พระนครศรีอยุธยา-ช่างสิบหมู่ขึ้นสำรวจรอยร้าวองค์พระบรมรูปวีรกษัตริย์และวีรกษัตรีสมัยกรุงศรีอยุธยา 6 พระองค์หน้าศาลากลางหลังเก่าอยุธยา อายุเกือบร้อยปี ฝีมือออกแบบโดยอ.ศิลป์ พีระศรี มีรอยร้าวทั่วองค์ ชี้ไม่เกิน 2 ปีหากไม่ซ่อมแซมมีหวังพังลงมา
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 15 ตค ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากนายชรินทร์ ฉายอรุณ กองช่างสิบหมู่ กรมศิลปากร ว่าจากการที่ตนได้รับการประสานทางนายมานัส ทรัพย์มีชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวพระนครศรีอยุธยา และดร.จีระพันธ์ พิมพ์พันธ์ ประธานสภาวัฒนธรรมจังหวัดฯ ให้ทำความสะอาดองค์พระบรมรูปวีรกษัตริย์ และวีรกษัตรี 6 พระองค์ที่ประดิษฐานอยู่ด้านบนหน้าศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา หลังเก่า ซึ่งปัจจุบันเป็นศูนย์ข้อมูลข่าวสารอยุธยา และที่ตั้งของหอศิลป์ฯ รวมทั้งส่วนแสดงนิทรรศการของ ททท.พระนครศรีอยุธยา โดยได้นำรถเครนและเครื่องมือทำความสะอาดมาดำเนินการล้างและลงแวกสีดำตลอดทั้งวันที่ 13 ตค.ที่ผ่านมา
จากการขึ้นไปสำรวจสภาพของพระบรมรูปทุกพระองค์ประกอบด้วยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 หรือสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ สมเด็จพระสุริโยทัย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระนารายณ์มหาราช และสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พบว่าทุกองค์เป็นการสร้างด้วยปูนประกอบเป็นชิ้น และพบว่ามีร่อยรอยร้าวทุกองค์ มากน้อยแตกต่างกัน โดยส่วนที่เป็นรอยร้าวจะเป็นรอยต่อของชิ้นส่วนเช่นแขน อก หลัง ทำให้น้ำซึมเข้าไปและปูนกร่อนหลุดออก จนเห็นโครงเหล็กข้างใน โดยเฉพาะสมเด็จพระสุริโยทัย ในส่วนของง้าวที่ถือนั้นหลุดออกมาจนเห็นเหล็กที่ขึ้นสนิมด้านใน ส่วนสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถมีรอยร้าวที่พระเศียรส่วนบน และมีรูจากการสึกกร่อนด้านหลังจนน้ำเข้าไป และถึงเนื้อเหล็ก ซึ่งการทำความสะอาดทำได้เพียงการเอาน้ำชำระล้าง แล้วลงแวกลมควันทับเอาไว้ เพื่อไม่ให้น้ำซึมเข้าตัวปูน แต่ก็ควรที่จะซ่อมแซมใหญ่ภายในเวลา 2 ปี
ด้านนานเฉลิมชัย สุดเคราะห์ นายช่างสิบหมู่ที่ขึ้นทำความสะอาดกล่าวว่า เดิมเข้าใจว่าเป็นเนื้อโลหะแต่ไม่ใช่กลายเป็นปูน ซึ่งเป็นผลงานการขึ้นรูปและออกแบบโดยศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี เป็นงานที่ทรงคุณค่าอย่างมากมีอายุมากกว่า 80 ปี ซึ่งจากสภาพทั่วไปเป็นห่วงเรื่องน้ำฝนที่ซึมเข้าไปในตัวปูนที่มีความเป็นกรด อาจจะกัดกร่อนเหล็กภายในทำให้ผุ และเนื้อปูน ซึ่งมีการหลุดล่วงตามจุดต่างๆ หลายจุดแล้ว ซึ่งหากไม่ซ่อมแซมก็มีโอกาสที่ชิ้นส่วนต่างๆ จะหลุดลงมาได้ในเวลาไม่นานนี้
นายมานัส ทรัพย์มีชัย ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่าศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา สร้างมาเมื่อปี 2484 สมัยหลวงบริหารชนบท เป็นข้าหลวงประจำจังหวัด โดยได้รับการสนับสนุนจากนายปรีดี พนมยงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังซึ่งเป็นชาวอยุธยาในสมัยนั้น และด้วยความเก่าแก่จนไม่สามารถใช้การได้ ต่อมานายจตุรงค์ ด่านชัยวิโรจน์ นางขวัญลักษณ์ ด่านชัยวิโรจน์ นายวรพจน์ ด่านชัยวิจิตร และนางสมพิศ ด่านชัยวิจิตร ได้มอบที่ดินติดถนนสายเอเซียเพื่อสร้างศูนย์ราชการจังหวัดฯแห่งใหม่ ศาลากลางเก่าปัจจุบันจึงเป็นศูนย์ข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยวอยุธยา และหอศิลป์ มีพระบรมรูป 6 พระองค์เป็นสัญญลักษณ์โดดเด่นจนถึงวันนี้ ตนได้ร่วมกับสภาวัฒนธรรมจังหวัดฯทำการเรี่ยไรเงินในการทำความสะอาดและลงแวก เป็นเงิน 1.5 แสนบาท ซึ่งไม่คิดว่าพระบรมรูปจะเป็นปูนและมีรอยร้าวหลายแห่ง ซึ่งจะได้แจ้งให้ทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ทราบเพื่อดำเนินการแก้ไขต่อไป
