นครศรีธรรมราช : ทนายความ เตรียมยื่นหลักทรัพย์ 1 ล้านต่อศาล ประกันตัว “นายกเล็กท่างิ้ว” ผกก. เผย สอบเพิ่มเติมทั้งคืนยังให้การปฏิเสธ ด้าน 3 กองกำลัง ลงพื้นที่ค้นหาพยานบุคคลและหลักฐานอื่น ๆ เพิ่ม
ความคืบหน้าคดี ดาบตำรวจสุเชษฐ์ นาคนาศักดิ์ ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการ 5 กองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) ประจำจังหวัดนครศรีธรรมราช ถูกคนร้ายจ่อยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่ลำตัวจนเสียชีวิต คาบ้านพักส่วนตัว ในพื้นที่ ตำบลท่างิ้ว อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อคืนวันที่ 7 ต.ค.63 ที่ผ่านมา
ซึ่งตำรวจชุดคลี่คลายคดี ได้เข้าตรวจค้นบ้านของผู้ต้องสงสัย เลขที่ 31/2 หมู่ 7 ต.ท่างิ้ว ที่อยู่คนละฝั่งถนนพบอาวุธปืนหลายกระบอก หนึ่งในนั้นเป็นอาวุธปืนลูกซองยาวที่ใช้ยิง ด.ต.สุเชษฐ์ หลังนำตรวจสอบอย่างละเอียด จนไปสู่การอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหา คือ นายชินกร นาคนาศักดิ์ ที่มีตำแหน่งเป็นถึง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลในพื้นที่เกิดเหตุ ที่ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุฆ่าหลานตนเอง ด้วยปมความขัดแย้งเรื่องส่วนตัว
ข่าวการลงพื้นที่กำกับดูแล คลี่คลายคดีของ พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติด้วยตนเอง แพร่สะพัดออกไปทั่ว ถึงแนวทางการสืบสวน ที่ระบุมั่นใจว่าคดีนี้จะสามารถคลี่คลายได้ไม่ยาก และจะได้ตัวผู้กระทำความผิดตัวจริงมาลงโทษทางกฎหมายได้อีกไม่นาน
เพียงไม่ถึง 3 วัน หลังเกิดเหตุ (10 ต.ค.63) ตร.สามารถออกหมายจับผู้ต้องหาได้ พร้อมระบุตัว นายชินกร นาคาศักดิ์ อายุ 65 ปี เจ้าของปืนลูกซองที่นำไปใช้ยิงสังหาร ด.ต.สุเชษฐ์ ซึ่งหลังทราบเรื่อง เจ้าตัวได้รีบชิ่งเข้ามอบตัวในทันที ก่อนที่หมายจับจะออก เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยเดินทางมาพร้อมทนายความส่วนตัวไปยัง บก.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ในช่วงเย็น ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับที่ตำรวจชุดหนุมาน กองบังคับการปราบปราม พร้อมอาวุธครบมือ กำลังจะนำหมายเพื่อเข้าปิดล้อมจับกุมผู้ต้องหา
ขณะที่รถของนายชินกร มาถึงและกำลังจะก้าวขาลง กำลังตำรวจชุดดังกล่าวได้เข้าปิดล้อมรถและควบคุมตัว นายชินกร ไปสอบสวนทันที พร้อมแจ้งข้อกล่าวหากับนายชินกร ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุจำเป็น แม้ตัวนายชินกร ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาก็ตาม โดยอ้างว่าตนเองอยู่กับครอบครัวที่บ้านในคืนเกิดเหตุ
อ่านข่าวย้อนหลัง :
https://www.77kaoded.com/news/kitdanai/2009491
หลังถูกนำตัวไปคุมขัง ที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช นายชินกร มีทีท่าวิตกกังวล โดยตลอดทั้งคืน มีญาติ ๆ เดินทางเข้าเยี่ยมให้กำลังใจ พร้อมอาหารและยารักษาโรคหัวใจมามอบให้ ด้วยความเป็นห่วง ขณะที่ทนายความได้นำหลักทัพย์เป็นเงินจำนวน 1 ล้านบาทมา เพื่อขอประกันตัว แต่ไม่สามารถประกันได้
พ.ต.อ.มณเทียร เบ้าทอง ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า หลังการสอบปากคำนายชินกร แล้วเสร็จ พงส.ได้คัดค้านการประกันตัวผู้ต้องหาในชั้นสอบสวนทันที เนื่องจากอาจไม่เป็นผลดีกับคดี และหากครบกำหนดควบคุมตัวใน 48 ชม. ก็จะนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขัง ต่อศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ในวันที่ 13 ต.ค.62
อย่างไรก็ตาม ทราบว่าทางญาติ ๆ และทนายความ ได้เตรียมหลักทรัพย์เพื่อจะนำไปประกันตัวในชั้นศาลไว้แล้วเช่นกัน
สำหรับแนวทางการสืบสวนสอบสวนนั้น ทาง พงส.ได้ประสานกับ สืบสวนภาค 8 และสืบสวนกองปราบปราม ที่ลงมาทำงานร่วมกัน ในการค้นหาพยานทั้งบุคคลและหลักฐานเพิ่มเติม ส่วนการติดตามไล่ล่าคนร้ายที่เหลือ ตามที่ รอง ผบ.ตร.ระบุไว้ว่า มีผู้ร่วมก่อเหตุมากกว่า 1 คนนั้น ตลอดวัน ชุดคลี่คลายคดี ประกอบด้วย ตำรวจชุด สืบสวน กก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช สนธิกำลังตำรวจในพื้นที่ ตำรวจสืบสวน ภาค 8 ตำรวจชุดสวาทจากกองปราบปราม และตำรวจ ปทส. ลงพื้นที่ปูพรหมตรวจค้นเป้าหมายต้องสงสัยในหลายพื้นที่ โดยนำตัวผู้ต้องสงสัย รวมถึงคนใกล้ชิดนายชินกร มาสอบสวนปากคำ แต่ยังไม่พบพยานหลักฐานใดที่ชี้ความผิดได้ จึงต้องปล่อยตัวผู้ต้องสงสัยไปก่อน
อ่านข่าวย้อนหลัง :
https://www.77kaoded.com/news/kitdanai/2006624
