ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สวนแก้วมังกร นายรัตน์ วงศ์คำโสม ตำบลท่าศาลา อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย นางสาวภูมารินทร์ คงเพียรธรรม นายอำเภอภูเรือ เดินทางเป็นประธาน กิจกรรมรณรงค์ “ประชารัฐร่วมใจกำจัดภัยแมลงวัน” ซึ่งกลับมาเยอะอีกครั้งในช่วงฤดูฝน
นางจันทิมา บุนนาค ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่าศาลา กล่าวว่า ประชาชนทุกคน หน่วยงานราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมแสดงพลัง ร่วมกิจกรรมรณรงค์ ประชารัฐร่วมใจกำจัดภัยแมลงวัน ในวันนี้ ซึ่งมีเครือข่ายคนรักสุขภาพตำบลท่าศาลา และทุกภาคส่วนรวมจำนวน 140 คน
ข่าวน่าสนใจ:
สำหรับ วัตถุประสงค์ของการกิจกรรมครั้งนี้ เพื่อเป็นกำจัดแมลงวัน ซึ่งเป็นพาหะนำโรคอันตรายต่างๆ ได้แก่ ไข้ไทฟอยด์ โรคอหิวาห์ตกโรค โรคอุจจาระร่วงอย่างแรง โรคตาแดง โรคบิดมีตัว บิดไม่มีตัว โรคโปลิโอ โรคแอนแทร็กซ์ วัณโรค พยาธิปากขอ พยาธิไส้เดือน นอกจากนี้ ยังก่อให้เกิดความรำคาญ แก่พี่น้องประชาชน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว ของอำเภอภูเรือ ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่พี่น้องชาวตำบลท่าศาลาและชาวภูเรือ ต้องร่วมมือ ร่วมใจพร้อมกันกำจัดแมลงวัน โดยมีกิจกรรมร่วมเดินรณรงค์ เชิญชวน พ่อค้า ประชนชน ส่วนราชการ สนับสนุนการใช้มาตรการ 3 ส. อันได้แก่ การสร้างองค์ความรู้ การกำจัดแมลงวัน และประชาสัมพันธ์ การมีส่วนร่วม ในการกำจัดแมลงวัน ทุกภาคส่วน และสนับสนุนการบังคับ มาตรการทางกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ การประชาสัมพันธ์ การพ่นสารเคมี กำจัดตัวแก่แมลงวัน การพ่นน้ำหมักชีวภาพ กำจัดตัวอ่อนแมลงวัน การทำลายแหล่งเพาะพันธ์แมลงวัน ประชาสัมพันธ์แจกแผ่นพับ โทษและพิษภัยของแมลงวัน ในพื้นที่ สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้จะประกอบด้วย การจัดเวทีเสวนาประชารัฐร่วมใจกำจัดภัยแมลงวัน สาธิตการเก็บปุ๋ยมูลไก่ที่ถูกต้อง สาธิตการทำจุลินทรีย์หน่อกล้วย สาธิตการทำกาวดักแมลงวันจากยางพารา สาธิตการใช้จุลินทรีย์หน่อกล้วย มอบน้ำหมักชีวภาพเพื่อใช้ต่อยอดในชุมชน
ด้านนางสาวภูมารินทร์ คงเพียรธรรม นายอำเภอภูเรือ กล่าวว่า ปัญหาแมลงวันเป็นปัญหาที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในอำเภอภูเรือของเราเนื่องจากอาชีพหลักนอกจากการเกษตรแล้ว เรายังมีอาชีพให้กับชุมชน ให้กับประชาชนชาวอำเภอภูเรือที่มาจากการบริการของร้านค้า อาหารและโรงแรมที่พักเป็นการให้บริการนักท่องเที่ยวเพราะว่ามีธรรมชาติที่สวยงาม ซึ่งในปัจจุบันปัญหาแมลงวันสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาชมทัศนีย์ภาพที่สวยงามของอำเภอภูเรือของเราเป็นอย่างยิ่ง
การแก้ไขปัญหาแมลงวันนั้นจำเป็นที่จะบูรณาการร่วมกันทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นราชการทุกหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นเกษตร ปศุสัตว์ สาธารณะสุขและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในส่วนของภาคเอกชน ผู้ประกอบการ ร้านค้าโรงแรม ซึ่งหลังจากผู้ประกอบการนำข้อมูล การนำมูลไก่ในพื้นที่มาใช้ในด้านการเกษตร ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหานี้ ร้านค้าร้านอาหาร ผู้ประกอบการที่พักโรงแรมก็มีความเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ที่สำคัญอย่างยิ่งตัวพี่น้องเกษตรกรเองผู้ใช้มูลไก่ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการเกิดปัญหาแมลงวันในพื้นที่ เพราะฉะนั้นการแก้ปัญหาจะต้องบูรณาการในพื้นที่ร่วมกันทุกภาคส่วน
สิ่งที่อำเภอภูเรือสามารถทำได้อย่างเร่งด่วนในตอนนี้ก็คือ การขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการนำเข้ามูลไก่ในพื้นที่ ให้จัดหาสถานที่เก็บที่ไม่ก่อให้เกิดการวางไข่ของแมลงวันโดยง่ายและรณรงค์ให้พี่น้องเกษตรกรผู้ใช้มูลไก่ได้ทำการหมัก มูลไก่ก่อนที่จะนำไปใช้ เป็นเวลาก่อน 45 วันถึง 60 วัน เพื่อตัดวงจรการไข่ของแมลงวันไม่ให้กลายไปเป็นตัวแก่ ก็มีการณรงค์เรื่องของการทำกาวดักแมลงวันมาเพื่อดักตัวแก่ของแมลงวัน ลดการไปวางไข่และก่อให้เป็นตัวอ่อน
ต่อไปหากพี่น้องเกษตรกรยังไม่มีการหมักมูลไก่ แต่มีความจำเป็นที่จะต้องนำมูลไก่ไปเลยใส่ในต้นแก้วมังกรในระยะเวลาเร่งด่วน ก็ขอให้พี่น้องเกษตรกรต้องให้ความร่วมมือกับกับทางอำเภอภูเรือ ด้วยการฉีดพ่นสารอีเอ็มที่บริเวณมูลไก่ ก่อนที่จะไปฉีดที่โคนต้นแก้วมังกรในแปลงต่างๆ ทุกๆ เจ็ดวันจะช่วยในเรื่องของการตัดวงจรแมงวัน แมลงวันจะได้ไม่กลายเป็นตัวแก่ทำให้มันกลายเป็นหมัน จะลดเรื่องของจำนวนปริมาณของแมลงวันที่จะไปขยายพันธุ์ต่อไปเป็นสิ่งเร่งด่วน ซึ่งทางอำเภอภูเรือและทุกทุกฝ่ายได้รีบดำเนินการอยู่ในขณะนี้ และสอนให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ที่ทำกาวดักแมลงวันทั้งหมดจะต้องควบคู่ไปกับการกับการคัดแยกขยะในหมู่บ้านของตนเองอย่างถูกวิธีไปพร้อมกันทั้งระบบ
การแก้ไขปัญหาแมลงวันในอำเภอภูเรือจะสำเร็จลงได้ และลำดับต่อไป จะให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นเองก็จะต้องมีข้อกำหนดให้มีข้อบัญญัติหรือเทศบัญญัติและบังคับ ใช้กับเกษตรกร ผู้ที่จะนำรถปุ๋ยมูลไก่เข้าไปพื้นที่ จะต้องมีสถานที่เก็บก่อน มีการป้องกันด้วยการหมักอย่างดี ก่อนที่จะนำไปจำหน่ายให้เกษตรกรซึ่งจะต้องบูรณาการร่วมกันจึงจะสำเร็จ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: