เพชรบูรณ์-“หน.ชป.ศปป.4 กอ.รมน. เผยจี้ให้เพิกถอนโฉนดภูขี้ไก่ไม่เป็นผล จนกลุ่มทุนถางป่ากลายเป็นเขาหัวโล้น แถมเชิญขรก.ผู้ใหญ่ในจังหวัดและนายทหารระดับสูงเปิดโครงการหวังสร้างความเชื่อถือ
วันที่ 29 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. โพสต์ข้อความผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ขอให้กลุ่มอนุรักษ์ป่าและสื่อช่วยกันปกป้องป่าต้นแม่น้ำป่าสักและให้ช่วยต่อสู้ขบวนการฟอกป่า โดยแสดงความหดหู่และเศร้าใจที่พบผืนป่าบนเขาราว 1,800 ไร่ ถูกทำลายยับจนกลายเป็นภูเขาหัวโล้น พร้อมวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้มากกว่านี้นั้น ล่าสุดพ.อ.พงษ์เพชร กล่าวชี้แจงว่า พื้นที่บริเวณนี้มีการตรวจสอบเมื่อปี 2557 พบว่าเป็นภูขี้ไก่ มีการออกเอกสารสิทธิ์เมื่อปี 2542 จำนวน 58 แปลง แต่เมื่อตรวจสอบจากภาพถ่ายทางอากาศย้อนหลังไม่พบร่องรอยทำประโยชน์มาก่อน เมื่อตรวจสอบไปยังกรมพัฒนาที่ดินก็ได้รับคำยืนยันว่า เป็นพื้นที่ภูเขาไม่สามารถที่จะออกเอกสารสิทธิ์ได้
พ.อ.พงษ์เพชรกล่าวว่า แม้จะเป็นพื้นที่ภูเขาแต่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐบางคนอาศัยช่องว่างไปออกโฉนด ประเด็นนี้ได้มีการส่งเรื่องไปให้ทางกรมป่าไม้เมื่อหลายปีก่อน ต่อมาก็พยายามเฝ้าระวังพื้นที่ก็ไม่ปรากฏว่า มีการดำเนินการอะไรแต่ทั้งนี้กลุ่มผู้ครอบครองก็มีการนำเอกสารสิทธิ์ไปเข้าแบงก์และมีการซื้อขายเปลี่ยนมือกันมาตลอด จนล่าสุดได้ทราบข่าวว่ามีกลุ่มทุนต่างชาติเข้ามากว้านซื้อผ่านทาง “เสี่ย ล.” ในจังหวัดเพชรบูรณ์และมีการซื้อขายกันไปเรียบร้อยแล้ว จึงต้องการให้มีการเร่งรัดเพื่อให้มีการเพิกถอนโฉนดให้ได้โดยเร็ว เพื่อที่ป้องกันไม่ให้มีการบุกรุกและครอบครองป่า เพราะขณะนี้ยังมีเอกสารสิทธิ์อยู่ในมือนายทุนทำให้สามารถจะทำอะไรก็ได้
พ.อ.พงษ์เพชรกล่าวว่า แต่ที่น่าเสียใจมากเพราะพยายามมาหลายปี ก็ยังไม่เป็นผลไม่สามารถที่จะเพิกถอนโฉนดได้ทัน จนกระทั่งมีกลุ่มทุนมาบุกรุกเปิดป่า โดยเฉพาะเมื่อปี 2557 เริ่มมีการตัดไม้ จากนั้นมีการนำรถแทรกเตอร์เข้ามาปรับไถป่า จนทำให้ภูเขาโล่งเตียน และเมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านก็พยายามเข้าไปตรวจสอบ แต่เมื่อไปพบว่าที่ดินบริเวณนี้มีเอกสารสิทธิ์ก็จะเป็นต้องล่าถอยไม่สามารถจะทำอะไรได้ จนเป็นเหตุให้รู้สึกเศร้าใจและหดหู่ใจมากต้องเห็นผืนป่าบริเวณถูกปู้ยี่ปู้ยำ ในขณะที่กลุ่มทุนก็มีแผนจัดเตรียมพัฒนาพื้นที่ทั้งหมด 1,800 ไร่เนื่องจากเป็นโครงการใหญ่ จึงคิดว่าถ้าหากสามารถหยุดยั้งได้ในเวลานี้ ก็เชื่อว่าก็ยังทันอยู่จะสามารถรักษาป่าส่วนที่เหลือไว้ได้
หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. กล่าวว่า ที่ดินบริเวณนี้ช่วงที่มีการออกโฉนดกันใหม่ๆมีการซื้อขายกันไร่ละ 30,000-40,000 บาท แต่หลังจากที่ที่ดินแปลงนี้ตกไปอยู่ในมือของนายทุน จะเห็นว่ามีการปั่นราคากันจนปัจจุบันมีการเสนอซื้อขายถึงไร่ละเกือบ 400,000 บาท แม้กระทั่งเมื่อวานนี้ล่าสุดเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม มีการเปิดโครงการ ซึ่งมีการเชิญข้าราชการผู้ใหญ่ในจังหวัดและนายทหารระดับสูงเข้าไปร่วมด้วยหรือไปเป็นประธาน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือเหมือนเป็นการการันตีว่าพื้นที่บริเวณนี้ถูกต้องทั้งหมด ซึ่งปมประเด็นนี้ที่ผมมองว่าก็เป็นขบวนการฟอกป่าเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะทำให้เจ้าหน้าที่รัฐไม่มีใครกล้าไปตรวจสอบ
