สระแก้ว – ชาวบ้านป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว บุกยื่นหนังสือ 5 หน่วยงาน คัดค้านโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมนอกพื้นที่ หลั่งน้ำตาขอให้เอาโรงไฟฟ้าขยะออกจากพื้นที่ ระบุชาวบ้านถูกยัดเยียดให้เป็นแหล่งทิ้งขยะโดยที่ชาวบ้านไม่ต้องการ ด้านการนิคมอุตสาหกรรมฯเตรียมผลักดันให้มีการทำอีไอเอเดือน พ.ย.นี้ อ้างขอทำตามกฎหมายก่อน
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 23 ก.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ราชการและศาลากลางจังหวัดสระแก้ว ต.ท่าเกษม อ.เมือง จ.สระแก้ว ชาวบ้าน ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นำโดย นายสมพร ก่อเกิด ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 ต.ป่าไร่ และตัวแทนชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อนกว่า 20 คน พร้อมป้ายคัดค้านโรงไฟฟ้าขยะ กรณีที่นิคมอุตสาหกรรมสระแก้ว ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเพื่อจัดทำอีไอเอเปลี่ยนแปลงนิคมอุตสาหกรรมสระแก้วจากนิคมสีเขียว สำหรับรองรับโรงงานไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม จำนวน 5 โรงและกิจการต่อเนื่องทั้งพื้นที่ ภายหลังผู้ประกอบการเข้ามาจองพื้นที่เกือบทั้งหมดไว้แล้ว โดยชาวบ้านไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่า ชุมชน โรงเรียนและชาวบ้านจะได้รับผลกระทบในอนาคต จึงเดินทางเข้ายื่นหนังสือคัดค้านการดำเนินการดังกล่าวกับหน่วยงานต่าง ๆ ประกอบด้วย เทศบาลตำบลป่าไร่ ,อำเภออรัญประเทศ ,ธนารักษ์จังหวัด, อุตสาหกรรมจังหวัด ,สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด พร้อมทั้งเตรียมเข้ายื่นคัดค้านต่อหน่วยงานส่วนกลางที่กรุงเทพมหานครด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ นายสมพร ก่อเกิด ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 แกนนำชาวบ้าน บอกว่า ช่วงแรกของการทำอีไอเอมีการแจ้งกับชาวบ้านว่าจะมีโรงงานแค่ 2 โรง แต่หลังทำไปได้เพียง 2-3 เดือน ก็เอาอีไอเอเล่มใหญ่ 170 กว่าหน้า มาบอกชาวบ้านว่า จะสร้างโรงงานไฟฟ้าขยะอาร์ดีเอฟ 5 โรง พร้อมหลุมฝังกลบ มีโรงผลิต ซึ่งเราไม่เห็นด้วย เห็นชัดเจนว่าการทำอีไอเอไม่ชัดเจน เหมือนมาหลอกชาวบ้าน มีทั้งขยะ 105 และ 106 ขยะอิเลคทรอนิกส์ ซึ่งชาว ต.ป่าไร่ ยกผืนป่า 670 กว่าไร่ให้ทำนิคมเพราะมีความจำเป็นตาม ม.44 เพื่อสร้างความเจริญ แต่กลายเป็นว่าจะเอาขยะมาให้เรา ทั้งที่ไม่ใช่ขยะของตำบลหรือของสระแก้วเลย จะกลายเป็นที่ทิ้งขยะที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกแล้ว นิคมฯ ไม่เคยเอามาชี้แจงชาวบ้าน มาบอกว่า มีการจองหมดแล้ว ความเชื่อมั่นของประชาชนในพื้นที่จะยังมีความเชื่อมั่นอยู่หรือเปล่า เพราะหลุมฝังกลบมีมลพิษทุกที่ ท่านบอกว่าที่นี่มีศักยภาพที่จะทำได้ ทำไมคนป่าไร่ คนอรัญฯ ต้องเป็นที่รองรับขยะที่นำเข้าและขยะที่อื่นหรืออย่างไร
“ขณะนี้การทำอีไอเอ เหมือนยัดเยียดให้เรา เพราะอีไอเอไม่ได้เกิดจากเราจริง ๆ จะมาบอกว่า รับหรือไม่รับ ดูไม่ดู ลักษณะแบบนี้ผมไม่เห็นด้วย และผมก็ไม่รับอีไอเอครั้งนี้ด้วย และไม่เห็นด้วยที่จะให้ทำอีไอเอครั้งนี้ และจะคัดค้านให้ถึงที่สุด หลังจากนี้เราจะเก็บข้อมูลและนำปัญหานี้ไปถึงกรรมาธิการและสภาผู้แทนราษฎร เพื่อนำปัญหานี้ไปแจ้งให้เบื้องบนทราบ ซึ่งตอนนี้มีชาวบ้านลงชื่อไว้แล้ว 1,230 คน” นายสมพรกล่าว
ขณะเดียวกัน น.ส.อาภรณ์ ธิบดี ผอ.การนิคมอุตสาหกรรมสระแก้ว ชี้แจงกับกลุ่มชาวบ้านว่า การจองพื้นที่ดังกล่าวเป็นแค่การจองสิทธิ์ ยังไม่ได้มีการอนุญาตดำเนินการ เป็นแค่การรับฟังคิดเห็นของประชาชน ซึ่งปัจจุบันมีการทำโรงงานลักษณะนี้ที่ สระบุรี พระนครศรีอยุธยาและพิจิตร หากชุมชนยังมีความห่วงกังวล ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนของการพิจารณา เพราะฉะนั้น ความคิดเห็นข้อห่วงกังวลของประชาชน ทางการนิคมฯจะนำข้อมูลมาพิจารณาอนุมัติอนุญาต และขอยืนยันว่า เรายังไม่ได้อนุญาตให้เค้าประกอบกิจการใด ๆ ในพื้นที่ แต่เราขอดำเนินการตามกระบวนการให้ครบตามกระบวนการในอีไอเอ เพื่อเสนอ สผ.พิจารณา ดังนั้น จึงขอให้ชุมชนคลายความวิตกกังวลว่า เรายังไม่ได้อนุมัติอนุญาตให้เค้ามาประกอบกิจการ ฉะนั้นกิจการใดที่จะลงมาชุมชนรับได้หรือไม่รับ และมีมาตรการในการควบคุมเค้าอย่างไร จึงต้องให้ชุมชนร่วมพิจารณา ซึ่งจะมีการรับฟังความคิดเห็นและเผยแพร่ข้อมูลอย่างเป็นทางการในเดือน พ.ย.63 นี้
ทางด้าน นางอารยา เทศทอง อายุ 44 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ กล่าวทั้งน้ำตาและยกมือไหว้หน่วยงานที่ดูแลว่า มันลำบากมาก ขอเถอะ ขอให้ยกเลิกไปเลย เพราะระยะเวลา 6 ปี ที่ปั่นจักรยานผ่านป่าผืนนี้ไป-กลับทุกวัน เห็นป่าถูกตัดไปแล้วก็เสียดาย ตรงนี้อยู่ใกล้โรงเรียน เราอยากให้เด็กมีความเจริญได้ทำงานใกล้บ้าน จึงยอมให้สร้างนิคมฯ แต่ตอนนี้คือเอาขยะมาแลกกับป่า รู้สึกเสียความรู้สึก คือยกเลิกไปเลยนะคะ มันออกมาจากใจจริง ๆ อึดอัดใจมาก เป็นไปได้ยกเลิก เพราะมันมีเด็กที่อยู่ใกล้ ๆ ที่จะสร้างโรงงานไฟฟ้าขยะ เราเคยมีวิถีชีวิตเกษตร ป่าทั้งผืนเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ เรายกป่าให้หมายถึงว่า เราต้องการให้เป็นโรงงานกรีนสีเขียวเหมือนเดิม เราไม่รู้ว่า เมื่อสร้างโรงงานขยะแล้ว เด็กจะได้ทำงานกี่คน แต่ปัญหาที่จะตามมามันเยอะ ยังไงก็ขอให้ยกเลิกไปเลยค่ะ
——————————
