุมชนกรณีการเก็บเงินเพื่อแก้ปัญหาที่ดิน ที่เป็นประเด็นนั้น เรื่องนี้ชาวบ้านปางมะโอเป็นผู้ออกมาขอให้พระช่วยแก้ปัญหา และ ได้ตั้งกรรมการแก้ปัญหาที่ดินขึ้นมามีจำนวน 12 คน มีนายจรัญ สุนันต๊ะ เป็นที่ปรึกษาด้วย การเก็บเงินมาจากการไม่มีเงินของชาวบ้านไม่ว่าผู้นำหรือชาวบ้านต่างไม่มีเงิน การทำงานจำเป็นต้องเดินทาง ต้องต้อนรับ จำเป็นต้องซื้ออุปกรณ์ ในเวทีประชาคม และการเดินสำรวจที่ดิน หลังตั้งกรรมการแล้วได้สอบถามในที่ประชุมสำหรับประชาชนที่เข้าร่วมโครงการต้องช่วยกันบริจาคเงินคนละ 50 บาท / ที่ดิน 1 แปลงถ้าใครมี 2 แปลง ก็เสียงเงิน 100 บาท นำมาเป็นทุนในการทำงาน เงินจำนวนนี้ได้ใช้แล้วโดยนำไปเป็นค่าใช้จ่ายไปยื่นหนังสือ นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รมช.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่จังหวัดน่าน ไปออกรายการสถานีประชาชน โทรทัศน์ไทยพีบีเอส รับรองเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาช่วยงาน ทำอาหารกลางวันเลี้ยง เราต้องรับแขกผู้ใหญ่ที่เข้ามาช่วยจำนวนมาก ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและคณะ ผู้ตรวจการแผ่นดิน และทีมงานแก้ปัญหาที่ดินภาคเหนือ (พีมูบ) รวมทั้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้และ สปก.ได้เข้ามาช่วยในการทำงาน ประเด็นเหล่านี้หรือที่เป็นเรื่องหลอกลวง ดังนั้นการที่จะเรียกไปสอบสวนหาข้อเท็จจริง ควรนำผู้ที่ไปประท้วงมาทั้งหมด แล้วให้ถามเป็นข้อๆ ที่สงสัย ชาวบ้านจะเป็นผู้ตอบเอง เรื่องนี้เชื่อว่ามีกลุ่มกำนันผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่ของรัฐในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการแก้ปัญหาต่างๆ ดังกล่าวให้ถูกต้องทำให้กลุ่มที่ได้ผลประโยชน์จากชาวบ้านหมดโอกาสได้ผลประโยชน์ จึงออกมาประท้วงซึ่งผู้ที่มาประท้วง มีอดีตกำนัน และ เลขากองทุนหมู่บ้านในชุมชน คนส่วนใหญ่มาจากหมู่บ้านอื่นรวมทั้งกำนันก็มาจากหมู่บ้านวังกวาง ไม่ใข่ปางมะโอ การขับไล่ครั้งนี้ขอให้ทางราชการสอบหาข้อเท็จจริงแบบเปิดเผย ซึ่งถ้าหมดหวังในการเรียกหาความเป็นธรรม ชาวบ้านจะเดินทางไปพบ พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่จังหวัดเชียงรายใน ครม.สัญจร ในวันที่ 30 ตุลาคม โดยจะนำเรื่องที่ดินที่มีปัญหาชาวบ้านรวมร่วมกับทางราชการกำลังแก้ไข เรื่องคดีที่มีคนร้ายลอบยิงรักษาการณ์เจ้าอาวาส เรื่องการปกปิดความเหลวแหลกในการบริหารกองทุนหมู่บ้าน กรณีลอบยิงกุฏิเจ้าอาวาสที่ไม่มีผลการสอบสวนที่คืบหน้า และกรณีที่บุคลากรของภาครัฐ(กำนัน) เข้ายื่นหนังสือขับไล่พระชาวบ้านจะไปขอความเป็นธรรมด้วยตนเอง
พ.ต.อ.วรพล พลมณี ผกก.สภ.วังชิ้น กล่าวว่า กรณีที่รักษาการณ์เจ้าอาวาสถูกลอบยิงเมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมาเกือบ 2 เดือนแล้ว เรื่องนี้ตำรวจไม่ได้นิ่งนอนใจกำลังสืบสวนหาเบาะแสอย่างต่อเนื่อง แต่ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวกับกรณีที่ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน ออกมาประท้วงขับไล่พระฐาปนพงษ์ มันคนละเรื่องกัน ผู้ที่มาประท้วงก็ไม่อาจระบุได้ว่าเป็นกลุ่มพ่อค้าไม้หรือไม่ หรือเป็นกลุ่มคนที่เป็นลูกน้องของดาบตำรวจที่มีพฤติกรรมค้าไม้หรือมาจากกลุ่มกองทุนหมู่บ้านที่มีปัญหาในชุมชนขณะนี้หรือไม่ เราจะไประบุไม่ได้ และ เรื่องนี้คนละเรื่องกัน ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกันอย่างแน่นอน การยื่นหนังสือของกำนันและ อดีตกำนัน ต.แม่พุง ยื่นหนังสือต่อนายอำเภอวังชิ้น ตำรวจได้แต่ไปสังเกตการณ์เท่านั้น ส่วนของคดีตำรวจให้ความสำคัญเพราะผู้บังคับบัญชากำชับมาตลอด แต่มีข้อจำกัดไม่มีวงจรปิด หมาไม่เห่า ที่เขาจับกุมกันได้ส่วนใหญ่มีวงจรปิด ดูสาเหตุโกรธเคืองที่ปรากฎอยู่ไม่น่าจะถึงการฆ่ากัน ถ้ามีคดีประทุษร้ายกันต้องดูผู้โกรธเคืองพบไม่มีการเชื่อมโยงกับกลุ่มที่ออกมาชุมนุมขับไล่ อย่างไรก็ต้องเชื่อว่าคนร้ายย่อมทิ้งเบาะแสไว้เสมอ การทำงานต้องขอเวลาหน่อย
