รองผบช.ภ.1 ประชุมคืบหน้าคดีขณะ ครูแพรว ครูส้ม ดอดมอบตัวอีก 2 ยัง เงียบขณะเดียวกันจะออกหมายเรียกผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหา
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 5 ต.ค.63 ที่สภ.ชัยพฤกษ์ ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี บริเวณห้องประชุมชั้น 3 พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.ไพศาล วงศ์วัชรมงคล ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.เดชรพี คงดีรอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.สถิตพร บุณยรัตพันธุ์ผกก.สภ.ชัยพฤกษ์ เข้าร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าทางด้านคดีหลังเด็กนักเรียนชั้นเนิอสเซอร์รี่ รร.สารสาสน์วิเทศน์ ราชพฤกษ์ และ เด็กนักเรียนอนุบาลถูกครูพี่เลี้ยงและครูประจำชั้นทำร้ายร่างกาย ขณะเดียวกันวันนี้ทางผู้สื่อข่าวได้มาเฝ้ารอครูที่เหลืออีก 9 รายมาพบพนักงานสอบสวนแต่ทางทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ได้ขอยื่นเรื่องเลื่อนการเข้าพบพนักงานสอบสวนออกไปก่อนเนื่องจากอยู่ระหว่างตรวจสอบหลักฐาน
หลังจากการประชุมทางพล.ต.ต.เอกภพ รองผบช.ภาค 1 ซึ่งรับผิดชอบสำนวนสอบสวนทั้งหมด เปิดเผยว่า จากการประชุมติดตามรายละเอียด คดีนี้มีความคืบหน้าไปมาก คดีนี้แยกการดำเนินการ 2 ศาล ทั้งศาลเด็ก และศาลแขวง ซึ่งมีระยะเวลาในการทำการสอบสวนน้อย จึงได้มอบหมายพนักงานสอบสวนแต่ละส่วนประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติสภาครู การกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติโรงเรียนเอกชนเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดในการให้ปากคำ เพราะมีระยะเวลาจำกัด เมื่อรวบรวมหลักฐานแน่นหนาแล้ว สอบปากคำพยาน ผู้เสียหาย เสร็จสิ้นก็จะได้ส่งสำนวนสอบสวนให้พนักงานอัยการพิจารณาต่อไป
พล.ต.ต.ไพศาล กล่าวว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดครูทั้งหมด 4 คน คือครูแพรว ครูส้ม ครูแพร ครูอิง มาพบพนักงานสอบสวน ปรากว่ามีเพียง ครูแพรว กับ ครูส้ม เดินทางมา ส่วนอีก 2 คน คือ ครูแพร กับครูอิง ไม่ได้เดินทางมา แจ้งว่าต้องรอทนายความ จะได้ออกหมายเรียกครั้งที่สองไป ส่วนทางด้านคดีในวันนี้เราจะออกหมายเรียกผู้อำนวยการโรงเรียนเพื่อมารับทราบข้อกล่าวหาในวันพุธและครูอีก 2 คนที่จะออกหมายเรียกวันนี้ ได้แก่ครูกิ๊บ กับ ครูมิ้ว ซึ่งการสอบสวนพบเพิ่มจาก 11 รายเป็น 13 ราย “ครูแพรวกับครูส้มได้เข้ามาพบพนักงานสอบสวนแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาตามกระบวนกฎหมายอาญา มาตรา 295 ทำร้ายร่างกาย กับ พรบ.คุ้มครองเด็ก ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ”
ในเรื่องของที่คุรุสภาร้องทุกข์กับโรงเรียน ในวันพุธจะแจ้งข้อหาให้กับผู้อำนวยการโรงเรียนรับทราบ ในเรื่องใบประกอบวิชาชีพก็มีความผิดด้วย การดำเนินคดีจะแยก 4 ส่วน ส่วนที่ 1 ดำเนินคดีกับผู้บริหารสถานศึกษา ส่วนที่ 2 ผู้บริหารการศึกษา ส่วนที่ 3 ครู ส่วนที่ 4 บุคลากรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา เช่น ครูพี่เลี้ยง จากการตรวจสอบมีครูหลายท่านที่ไม่มีใบอนุญาต การแจ้งข้อกล่าวหาต้องเป็นไปตามลำดับ แยกข้อหาระหว่างโรงเรียนกับครู ตอนนี้มีครูที่กระทำความผิดทั้งสิ้น 13 คน อยู่ระหว่างการตรวจสอบเพิ่มเติมส่วนเรื่องที่ครูจุ๋มพาทนายเข้ามาแจ้งความ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกผู้ปกครองที่โดนแจ้งมาพบและสอบถามข้อเท็จจริงว่าใช่บุคคลในคลิปไหม ถ้าใช่ก็แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายไป ซึ่งมีโทษปรับ แต่ถ้าผู้เสียหายคือครูจุ๋มติดใจ ทางพนักงานสอบสวนก็ต้องส่งตัวฟ้องศาลไปและเป็นดุลยพินิจของศาลท่านจะพิจาราณา
