นครพนม – วันที่ 30 ต.ค.61 เวลา 14.00 น. บริเวณศาลาเทิดพระเกียรติ บ้านนาจอก หมู่ 5 ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเป็นหมู่บ้านชุมชนคนไทยเชื้อสายเวียดนาม ที่ครั้งหนึ่งพื้นที่ตรงนี้ ประธานโฮจิมินห์ หรือลุงโฮ ผู้นำชาวเวียดนาม เคยพำนักอยู่ที่นี่ และใช้เป็นฐานที่มั่นในการกอบกู้อิสรภาพจากฝรั่งเศส ระหว่างปี พ.ศ. 2466 – 2474 จนประสบความสำเร็จ
ข่าวน่าสนใจ:
- กาญจนบุรี พิธีตักบาตรพระ 10,000 รูป ฉลองตั้งเมือง 193 ปี พร้อมอุทิศส่วนกุศลแด่บรรพบุรุษผู้มีพระคุณต่อประเทศชาติ
- พะเยา ล้อมจับขโมยในร้านข้าวมันไก่ชาวบ้านรุมสกรัมเลือดอาบทั่วตัว
- คึกคัก นาย"บุ่นเล้ง" อดีตนายกอบจ.ตรัง นำทีมนายกบุ่นเล้ง สมัครครบ 30 เขต ท่ามกลางกองเชียร์คับคั่ง
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
นายจันทร์ไทย พัฒนประสิทธิ์ชัย กำนัน ต.หนองญาติ กล่าวต้อนรับคณะผู้มาเยือน และแนะนำแหล่งท่องเที่ยวบ้านนาจอก ว่า ชุมชนแห่งนี้เป็นหนึ่งใน 9 หมู่บ้านเป้าหมาย ที่จังหวัดนครพนมบรรจุอยู่ในโครงการหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว(OTOP Villge) เพื่อจะดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้ามาในหมู่บ้าน ทำให้เกิดรายได้ในหมู่บ้าน ตามนโยบายของรัฐบาลลดความเหลื่อมล้ำของสังคม และการสร้างโอกาสเข้าถึงบริการของรัฐ โดยมุ่งเน้นการสร้างอาชีพ และรายได้ที่มั่นคง ด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เกิดความเข้มแข็ง
ซึ่งหมู่บ้านนาจอกตั้งแต่บรรพบุรุษอพยพมาจากประเทศเวียดนาม ใต้ร่มพระบรมโพธิสมภารมากว่าร้อยปี มีความเชี่ยวชาญด้านการเกษตร โดยจะปลูกพืชผักสวนครัวรับประทานกันทุกบ้าน ถ้าเหลือก็จะนำไปขายในตลาด มีอาหารเวียดนามดั้งเดิม และยังคงการแต่งกายด้วยชุดอ๋าวหย่าย(แปลว่า เสื้อยาว) เป็นชุดแต่งกายพื้นบ้านที่สตรีเวียดนามนิยมสวมใส่ ส่วนใหญ่จะพบเห็นในงานพิธีสำคัญเท่านั้น
ต่อมาสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครพนม เข้ามาช่วยเหลือทั้งด้านความรู้เพิ่มทักษะทางวิชาการ จนผลักดันสินค้าทางการเกษตรเป็นผลิตภัณฑ์โอทอป สร้างความเข้มแข็งในชุมชน และสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจ ก่อเกิดรายได้พอกพูนกว่าเดิมหลายเท่าตัว เช่น นายพงษ์ศักดิ์ กองพลศรีสิริ อายุ 48 ปี และ น.ส.ภัสสร เกิดแก้ว อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 41/1 หมู่ 5 บ้านนาจอก สองสามีภรรยา โดยสามีนั้นจากอดีตที่เคยไปขายแรงงานประเทศญี่ปุ่น เก็บเกี่ยวความรู้ต่างๆมาใช้ในครอบครัว เริ่มจากเลี้ยงโคขุน จำนวน 10 ตัว ส่งขายสหกรณ์โพนยางคำ จ.สกลนคร และมีรายได้เพิ่มขึ้น ปัจจุบันมีโคขุนอยู่ 40 กว่าตัว ขณะที่ภรรยาเคยทำงานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ว่างจากงานประจำก็ช่วยสามีด้วยการเลี้ยงจิ้งหรีด มีลูกค้าสั่งออเดอร์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงลาออกจากงานมาเป็นเกษตรกรเต็มตัว
ด้านนางสมใจ บุญชวลิต อายุ 61 ปี บ้านเลขที่ 11 หมู่ 5 บ้านนาจอก มีอาชีพปลูกใบชา สายพันธุ์อัสสัม ซึ่งบรรพบุรุษนำเมล็ดพันธุ์มาจากประเทศเวียดนาม คราวอพยพหนีภัยสงคราม ทุกหลังคาเรือนจะมีพื้นที่แบ่งไว้การปลูกชาไว้ชงดื่มเสมอ หลังพัฒนาชุมชนมาแนะนำให้ความรู้เพิ่ม ก็ปรับปรุงใบชามีรสชาติหอม กลมกล่อม ชุ่มคอ และมีฤทธิ์ลดไขมันในเลือด ฯลฯ จนกลายมาเป็นสินค้าโอทอป ระดับ 5 ดาว “ถ้าใครมาเที่ยวอนุสรณ์สถานท่านประธานโฮจิมินห์แล้ว ไม่ได้ลิ้มลองน้ำชาบ้านนาจอก ถือว่ามาไม่ถึงนะค๊ะ” นางสมใจกล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: