กระบี่-รวบ “ไอ้แจ๊ค” อดีตเจ้าของร้านโทรศัพท์ ตกอับไร้งาน ตระเวณขโมยโทรศัพท์ชาวบ้าน ไปขาย อ้างรถกำลังจะถูกยึด รับผิดทั้งน้ำตา ทำสามครั้ง หากพ้นโทษจะหางานสุจริตทำ เผยลงทุนขอซื้อน้ำแข็ง 20 บาท แล้วฉกโทรศัพท์หนีขณะผู้เสียหายเผลอ
จากกรณี ภาพกล้องวงจรปิด จับภาพนาทีชายคนหนึ่ง เข้าซื้อของในร้านชำ อาศัยจังหวะเจ้าของร้านเผลอ แอบฉกโทรศัพท์ซุกกระเป๋ากางเกง ออกจากร้านไป ซึ่งหลังเกิดเหตุผู้เสียหายเข้าแจ้งความไว้ที่สภ.เมืองกระบี่
วันที่ 30 กย.63 ภาพจากคลิปวิดิโอที่บันทึกไว้ภายในร้านแฟรมมงคล เลขที่ 244/1 ม.5 ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ บันทึกนาทีที่คนร้ายเป็นชายวัยกลางคน ขับรถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้านแล้วลงมาซื้อเครื่องดื่มและขนมจากนั้นได้เดินมาที่โต๊ะคิดเงินที่มีแม่ค้านั่งอยู่ ส่งเงินให้แล้วบอกว่าเอาน้ำแข็งเพิ่ม 5 บาท แม่ค้าจึงเดินออกไปตักน้ำแข็งเป็นจังหวะที่คนร้ายหันมาหยิบโทรศัพท์ยี่ห้อออฟโป้ ที่วางอยู่แล้วใส่กระเป๋าเดินออกมารับน้ำแข็งก่อนจะขึ้นรถหลบหนีไปทันที โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 กย.ที่ผ่านมา ซึ่งภาพดังกล่าวเป็นหลักฐานสำคัญที่ตำรวจประจำป้อมยามแพลมโพธิ์ โดย ร.ต.ท.วิรัช ชนะสิทธิ์ รอง สว.ป.สภ.เมืองกระบี่ ใช้เป็นหลักฐานในการติดตามตัวและสามารถจับกุมตัวไว้ได้เมื่อช่วงเย็นของวันนี้ พร้อมของกลางเป็นโทรศัพท์ ยี่ห้อ ออปโป้ 1 เครื่อง และยี่ห้อออปโป้ รุ่น F11pro ราคา 12,500 บาท อีก 1 เครื่อง
โดยผู้ต้องหาคือนายภานุวัฒน์ ชูชัยชาติ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 156 ม.9 ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง โดยไปจับกุมได้ขณะเดินอยู่ข้างบ้านหลังหนึ่ง ในหมู่ 5 ต.ไสไทย อ.เมืองกระบี่ ยึดโทรศัพท์ยี่ห้อออปโป้ รุ่น F11pro เพิ่งไปก่อเหตุลักจากนางสาวสุดารัตน์ เตชะ อายุ 25 ปี สาวเจ้าของร้านชำในพื้นที่ เมื่อช่วง 11.00 น.ของวันนี้ โดยผู้เสียหายแจ้งความไว้แล้วด้วย
จากนั้นได้นำตัวมาสอบสวนที่สภ.เมืองกระบี่ โดยทาง พ.ต.ท.ทวีศักดิ์ ยองเข รอง ผกก.สส.สภ.เมืองกระบี่ ได้ทำการสอบสวน ซึ่งนายภานุวัฒน์ รับว่า ได้มาพักอยู่ที่บ้านเพื่อนในหมู่ 5 ต.ไสไทย หลังจากตนได้ปิดร้านซ่อมมือถือที่ อ.เหนือคลอง เพราะไม่มีลูกค้ามาหลายเดือนตั้งแต่มีโควิดระบาด ทำให้ไม่มีเงินที่จะไปผ่อนรถจักรยานยนต์ 2 คัน ที่ซื้อมาใช้ในครอบครัว และไม่มีเงินแม้จะให้ลูกเมียใช้ จึงได้ออกจากบ้านเมียที่ อ.เหนือคลองแล้วมาอยู่บ้านเพื่อน ก่อนจะมาก่อเหตุลักโทรศัพท์โดยจะเลือกร้านของชำเป็นหลัก อาศัยแม่ค้าเผลอก็จะหยิบแล้วหนีมา โดยช่วง 3 วันที่ผ่านมา ขโมยแล้ว 3 เครื่อง เครื่องแรกไปขายได้เงินพันกว่าบาท และ 2 เครื่องหลังนี้ยังเก็บไว้ ไม่ได้นำไปขาย
ด้านนางสาวสุดารัตน์ เตชะ อายุ 25 ปี สาวเจ้าของร้านชำ ผู้เสียหายคนล่าสุด เล่าถึงพฤติการคนร้ายว่า ทำทีขอซื้อน้ำแข็ง 20 บาท พอเดินไปตักใส่ถุงให้ ผู้ต้องหาก็อาศัยจังหวะนั้น ฉกโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะหนีไป ซึ่งมารู้ตัวตอนที่ผู้ต้องหาออกจากร้านไปแล้ว พยายามโทรศัพท์ไปยังเครื่องที่ถูกขโมย ก็ถูกปิดติดต่อไม่ได้ จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความ จนจำกุมตัวได้ในที่สุด
ซึ่งขณะที่สอบสวนนายภานุวัฒน์ ได้ให้การทั้งน้ำตา บอกถึงความจำเป็นที่ต้องก่อเหตุลักทรัพย์เพราะไม่มีเงินใช้จ่ายในครอบครัว และยอมรับผิดกับการกระทำของตัวเอง หากพ้นโทษออกมาก็จะไม่ทำอีก ยอมที่จะเดินหางานทำ เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกระบี่ ดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ต่อไป
