ผู้จัดการนิติเอื้ออาทรเมาแล้วกร่าง ยกพวกมารุมทำร้ายและใช้มีดแทงอดีตรองประธานหมู่บ้าน จนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดภายในหมู่บ้านเอื้ออาทรแพรกษา 2 หมู่ 5 ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ
เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 6 ตุลาคม 2563 ร.ต.อ.คมกฤชต์ ทองอุไร รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางปู สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีชายถูกแทงด้วยอาวุธมีดได้รับบาดเจ็บที่บริเวณหน้าอาคาร 12 หมู่บ้านเอื้ออาทรแพรกษา 2 หมู่ 5 ต.แพรกษาใหม่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและรถกู้ชีพโรงพยาบาลสมุทรปราการ เดินทางเข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุพบร่างของนายณรงค์ศักดิ์ น้ำรัก อายุ 55 ปี นั่งรออยู่ในสภาพเลือดแดงฉานเต็มเสื้อ มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดที่บริเวณหน้าท้อง และต้นแขนซ้ายเลือดไหลออกมาจำนวนมาก เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพได้ให้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลเมืองสมุทรปากน้ำตามสิทธิ์การรักษา ส่วนผู้ก่อเหตุชื่อนายทศพร อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นผู้จัดการนิติบุคคลหมู่บ้านเอื้ออาทรแห่งหนึ่งย่านแพรกษา และพวกอีก 2 คนหลังก่อเหตุได้ขับรถเก๋งหลบหนีไป
จากการสอบถาม น.ส.บุญโฮม สรจันทร์ อายุ 47 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ได้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้เห็นผู้บาดเจ็บซึ่งพักอยู่ที่ห้องพักชั้น 2 ของอาคารที่เกิดเหตุเดินลงมารอรับลูกสาวที่กำลังนั่งรถแท็กซี่กลับมาที่ห้องพัก ในระหว่างที่ผู้บาดเจ็บยืนรออยู่ที่หน้าอาคาร นายทศพร ซึ่งเป็นผู้จัดการนิติบุคคลของหมู่บ้าน และพวกอีก 2 คน ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมาสุราได้ขับรถยนต์เก๋งสีดำไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียนมาจอดที่หน้าอาคารตรงบริเวณที่ผู้บาดเจ็บยืนอยู่ ก่อนที่ทั้ง 3 จะเปิดประตูลงมาจากรถและเดินปรี่เข้ามาหาเรื่องผู้บาดเจ็บ ก่อนที่หนึ่งในนั้นจะตะโกนใส่ผู้บาดเจ็บว่ามันว่าลูกพี่กูทำไม ทำให้ผู้บาดเจ็บถึงกับงงเพราะไม่เคยไปมีเรื่องอะไรกับใครจนทั้งสองฝ่ายได้มีปากเสียงกัน นายทศพร และพวกจึงได้เข้ามารุมทำร้ายด้วยการชกต่อยผู้บาดเจ็บ และหนึ่งในกลุ่มของนายทศพร จะใช้อาวุธมีดที่พกติดตัวมาแทงใส่ร่างผู้บาดเจ็บ 2 ครั้งถูกที่บริเวณหน้าท้องและต้นแขนซ้าย ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์จึงได้เข้าไปช่วยห้ามปรามก่อนที่นายทศพรและพวกจะหลบหนีไป ตนจึงได้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาให้การช่วยเหลือ
ส่วนสาเหตุ น.ส.บุญโฮม ได้กล่าวว่า น่าจะมาจากเรื่องที่เมื่อก่อนนี้ผู้บาดเจ็บเคยเป็นรองประธานหมู่บ้าน ในสมัยที่จะไม่ได้ตั้งเป็นนิติบุคคล แต่ด้วยในสมัยที่ผู้บาดเจ็บเป็นรองประธานหมู่บ้านนั้นได้ช่วยเหลือชาวบ้านอยู่เป็นประจำจนเป็นที่ไว้วางใจของชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน ยามที่ชาวบ้านเดือดร้อนอะไรก็จะไปปรึกษาผู้บาดเจ็บและนายสำเนียง สอนจันทร์ ซึ่งเคยเป็นประธานหมู่บ้านช่วยเป็นกระบอกเสียงให้ และเมื่อไม่นานมานี้ชาวบ้านไม่ไว้วางใจการใช้เงินส่วนกลางที่นิติบุคคลชุดนี้เก็บไป จึงได้ร่วมกันลงรายชื่อและรวบรวมหลักฐานมามอบให้นายสำเนียง และผู้บาดเจ็บยืนเรื่องของตรวจสอบการใช้เงินของนิติบุคคลชุดนี้ไปยังสำนักงานการเคหะแห่งชาติ เพื่อให้ลงมาตรวจสอบ คาดว่าจะทำให้นายทศพร ผู้ก่อเหตุซึ่งมีตำแหน่งเป็นผู้จัดการของนิติดังกล่าวไม่พอใจ วันนี้จึงได้ยกพวกมาทำร้ายร่างกายผู้บาดเจ็บถึงหน้าอาคาร
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้ ต้องรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บก่อนว่า สาเหตุเกิดจากอะไร เพื่อเป็นแนวทางในการติดตามตัวผู้ก่อนเหตุมาทำการสอบสวนข้อเท็จจริงและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
