นราธิวาส-พบแล้วศพ อส.ยิงเพื่อปลิดชีพหนีความผิดกลางป่า
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 6 ต.ค. 63 พ.อ.เอกพล เลขนอก ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 ร.ท.วิรุจ นพรัตน์ ผบ.ร้อย ทพ.4814 และ นายมนต์ชัย จิตกมลกานต์ ปลัด อ.สุไหงปาดี ได้ร่วมประชุมกับนายอัสมาน อูเซ็ง ซึ่งเป็นพี่ชายและเครือญาติของ อส.อาสลาน อูเซ็ง สมาชิกกองร้อยอาสารักษาดินแดนประจำฐานปฏิบัติการณ์ชุดคุ้มครองตำบลโต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ที่ใช้อาวุธปืนประจำกาย AK 102 ยิง อส.เจ๊ะมูฮัมหมัดฟีกรัน เจ๊ะโซ๊ะ ซึ่งเป็นบัดดี้กันเสียชีวิตคาฐาน เหตุเกิดในช่วงเวลา 15.15 น.ของวันที่ 5 ต.ค. 63 ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุ อส.อาสลาน อูเซ็ง ได้วิ่งหลบหนีออกจากฐานพร้อมอาวุธปืนประจำกาย ซึ่งการประชุมปรึกษาหารือในครั้งนี้ ที่ฐานปฏิบัติการณ์กองร้อยทหารพรานที่ 4814 เพื่อร่วมกันติดตัวตาม อส.อาสลาน ที่หลบหนีเข้าไปในป่าสวนยางพาราข้างฐาน ชคต. หลังก่อเหตุให้มามอบตัวต่อสู้คดี
โดย พ.อ.เอกพล เลขนอก ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 ได้แยกกำลังออกเป็น 3 ชุด ในการแยกย้ายเดินเรียงหน้ากระดานในการติดตามตัว อส.อาสลาน ในระยะห่างกันชุดละ 100 เมตร โดยชุดที่ 1.ให้นายพีพลี สี่สตังค์ ซึ่งเป็นพี่เขยของ อส.อาสลาน ใช้โทรโข่งเดินพูดเป็นภาษายาวีให้ อส.อาสลาน มอบตัว ซึ่งมีนายมนต์ชัย ปลัด อ.สุไหงปาดีและ ชรบ.ร่วมเดินทางไปด้วย ชุดที่ 2 ให้เจ้าหน้าที่ทหารพรานกองร้อยทหารพรานที่ 4814 ร่วมกับเจ้าหน้าที่สมาชิกกองร้อยอาสารักษาดินแดนประจำฐาน ชคต. เป็นผู้เฝ้าระวังคุมกันเผื่อมีเหตุร้ายเกิดขึ้น และชุดที่ 3 ให้ชุดสุนัขสงครามดมกลิ่นจากอโณทัย แกะรอยกลิ่นจากเสื้อผ้าของ อส.อาสลาน ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 2 ตารางกิโลเมตร พร้อมใช้โดรนอัดเสียงของเครือญาติบินเปิดเพื่อให้ อส.อาสลาน มอบตัวในครั้งนี้ด้วย
ซึ่งการจัดกำลัง 3 ชุดเดินเข้าป่าในครั้งนี้ ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง ลัดเลาะไปตามป่าสวนยางพารา สวนผลไม้และสวนปาล์ม โดยพบว่าที่บ้านร้างไม้ยกพื้นสูงกลางป่าสวนปาล์ม มีลักษณะคล้ายกับมีคนพักอาศัยในช่วงคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่ไม่มีใครพบเห็นตัว อส.อาสลาน ที่หลบหนีหรือซ่อนตัว จนกระทั่งในเวลาต่อมานายมนต์ชัย ปลัดอำเภอสุไหงปาดี พร้อมด้วยเครือญาติ ได้พบศพ อส.อาสลาน ใส่เสื้อยืดแขนสั้นสีขาว สวมกางเกงขาสั้น นั่งเสียชีวิตในลักษณะนั่งพิงกับต้นขนุน โดยหว่างขาทั้ง 2 ข้างหนีบท้ายปืน AK 102 และนิ้วหัวแม่มือข้างขวาอยู่ที่ไกปืน ส่วนลำกล้องจ่ออยู่ที่บริเวณปลายคาง โดยมีรูกระสุนปืนจากปลายคางทะลุศรีษะ 1 นัด เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 24 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ
ต่อมาเมื่อเวลา 16.00 น. นายเศวต เพชรนุ้ย นายอำเภอสุไหงปาดี พ.ต.อ.มานิตย์ ปานทอง นักวิทยาศาสตร์ สบ.4 กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยฉัตรวาริน เดินทางมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เพื่อเก็บรวบรวมหลักฐาน ก่อนที่จะมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยฉัตรวาริน ส่งโรงพยาบาลสุไหงปาดี เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา
ด้าน นายเศวต เพชรนุ้ย นายอำเภอสุไหงปาดี เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเบื้องต้นทราบว่า มาจากความไม่พอใจกันเป็นการส่วนตัว ที่ อส.อาสลาน ได้เก็บสะสมหลังถูก อส.เจ๊ะมูฮัมหมัดฟีกรัน นำเรื่องต่างๆไปนินทาลับหลังจนเกิดความเสียหายมาหลายครั้ง จน อส.อาสลาน ได้เกิดบันดาลโทสะ ก่อนที่จะลงมือก่อเหตุโดยที่ไม่มีใครคาดคิด
