X

“ไพจิต” ส.ส.เพื่อไทย นครพนมเขต 3 เหลือทน !! จี้มหาดไทย Recheck ผู้ว่าฯ+ นอภ.ทั่วอีสานเอี่ยวงบภัยแล้ง

นครพนม – “ไพจิต” ส.ส.เพื่อไทย นครพนมเขต 3 เหลือทน !! จี้มหาดไทย Recheck ผู้ว่าฯ+ นอภ.ทั่วอีสานเอี่ยวงบภัยแล้ง หลังพบพิรุธอำเภอธาตุพนม อปท.โวยถูกยื้อเวลาโครงการตก ชาวบ้านเสียประโยชน์

 

วันที่ 14 ตุลาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่จังหวัดนครพนม โดยเนื่องจากปีงบประมาณ 2563 ทางรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองเพื่อกรณีฉุกเฉินจำเป็น เพื่อใช้ดำเนินโครงการบรรเทาปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วม ที่จะเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนแก้ไขปัญหาในพื้นที่ทั้ง 12 อำเภอของจังหวัดฯ

ซึ่งจังหวัดนครพนมได้รับการจัดสรรงบประมาณ ตั้งแต่ต้นปี 2563 เป็นเงินกว่า 350 ล้านบาท รวมกว่า 450 โครงการ โดยทางกระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้ทางอำเภอทั้ง 12 อำเภอ เป็นผู้ดำเนินการจัดซื้อ จัดจ้าง ตามระเบียบ ในการหาผู้รับจ้างด้วยกรณีพิเศษ ตกลงราคาโครงการละไม่เกิน 5 แสนบาท

 

เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า ยังเกิดความวุ่นวายในหลายอำเภอ เนื่องจากบางพื้นที่มีปัญหาความขัดแย้ง รวมถึงปัญหาเรื่องการประสานงานระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นกับทางอำเภอ ไปกันคนละทิศละทาง ทำให้บางโครงการไม่สามารถหาผู้รับจ้างได้ทัน ตามระเบียบในปีงบประมาณ 2563 คือภายในวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา

เนื่องจากมีปัญหาเรื่องของการจัดทำเอกสารฯ เพราะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้สำรวจออกแบบ และส่งมอบพื้นที่ในเขตรับผิดชอบ เพื่อเสนอให้ทางอำเภอดำเนินการหาผู้รับจ้าง จึงเกิดช่องว่างให้มีการต่อรองเรื่องผลประโยชน์ รวมถึงการฉวยโอกาสวิ่งเต้นของผู้รับจ้างที่มีอิทธิพลในพื้นที่กับทางอำเภอบางแห่ง หากตกลงตัวเลขกันไม่ได้ก็ไม่มีการว่าจ้างใดๆ จึงส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่ ต้องสูญเสียประโยชน์ไม่ได้รับโครงการตามนโยบายรัฐบาล
ล่าสุด ดร.ไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม เขต 3 พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการปกครองสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากมีการดำเนินโครงการพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่จังหวัดนครพนม ตามงบประมาณรายจ่ายปี 2563 ได้เกิดปัญหาเป็นรูโหว่เมื่อพบข้อมูลจากการร้องเรียนของผู้นำชุมชนท้องถิ่นว่า มีบางอำเภอไม่สามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างหาผู้รับจ้างได้ทัน เนื่องจากมีปัญหาภายใน รวมถึงการประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในฐานะเจ้าของพื้นที่ ทำให้หลายโครงการงบประมาณต้องตกไป

สิ่งที่ตามมาคือชาวบ้านไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาเรื่องแหล่งน้ำ ทั้งนี้ตนได้รวบรวมเอกสารข้อมูล เสนอไปยังสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงกระทรวงมหาดไทย ให้มีการตรวจสอบการดำเนินการของผู้ว่าราชการจังหวัด รวมถึงนายอำเภอทุกแห่งในพื้นที่ภาคอีสาน รวมถึงจังหวัดนครพนม หลังพบว่าบางอำเภอในพื้นที่ฯ อาทิเช่นอำเภอธาตุพนม มีปัญหาไม่สามารถจัดซื้อจัดจ้างได้ทัน ทำให้โครงการตก ไม่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งถือว่าเป็นความผิดพลาดในการทำงาน ไม่สนองนโยบายรัฐบาล ประชาชนเดือดร้อนไม่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนได้ ในฐานะตนเป็นประธานคณะกรรมมาธิการการปกครอง จะต้องมีการตรวจสอบขั้นตอนการทำงานจัดซื้อจัดจ้างภาพรวมทั้งจังหวัด รวมถึงของอำเภอทั้งความผิดพลาด ต้องตรวจสอบว่ามีเจตนามาจากการทุจริตหรือไม่ หรืออาจจะมีการยื้อเวลาต่อรองผลประโยชน์ร่วมกับผู้รับจ้างตามมา ทำให้งบประมาณตกไป

เบื้องต้นมีข้อมูลว่า ในพื้นที่อำเภอธาตุพนม มีโครงการของ อบต.นาถ่อน ทั้งหมดรวมกว่า 14 โครงการงบประมาณกว่า 6 ล้านบาท พบว่ามีการเลือกลงระบบเพื่อหาผู้รับจ้างเพียง 6 -7 โครงการ ทำให้โครงการสำคัญต้องตกไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยตนจะได้รวบรวมหลักฐานในพื้นที่ที่มีปัญหา รวมถึงทั้งจังหวัด และประสาน ส.ส.ทั่วทั้ง 20 จังหวัดภาคอีสาน ร่วมตรวจสอบ พร้อมเสนอให้กระทรวงมหาดไทย ดำเนินการตรวจสอบเร่งด่วน หากจังหวัดไหนบกพร่อง หรือพบข้อมูลทุจริต จะต้องดำเนินการตามกฎหมายทันที เพราะถือเป็นเรื่องสำคัญ การยื้อเวลาทำให้งบตก ไม่สนใจความเดือดร้อนชาวบ้าน ถือว่าไม่สนองนโยบายรัฐบาล

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน