ฉะเชิงเทรา – เพลิงไหม้บ้านสาวโสด วัยดึกทำหมดสิ้นเนื้อประดาตัวเหลือแต่เพียงผ้านุ่งที่สวมใส่อยู่เป็นผืนสุดท้าย พร้อมเสื้อยกทรงสตรีชั้นในติดตัว ขณะหลายหน่วยงานลงพื้นที่เข้าเยียวยา เผยขณะเกิดเหตุเพลิงลุกลามอย่างรวดเร็ว เกินกว่าจะควบคุมได้ทัน จนทำให้มีกระแสข่าวจากสื่อบางแขนงตำหนิหน่วยงานในท้องถิ่น ที่ขาดความพร้อมในเข้าควบคุมสถานการณ์เพลิงไหม้
วันที่ 2 ต.ค.63 เวลา 16.00 น. ที่บ้านเลขที่ 37 ม.8 ต.คลองเปรง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีเจ้าหน้าที่จากหลายส่วนงานเข้าไปตรวจสอบยังในที่เกิดเหตุ หลังจากเกิดเพลิงไหม้เมื่อเวลา 20.30 น. ของเมื่อคืนที่ผ่านมา (1 ต.ค.63) จนทำให้บ้านถูกเพลิงไหม้หมดทั้งหลัง โดยที่นางตีมะห์ แจ่มช้อย อายุ 72 ปี เจ้าของบ้านไม่ได้หยิบทรัพย์สินอะไรติดตัวออกมาเลย
ข่าวน่าสนใจ:
ทั้งยังทำให้เกิดกระแสดราม่าในพื้นที่ ที่มีผู้คนที่รับข้อมูลข่าวสารจากสื่อเพียงด้านเดียวออกมาตำหนิต่อ อปท.ในพื้นที่ หลังมีการนำเสนอข่าวถึงความไม่พร้อมในการเข้ามาช่วยเหลือประชาชน ต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินที่เกิดอัคคีภัยขึ้นในพื้นที่ กรณีที่รถน้ำดับเพลิงของ อบต.คลองเปรง ชำรุด จนไม่สามารถที่จะนำออกมาปฏิบัติหน้าที่ได้
โดย นางตีมะห์ กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนกำลังจะเข้านอน แต่ได้ยินเสียงดังอยู่ที่ด้านบนหลังคาบ้าน ครั้งแรกเข้าใจว่าแมวขึ้นไปเดินอยู่บนหลังคา บริเวณเพิงเหนือประตูบ้านด้านหลัง แต่เมื่อออกมาดูกลับพบว่าเป็นเหตุเพลิงไหม้ จากนั้นไฟฟ้าได้ดับลงจึงได้วิ่งออกไปร้องขอความช่วยเหลือจากคนภายนอก แต่เพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว เนื่องจากบ้านของตนเป็นบ้านไม้เก่าที่ปลูกสร้างมานานถึงกว่า 30 ปีแล้ว
และไม่มีใครอยู่ใกล้เคียงที่จะช่วยเหลือได้ทัน เนื่องจากบ้านแต่ละหลังอยู่ห่างไกลกันเป็นระยะ จนมีคนที่พักอาศัยอยู่ในบริเวณห้องเช่าที่อยู่ใกล้ที่สุดประมาณ 40 เมตรจำนวน 3 คน เข้ามาช่วยดึงตนออกไป เนื่องจากเกรงว่าจะได้รับอันตราย และได้แจ้งไปยังทาง อบต.คลองเปรง ทราบเพื่อขอรถน้ำดับเพลิง แต่ไม่มีรถน้ำจาก อบต. มาช่วยดับเพลิงให้
จนมีรถน้ำจาก อบต. ใกล้เคียง (คลองอุดมชลจร) เดินทางมาถึง แต่เพลิงได้ลามไหม้บ้านจนเริ่มมอดดับเกือบหมดไปแล้ว จึงดับได้ไม่ทัน โดยที่ตนไม่ได้หยิบทรัพย์สินอะไรติดมือมาได้เลย ทั้งสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท และเงินที่ซุกซ่อนไว้ตามจุดต่างๆ ภายในกระเป๋าเสื้อผ้าภายในบ้าน โดยมีเพียงผ้านุ่ง 1 ผืน และเสื้อชั้นใน 1 ตัวเท่านั้น ตอนนี้บ้านจึงเหลือแต่เพียงพื้นดินเปล่าๆ ก่อนที่จะมาขอพักอาศัยยังที่บ้านของพี่สาวไปก่อนในขณะนี้ นางตีมะห์ กล่าว
และกล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่ อบต. แจ้งว่ารถน้ำชำรุดนั้น ตนไม่ได้ติดใจอะไรเนื่องจากรถน้ำนั้นชำรุดจริง หากรถน้ำไม่เสียก็อาจจะมาไม่ทัน เนื่องจากที่ตั้งของ อบต.กับบ้านพักของตนนั้นอยู่ห่างไกลกันถึงเกือบ 10 กม. และเพลิงยังโหมลุกไหม้อย่างรวดเร็ว เพียงระยะเวลาไม่นานนักบ้านของตนก็มอดไหม้ไปจนหมดแล้วทั้งหลัง นางตีมะห์ กล่าว
ขณะที่ นายดำรงเทพ แสงจันทร์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.8 เล่าว่า สำหรับนางตีมะห์ นั้นเป็นหญิงโสด เคยมีสามีแต่ไม่มีบุตรด้วยกัน และสามีได้เสียชีวิตไปนานแล้ว จึงอยู่คนเดียวในบ้านหลังนี้เพียงลำพัง โดยประกอบอาชีพทำขนมสดขนมไทยขายเลี้ยงตนเอง ส่วนกรณีเรื่องรถน้ำดับเพลิงนั้น ทราบว่ารถน้ำเสียมานานแล้ว เนื่องจากถูกใช้งานมานานถึงเกือบ 10 ปี
จึงทำให้แท๊งค์น้ำรั่วและเครื่องยนต์เสื่อมโทรมขัดข้อง โดยทาง อบต.ได้มีการทำเรื่องเสนอแจ้งซ่อมไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ทางบริษัทผู้รับเหมายังไม่ได้มารับรถนำไปซ่อม นายดำรงเทพ กล่าว
ขณะที่ นายวัชรพล เกิดมงคล นักพัฒนาชุมชน อบต.คลองเปรง และนายนำพล สุขสมพงษ์ ผู้ช่วยเจ้าพนักงานธุรการ อบต.คลองเปรง ที่เดินทางมาตรวจสอบยังในที่เกิด เพื่อทำบันทึกรายงานประกอบการนำเสนอเรื่องการให้การช่วยเหลือต่อผู้ประสบอัคคีภัย กล่าวว่า นางตีมะห์ มีบัตรประจำตัวเป็นผู้พิการประเภท 3 เกี่ยวกับการเคลื่อนไหวด้วย
จึงจะได้นำเสนอการให้การช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องที่พักอาศัยของคนพิการไปด้วย หากงบประมาณไม่ซ้ำซ้อนกันกับระเบียบในการช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องผู้ประสบอัคคีภัย ก็จะสามารถให้การช่วยเหลือได้อีกช่องทางหนึ่ง เนื่องจากหลังตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้วพบว่าบ้านเสียหายหมดทั้งหลัง ส่วนเรื่องรถน้ำที่ชำรุดนั้น ทาง อบต.ได้มีการทำเรื่องส่งซ่อมไว้ก่อนหน้าแล้ว จึงไม่สามารถนำออกมาใช้งานได้ นายวัชรพล กล่าว
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในวันนี้นอกจากหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่จะเดินทางเข้ามาตรวจสอบยังในที่เกิดเหตุแล้ว ยังมีนายกิตติชัย เรืองสวัสดิ์ ส.ส.เขต 1 ฉะเชิงเทรา พรรคภูมิใจไทย เดินทางมามอบเงินช่วยเหลือส่วนตัวให้แก่ผู้ประสบอัคคีภัยไว้ส่วนหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีประชาชนที่ทราบข่าวได้แบ่งเงินให้แก่นางตีมะห์ ไว้ใช้จ่ายประทังชีวิตอีกคนละเล็กน้อย ในระหว่างที่ไปขอทำบัตรประชาชน และทะเบียนบ้านใหม่ยังที่ว่าการอำเภอเมืองฉะเชิงเทรา
นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ อสม.ประจำชุมชน และ รพ.สต.บ้านสมอเซ นำโดย นายประเดิม ศิริคช ผอ. รพ.สต. และ น.ส.จันทร์จิรา ชุ่มชูจันทร์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ เดินทางมาตรวจร่างกายของนางตีมะห์ ด้วย เนื่องจากในขณะเกิดเหตุมีอาการช็อกจนพูดไม่ออก แต่พบว่าร่างกายไม่ได้รับบาดเจ็บ โดยที่ นายมนัส ชุนหศรี นายก อบต.คลองเปรง ได้เดินทางมาเยี่ยมดูอาการตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าตรู่ของวันนี้แล้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: