ระนอง คุมเข้มชายแดน ตรึง 3 ชั้น สกัดกั้น COVID-19 จากเมียนมา
ระนอง-(7 ต.ค.2563) พ.ต.อ.สมชาย จิตสงบ ผกก.ตม.จว.ระนอง เปิดเผยว่า นับตั้งแต่มีสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 ระบาดรอบสองในประเทศเมียนมา พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. ได้กำชับให้หน่วยงานในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา ตรวจเข้มตามแนวชายแดนเพื้อสกัดกั้นกลุ่มผู้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาด จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.พิษณุ เบี้ยแก้ว, พ.ต.ท.เนติ ขันบุญ รอง ผกก.ตม.จว.ระนอง และ พ.ต.ต.พิศุทธิ์ สุวรรณภาษิต สว.ตม.จว.ระนอง นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตม.จว.ระนอง สนธิกำลังกับ กองทัพเรือภาคที่ 3 , ฉก.ร.25 , ร้อย ตชด.415 และ ฝ่ายปกครองจังหวัดระนอง ใน 3 ภารกิจ
ข่าวน่าสนใจ:
- “ปลายฝน ต้นหนาว เคาท์ดาวน์ มิวสิคเฟส สุราษฎร์ธานี” ไฮไลท์ประกวดควายไทยมูลค่ากว่า 10 ล้าน
- พรรคประชาชนเปิดตัว นายแพทย์จิรชาติ เรื่องวัชรินทร์ หรือ หมอมุดสัง ชิง นายก อบจ.สุราษฎร์ ฯ สมัครจันทร์นี้
- มทบ.32 เสริมกำลังเตรียมป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM 2.5
- ชายวัย 50 ปี เปลี่ยนถังแก๊สเอง จุดเตาทำกับข้าวไฟพรึ่บคลอกเจ็บหนัก
ได้แก่ การนำเรือตรวจการณ์ 3 ลำ ออกลาดตระเวนทางทะเล เพื่อช่วยสกัดกั้นทางน้ำ การออกลาดตระเวนทางบกในช่องทาง/ท่าข้าม พื้นที่สุ่มเสี่ยง และจัดกำลังเจ้าหน้าหน้าชุดสืบสวนปราบปรามจำนวน 5 นาย พร้อมรถยนต์ตรวจการณ์อัจฉริยะ เป็นชุดเคลื่อนที่เร็ว ปรากฏกายแสดงกำลัง (Show of Force) สนับสนุนภารกิจพิเศษพร้อมปฏิบัติงาน 24 ชั่วโมง ซึ่งในห้วงที่ผ่านมาสามารถสกัดกั้นชาวเมียนมาที่ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ตม.จว.ระนอง ขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชนที่มีเบาะแสเกี่ยวกับคนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1178 เพื่อแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบและดำเนินการต่อไป
ขณะที่ศรชล.สินธิกำลังตรวจสอบเจอลูกเรือพม่าขึ้นฝั่งสั่งเรืออกนอกประเทศประสานเมียนมา
จากสถานการณ์เรื่องการแพร่ระบาดเชื้อโควิด 19 อย่างต่อเนื่องในประเทศเมียนมา ซึ่งจังหวัดระนองเป็น 1 ใน 10 จังหวัดซึ่งมีชายแดนติดกับประเทศเมียนมาส่งผลให้หลายหน่วยงานในจังหวัดระนองต่างต้องทำงานกันอย่างเต็มที่ในเรื่องการป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองของประชาชนชาวเมียนมาที่อาจจะมีเชื้อหากมีการหลบหนีเข้ามาได้ถึงพื้นที่ชั้นในอาจจะมีการแพร่เชื้อโควิด 19 ในส่วนของ ศรชล.จังหวัดระนอง ได้ดำเนินการตามนโยบายจาก พลเรือโท เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผอ.ศรชล.ภาค 3 ในการตรวจสอบเฝ้าระวังทางทะเล ตรวจสอบเรื่องเรือสินค้าที่มาจากประเทศเมียนมา ที่เข้า-ออก ในจังหวัดระนอง ทาง ศรชล.จังหวัดระนอง จึงได้ทำการบูรณาการสนธิกำลังกับ เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรจังหวัดระนอง เจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 สาขาระนอง นำเรือเรือเร็วออกสุ่มตรวจสอบ
โดยจากการออกสุ่มตรวจสอบทางน้ำเพื่อตรวจสอบทางหน้าแพสินค้า ซึ่งในช่วงปกติเจ้าหน้าที่จะเข้าสุ่มตรวจสอบทางบก ผลปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ได้สุ่มตรวจแพสินค้าที่มีเรือสินค้าจากประเทศเมียนมาที่บรรทุกถ่าน กำลังขนถ่ายสินค้าจากเรือขึ้นบนแพ เจ้าหน้าที่จึงทำการขอตรวจหนังสือ อนุญาตพร้อมเรียกลูกเรือชาวเมียนมามาทำการตรวจสอบความถูกต้อง ปรากฏว่าระหว่างที่ลูกเรือชาวเมียนที่อยู่ในเรือเดินออกมาจากภายในเรือ ได้มีลูกเรือชาวเมียนมาจำนวน 1 คน วิ่งออกมาจากบนแพในลักษณะไม่สวมเสื้อ รีบวิ่งลงบนเรือ เจ้าหน้าที่ได้ตะโกนถามว่าขึ้นไปทำอะไรแต่ลูกเรือคนดงกล่าวไม่ตอบ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบหนังสืออนุญาตเข้าประเทศ หนังสือนำสินค้าเข้าประเทศ พบมีรายชื่อลูกเรือจำนวนวน 10 คน แต่คนสุดท้ายเพิ่งออกมาจากแพ ซึ่งทางจังหวัดระนองได้สั่งห้ามอย่างเด็ดขาดไม่ให้ลูกเรือชาวเมียนมาที่มากับเรือสินค้าขึ้นฝั่งอย่างเด็ดขาด เพราะไม่ได้ผ่านการคัดกรองตรวจสอบเชื้อโควิด 19 ไม่สามารถไปปะปนกับคนไทยหรือแรงงานชาวเมียนมาที่ทำงานอยู่บนฝั่งได้ เพราะอาจะเป็นการแพร่เชื้อได้ หากลกเรือรายดังกล่าวมีเชื้อโควิด อีกทั้งยังไม่มีการสวมใส่หน้ากากขณะที่อยู่บนฝั่ง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้สั่งให้เรือบรรทุกถ่านหมายเลข TK 014 ออกจากน่านน้ำไทยทันที เนื่องจากทำผิดข้อตกลงข้อห้ามในเรื่องการขึ้นฝั่งในช่วงที่เชื้อโควิดระบาดอย่างหนักในประเทศเมียนมา พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการห้ามเรือลำดังกล่าวเข้ามาในประเทศไทยอีก อย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ได้ประสานไปยังหน่วยงานความมั่นไทยทำการประสานไปยังทางการเมียนมาถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าทางการเมียนมารับทราบปัญหาที่เกิด พร้อมดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับเรือลำดังกล่าวพร้อมทั้งลูกเรือทั้ง 10 คน ส่วนทางการไทยได้เชิญผู้ประกอบแพดังกล่าวมาทำการพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดเพราะเป็นการกระทำผิดไม่ใส่ใจในข้อตกลงเรื่องความปลอดภัย ทำให้แพอื่น ๆซึ่งส่วนใหญ่ที่ทำถูกต้องอาจจะได้รับผลกระทบไปด้วยจากเหตุการณ์ในครั้งนี้//
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: