นครพนม – “สหายแสง” ยกทัพภูมิใจไทยลุยนครพนม ควง รมว.คมนาคม คิกออฟ โชว์แบริเออร์ยางพารา ลดอุบัติเหตุ
หนุนใช้ยางพาราในประเทศ หนุนสร้างรายได้เกษตรกรปีละกว่า 3 หมื่นล้าน
เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2563 ที่บริเวณหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม ริมทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 2033 นครพนม – นาแก นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วย ดร.ทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3 ) นางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2/ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทย ร่วมกับคณะหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ ร่วมพิธีเปิดโครงการนำยางพารามาใช้เพื่อปรับปรุงเพิ่มความปลอดภัยทางถนน แห่งแรกของภาคอีสาน เพื่อเป็นการสาธิตโชว์ความสำเร็จเกี่ยวกับการแปรรูปยางพาราใช้ในประเทศไทย สนับสนุนเกี่ยวกับการดูแลความปลอดภัยลดอุบัติเหตุทางถนน โดยมีการสร้างนวัตกรรมใหม่ นำยางพารามาแปรรูป ลดแรงกระแทกให้กับแบริเออร์ รวมถึงหลักนำทางริมถนน ภายหลังกระทรวงคมนาคม รับนโยบายจากรัฐบาล มาคิดค้นพัฒนาสร้างนวัตกรรมยางพารา พร้อมเปิดตัวใช้งานเป็นครั้งแรกมาก่อนนี้ ในพื้นที่ จ.จันทบุรี และ จ.สตูล และในครั้งนี้พื้นที่ภาคอีสาน จ.นครพนม เป็นจุดแรก และจะมีการเปิดโครงการต่อเนื่องในพื้นที่ จ.บึงกาฬ และ จ.เลย โดยมี นายสยาม ศิริมงคล ผวจ.นครพนม พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง นำประชาชน ในพื้นที่ ให้การต้อนรับ ชมการสาธิตเปิดตัวนวัตกรรมยางพารา ซึ่งมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับการแปรรูปยางพารา สาธิตการแปรรูปยางพารา เสริมแบริเออร์ และเสานำทางริมถนน นอกจากนี้ยังได้มีการสาธิตการติดตั้ง แบริเออร์เสริมยางพาราต้นแบบ บริเวณถนน ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 2033 นครพนม – นาแก เป็นจุดแรกเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า วันนี้เป็นโอกาสดี ตนและคณะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เจ้าหน้าที่จากกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานเกี่ยวข้อง ลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน โชว์ผลงานความสำเร็จเกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ ในการแปรรูปยางพาราใช้ในประเทศ รวมถึงนำนโยบายรัฐบาลเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยาง มาชี้แจง ทำความเข้าใจกับชาวบ้าน โดยโครงการ นำยางพารามาใช้เพื่อปรับปรุงเพิ่มความปลอดภัยทางถนน ได้ดำเนินการมาช่วงเดือนสิงหาคม 2563 นำร่อง จ.จันทบุรี และ จ.สตูล ขยายมาสู่พื้นที่อีสาน จ.นครพนม จ.บึงกาฬ และ จ.เลย ซึ่งจะเป็นนโยบายสำคัญที่รัฐบาลได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับปัญหาราคายางพารา ที่ตกต่ำ หลังเริ่มดำเนินโครงการทำให้มีการซื้อยางพาราใช้ในประเทศมากขึ้น พบว่าแค่ 3 เดือน ราคายางพาราขยับขึ้นจากราคากิโลกรัมละประมาณ 40 บาท ล่าสุดราคาประมาณ 60 บาท นอกจากนี้ในแต่ละปีจากข้อมูลมีการใช้ยางในประเทศปีละประมาณ 1.2 แสนตัน แต่หลังมีการนำยางพารามาแปรูปเสริมแบริเออร์ เชื่อว่าจะมียอดการใช้ยางพาราเพิ่มไม่ต่ำกว่าปีละ 3 แสนตัน ตั้งเป้าในช่วง 3 ปี ในการดำเนินโครงการ จะต้องสามารถใช้ยางพาราปีละไม่ต่ำกว่าล้านตัน และจะมีเม็ดเงินที่สร้างรายได้ให้เกษตรกรชาวสวนยาง ไม่ต่ำกว่าปีละ 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะเป็นแนวทางสำคัญที่จะทำให้ราคายางพาราขยับตัวขึ้นต่อเนื่อง และมีความมั่นคง ถือเป็นโครงการสำคัญส่วนหนึ่ง ที่รัฐบาลให้ความสำคัญที่จะช่วยเหลือชาวสวนยาง และสิ่งที่ตามมาจะสามารถสร้างความปลอดภัยทางถนนลดการสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุไม่ต่ำกว่าปีละ 20,000 ราย และจะมีการขยายโครงการต่อเนื่องทั้งประเทศ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
ข่าวน่าสนใจ:
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
- นครพนม น้องขวัญ นำทัพกลุ่มนครพนมร่วมใจ เปิดตัว ส.อบจ.นครพนม ทั้ง 30 เขต
- นครพนม เปิดคลิป วัยรุ่น เหิมหนัก ยกพวกใช้มีดไล่ฟันคู่อริ พร้อมทุบทำลายทรัพย์สินอย่างไม่เกรงกลัวกฏหมาย
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: