เกิดเหตุระทึก ผู้โดยสารหนีตายออกจากรถแท็กซี่ ขณะขับมาแล้วเกิดไฟไหม้ท่วมทั้งคัน หลังออกจากอู่มาไม่ถึงชั่วโมง เหตุเกิดช่องทางด่วนขาเข้าถนนบางนาตราด หลักกิโลเมตรที่ 16 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
เมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีเหตุไฟไหม้รถแท็กซี่ที่จอดอยู่ในช่องทางด่วนขาเข้าถนนบางนาตราด หลักกิโลเมตรที่ 16 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยรถดับเพลิงและเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูเดินทางเข้าตรวจสอบ
ข่าวน่าสนใจ:
- ภาคธุรกิจเอกชนหอการค้าชัยภูมิชี้แนวทางรัฐบาลพลิกวิกฤตเศรษฐกิจไทยฝ่าวิกฤตโลก!
- หนุ่มวัย 21 นัดเคลียร์กับรุ่นน้องวัย 16 แต่คุยกันไม่ลงตัวเกิดชกต่อยกัน ก่อนชักมีดแทงรุ่นน้องดับ
- ‼️เลือดหนึ่งหยด..มีค่า-ต่อลมหายใจให้ผู้ป่วย,บาดเจ็บ‼️
- "เลยดั้น" แค่มุมภาพเดียว กลายเป็นไวรัล ดึงดูด นทท.แห่เช็คอินถ่ายภาพ อ.น้ำหนาวเตรียมดันเป็นซอฟพาวเวอร์
ที่เกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้รถแท็กซี่ ยี่ห้อ โตโยต้า สีเขียวเหลือง ทะเบียน 1 มก 866 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่ในช่องเลนซ้ายของช่อทางด่วนอย่างรุนแรง และกำลังลุกลามไปทางด้านท้ายรถซึ่งมีถังบรรจุก๊าซ NGV ขนาดใหญ่ติดตั้งอยู่ เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจร ในช่องทางด่วนและกันรถออกห่างจากที่เกิดแหตุประมาณ 200 เมตรเพื่อความปลอดภัยเกรงว่าถังบรรจุก๊าซ NGV ที่อยู่ท้ายรถแท็กซี่คันดังกล่าวจะเกิดการระเบิดขึ้น ในระหว่างที่รอรถดับเพลิงที่ยังเดินทางมาไม่ถึงเนื่องจากในช่วงที่เกิดเหตุ การจราจรหนาแน่นมาก เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพยายามช่วยกันนำถังเคมีดับเพลิงเข้าฉีดสกัดเพลิงแต่ไม่สามารถสกัดเปลวเพลิงได้เนื่องจากระบบก๊าซ NGV ได้เกิดการรั้วไหลออกมาทำให้เปลวไปลุกโหมอย่างรุนแรงท่วมรถทั้งคัน เวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมงรถดับเพลิงซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่เกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตรได้เดินทางมาถึง ก่อนที่จะช่วยกันระดมฉีดน้ำนานกว่า 10 นาทีเพลิงจึงสงบ จากการตรวจสอบไฟได้เผาผลาญรถแท็กซี่คันดังกล่าววอดทั้งคัน
นายวัลลพ ตีโคกน้อย อายุ 55 ปี คนขับรถแท็กซี่คันดังกล่าว ได้เล่าว่า ตนพึ่งเดินทางไปเอารถออกจากอู่ซ่อมหม้อน้ำเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ก่อนที่จะมาวิ่งรับผู้โดยสารมาจากซอยมัณฑนา ข้างมหาวิทยาลัยหัวเฉียว จำนวน 5 คนที่ว่าจ้างให้ไปส่งที่วัดหลวงพ่อโต ขณะที่ตนขับรถออกมาจากซอยมัณฑนาได้ไม่ถึง 2 กิโลเมตร ก็ได้กลิ่นเหม็นไหม้และพบมีควันลอยออกมาจากฝากระโปรงหน้ารถ ตนจึงรีบจอดรถเข้าข้างทางและให้ผู้โดยสารออกจากรถทั้งหมด ก่อนที่จะเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นที่ห้องเครื่องด้านหน้า ใต้ฝากระโปรงหน้ารถอย่างรุนแรงก่อนที่จะลุกลามมาลุกไหม้หมดคันอย่างรวดเร็ว โชคดีที่ตนและผู้โดยสารหนีตายออกมาจากรถทันจึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบรถแท็กซี่คันดังกล่าวโดยละเอียดอีกครั้งเพื่อหาสาเหตุของการเกิดไฟไหม้ครั้งนี้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: