เพชรบูรณ์- “พ.อ.พงษ์เพชร” นำคณะจนท.ตรวจยึดต้นสักถูกเครื่องจักรโครงการชุมชนธะธรรมชาติดันโค่นระเนระนาด ในขณะที่อาจารย์ชาปัดไม่รู้เรื่องต้นสัก ให้เคลียร์ชาวบ้าน อ้างหนุนเครื่องจักร-งบช่วยขยายถนน
เวลา 10.00 น.วันที่ 30 ต.ค.2561 คณะเจ้าหน้าที่ประกอบด้วย กอ.รมน.เพชรบูรณ์, ก.ตชด.31 เพชรบูรณ์, กก.4 บก.ปทส., ป่าไม้ ในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ นำโดย พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หน.ชป.ศปป.4 กอ.รมน. นายบุญลาภ สุกใส ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 พิษณุโลก และนายชิต อินทรนก ผอ.ศูนย์ประสานงานป่าไม้ ลงพื้นที่บริเวณถนนทางเข้าโครงการชุมชนธะธรรมชาติ ต.หล่มเก่า อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ เพื่อตรวจยึดไม้สักที่ถูกเครื่องจักรหนักของโครงการฯตัดโค่น ทิ้งกองไว้ตามสองฝั่งริมถนน ซึ่งอยู่ระหว่างการปรับขยายถนนเข้าไปยังโครงการฯ ระยะทางราว 4 กิโลเมตร กว้าง 20 เมตร โดยการตัดโค่นต้นสักดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้ว ยังไม่ได้ขออนุญาตทำไม้หวงห้ามจากพนักงานเจ้าหน้าที่ทำไม้อย่างถูกต้อง
ทั้งนี้เมื่อคณะเจ้าหน้าที่ไปถึงจุดเกิดเหตุพบต้นไม้สักอายุราว 5-7 ปี จำนวนหลายร้อยต้นถูกโค่นทิ้งอยู่ริมถนน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไม้สักจากสวนป่าสักของเอกชนถูกตัดโค่นเป็นระยะๆ โดยพ.อ.พงษ์เพชรได้กำชับให้คณะเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการขนย้ายด้วยความรอบคอบ และให้ปฏิบัติตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด โดยขอให้ขนย้ายต้นสักที่ถูกโค่นจริงๆเท่านั้น ไม่ให้แตะต้องต้นสักที่ยืนต้นตายโดยเด็ดขาด จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ป่าไม้จึงแบ่งกำลังออกเป็นชุดๆ เพื่อชักลากและขนย้ายต้นสักที่ถูกตัดโค่นนำมารวมหมอนไว้บนถนน พร้อมทำการตรวจนับก่อนจะใช้ฆ้อนดวงตราตอกตีประทับบนต้นสักเพื่อทำการตรวจยึดไว้ และจึดทำการตรวจยึดไม้ทั้งหมดเป็นของกลาง เพื่อจะเข้าแจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.หล่มเก่า ให้ดำเนินการกับผู้กระทำผิดต่อไป
อย่างไรก็ตามขณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบนายอนัตต์ณังธะโคตร ญาณ์ธนโชติ หรือ “อาจารย์ชา” และนายปฎิธาน ชวาลสันตติ เจ้าของที่ดิน เข้ามาพบพ.อ.พงษ์เพชรเพื่อถึงกรณีไม้สักถูกโค่นริม โดยอาจารย์ปัดไม่รู้เรื่อง โดยอ้างว่าไม่ทราบว่าต้องมีการขออนุญาตุ ให้เจ้าหน้าที่ไปเคลียร์กับชาวบ้าน เพราะว่าการขยายถนนทางรองนายกอบต.หล่มเก่ามาแจ้งว่า ชาวบ้านต้องการให้ขยายถนน แต่อบต.ไม่มีงบประมาณ อาจารย์ชาจึงได้สนับสนุนงบฯและเครื่องจักรรวมทั้งกำลังคนเพื่อปรับขยายถนนดังกล่าว จากนั้นอาจารย์ชาก็ได้มอบเอกสารชาวบ้านจำนวน 31 รายที่ลงชื่อยินยอมให้ขยายถนนกับเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่จึงได้สอบปากคำอาจารย์ชาไว้เป็นหลักฐานและรับมอบเอกสารไว้
ขณะเดียวกันยังปรากฏว่ายังมีชาวบ้านชื่อนายบัญชา กระทู้ ชาวบ้านหมู่ 5 ต.หล่มเก่า ได้มาพบกับพอ.พงษ์เพชร โดยอ้างว่ามีที่ดินของตนเองและน้องสาวติดอยู่ริมถนน และได้มีเครื่องจักรได้มาไถปรับขยายถนน กระทั่งไปดันต้นสักที่ปลูกไว้ในสวนสักจนถูกโค่นล้มไปเป็นจำนนวนมากกินระยะทางยาว 300 เมตร ซึ่งตนเองไม่ได้ยินยอมและไม่ได้อนุญาตุ ซึ่งพ.อ.พงษ์เพชร จึงสอบปากคำไว้และพร้อมแนะนำให้ไปแจ้งความร้องทุกข์กับสภ.หล่มเก่า ถ้าไม่เข่นกันนั้นก็จะถูกเจ้าหน้าที่ดำเนินคดีผผฐานทำไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต
