กศน.ตำบลปากคม สร้างอาชีพผ้ามัดย้อมแฮนด์เมดส่งเสริมรายได้ชุมชน ในสถานการณ์ยุคปัจจุบัน ทำให้การดำเนินชีวิตของหลายๆ คนเกิดการชะงักงัน การหาอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้ให้กับครอบครัวเป็นเรื่องจำเป็น กศน.ตำบลปากคม จัดสอนการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผ้ามัดย้อมบาติก เป็นทางเลือกใหม่ที่สร้างรายได้แก่ชุมชน
วันนี้ 6 ตุลาคม 2563 ที่ กศน.ตำบลปากคม อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง ได้สอนหลักสูตรการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผ้ามัดย้อมบาติก ตามโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน ด้วยการทำผลิตภัณฑ์ผ้ามัดย้อมชิ้นเล็กๆก่อน เช่น ผ้าเช็ดหน้าและผ้าปูโต๊ะหลังจากนั้นก็ได้พัฒนาฝีมือและผลงานมาตามลำดับ เพราะเป็นงานที่ต้องอาศัยความชำนาญรวมไปถึงความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างผลงานออกมา
ล่าสุดได้มีการรวมกลุ่มกัน 3 -5 คน จัดทำผลิตภัณฑ์ผ้ามัดย้อมบาติก ในหลายๆรูปแบบ ทั้งผ้าคลุมไหล่ กระเป๋า หมอนอิง และที่โดดเด่นเป็นที่ชื่นชอบของหลายๆ คน คือ เสื้อมัดย้อมบาติก ที่มีลวดลายเก๋ๆ สีสันสดใส สีไม่ตก ด้วยเป็นงาน Handmade ทุกชิ้น มีทั้งรูปแบบเสื้อยืดและเสื้อปีกนก เสื้อทรงกะเหรี่ยงแบบสั้นและทรงเดรสยาว สำหรับโทนสีจะทำตามสีที่ลูกค้าต้องการ จึงเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า โดยจำหน่าย ตัวละ 150 บาท เท่านั้น
นางสาวขวัญจิต ล้อเตียน ครู กศน.ตำบลปากคม อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง กล่าวว่า จะทำการส่งเสริมอาชีพการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผ้ามัดย้อม นอกเหนือจากการให้ความรู้กับประชาชนทั่วไปแล้ว ก็จะส่งเสริมหลักสูตรดังกล่าวนี้ให้กับ นักศึกษาขั้นพื้นฐานของ กศน. ที่เป็นคุณแม่วัยใสหรือคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ให้สามารถมีรายได้ในการเลี้ยงดูบุตรโดยไม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ซึ่งพบว่านักศึกษา กศน.จำนวนหนึ่งประสบกับปัญหา ดังกล่าว จึงคิดว่าเป็นทางเลือกที่ดี ที่ กศน.จะช่วยแก้ปัญหาการว่างงานหรือไม่มีงานทำ
สำหรับผู้ที่สนใจ เสื้อบาติกมัดย้อม ของ กศน.ตำบลปากคม อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง สามารถติดต่อได้ที่ กศน.ตำบลปากคม หมายเลขโทรศัพท์ 093 – 5960646 โดยจะสั่งเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่มก็ได้ ระบุสี ขนาดเสื้อและลวดลายได้ตามต้องการ และท่านที่สนใจสามารถติดต่อได้ทาง เพจ กศน.ตำบลปากคม ซึ่งจะนำเสนอผลงานให้ทุกท่านได้รับชมกันอย่างต่อเนื่อง
นางอุมาภรณ์ มโนภิรมย์ ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง กล่าวว่า ได้เล็งเห็นและให้ความสำคัญในการส่งเสริมรายได้แก่ประชาชน จึงแนะนำให้ครู กศน.ตำบล ส่งเสริมอาชีพให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อเป็นการสร้างรายได้และประคับประคองตนเองและครอบครัวให้สามารถก้าวผ่านวิกฤติเศษฐกิจยุคนี้.
