ราชบุรี ในวันนี้ ( 18 ต.ค. 63 ) นายชนันท์ อินทรักษ์ ปลัดอาวุโส อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี พร้อมด้วย ร.อ.ปราโมทย์ ดวงปาน หัวหน้าชุด ช. 11 พัน 111 ค่ายบุรฉัตร นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ นายสมศักดิ์ เหลืองจรุงรัตน์ นายกเทศบาลสวนผึ้ง นายวิวัฒน์ นิติกาญจนา ว่าที่ผู้สมัคร นายก อบจ.ราชบุรี ได้เข้าตรวจสอบบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่หมู่ 2 บ้านทุ่งแฝก ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี หลังเกิดฝนตกหนักระลอกสองหลายวัน ส่งผลทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากจากเทือกเขาตะนาวศรี สู่ลำน้ำแม่น้ำภาชี กัดเซาะตลิ่งจนน้ำเปลี่ยนเส้นทาง เข้าสู่บ้านเรือนประชาชนที่ปลูกอยู่ริมตลิ่งได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะห้องน้ำถูกน้ำกัดเซาะทรุดจมหายไปกับสายน้ำ เหลือแต่ท่อน้ำและเศษปูนและผนังบ้านบางส่วนที่โผล่ให้เห็นหลายจุด ตัวบ้านที่ปลูกสร้างด้วยปูนเริ่มมีรอยแตกร้าว และด้วยสภาพพื้นดินปนทรายทำให้ถูกน้ำป่ากัดเซาะได้ง่ายและรวดเร็ว จนเจ้าของบ้านต้องขนย้ายของหนีออกจากบ้านตั้งแต่เมื่อช่วงตี 2 ของคืนที่ผ่านมาเกรงจะเกิดอันตราย
จากการสอบถามนางสำรวย งามตา อายุ 55 ปี เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า น้ำป่าเริ่มมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ และได้ไหลกัดเซาะบ้านเมื่อช่วงประมาณตี 2 ของเมื่อนี้ แต่ก่อนลำห้วยจะอยู่บริเวณห่างออกไปจากตัวบ้านค่อนข้างไกล แต่ปีนี้กระแสน้ำเปลี่ยนเส้นทางมาแรงมาก ทำให้ต้องช่วยกันเก็บขนของรีบย้ายออกไปอยู่ข้างบ้านชั่วคราวก่อน เพราะน้ำป่าได้กัดเซาะห้องน้ำบ้านหล่นจมหายไปแล้วเกรงจะเกิดอันตราย โดยน้ำป่าได้เปลี่ยนเส้นทางการไหลเข้ามาในพื้นที่บริเวณตัวบ้านกับลำห้วยห่างกันประมาณเกือบ 2 ไร่ เป็นปีแรกที่เกิดสถานการณ์แบบนี้ โดยตัวเองได้ปลูกสร้างบ้านใช้เงินประมาณ 2 แสนบาท ตอนนี้อยู่บ้านไม่ได้แล้ว
ด้านนางบุญยิ่ง นิติกาญจนา ส.ส.ราชบุรี เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากหนูน้อยเป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งได้ส่งไลน์มาบอกว่าบ้านของหนูกำลังจะไปแล้วค่ะ ห้องน้ำบ้านหนูไปหมดแล้วกับน้ำป่า จึงประสานกับปลัดอาวุโสอ.สวนผึ้งพร้อมหน่วยงานต่างๆเข้ามาตรวจสอบดูความเสียหายตามที่ได้รับเรื่องขอความช่วยเหลือเข้ามา หลังจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากปลัดอาวุโส อ.สวนผึ้งว่ามีชาวบ้านบริเวณหมู่ 2 ได้รับผลกระทบจากน้ำป่าหลากจากลำห้วยรุนแรง ช่วงขณะนี้เห็นว่ามีสิ่งกีดขวางทางน้ำทำให้น้ำไปไม่ได้ เป็นปัญหาให้น้ำกัดเซาะตลิ่งด้านข้างไปประมาณ 10 เมตรเศษ ตรงที่เข้าไปตรวจสอบพื้นที่วันนั้นยังคงเหลือพื้นที่บริเวณห้องน้ำยังดีอยู่ ในหมู่บ้านนี้มีชาวบ้านอาศัยอยู่ประมาณกว่า 20 หลังคาเรือน แต่มาวันนี้กลับพบว่าบ้านหลังนี้ถูกน้ำป่าหลากกัดเซาะมากทำให้ห้องน้ำจมหายอยู่ในลำห้วยไปแล้ว คืนนี้หากยังคงมีฝนตกน้ำหลากอยู่อย่างนี้เชื่อว่าบ้านหลังนี้ได้รับผลกระทบหนัก ขณะนี้ถูกน้ำป่ากัดเซาะเกือบจะไปครึ่งหลังแล้ว ซึ่งจะพยายายามหาแนวทางเร่งช่วยเหลือ แม้ว่าบ้านหลังนี้จะมีชาวบ้านที่ไม่ใช่คนไทยร้อยเปอร์เซ็นต์ คิดว่าไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือไม่ใช่คนไทยก็คืออยู่ในประเทศไทยด้วยกัน รัฐบาลและทุกคนจะช่วยดูแลอย่างเต็มที่ และจะรับปัญหานี้ไปแจ้งจังหวัดและศูนย์ภาครัฐบาลเข้ามาเร่งดำเนินการแก้ไขช่วยเหลือประชาชนที่นี่อย่างเร่งด่วน
ส่วน นายชนันท์ อินทรักษ์ ปลัดอาวุโส อ.สวนผึ้ง เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากอ.สวนผึ้ง ฝ่ายปกครองเข้ามาดูแลประชาชน พร้อมหาแนวทางแก้ไขปัญหาร่วมกับหน่วยทหารในการจะหาวิธีฟื้นฟูพื้นที่ให้กับชาวบ้านที่เดือดร้อน หลังจากที่ภาวะน้ำหลากลดปริมาณลง อยู่ในสภาพที่สามารถดำเนินการฟื้นฟูได้ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าทางอำเภอสวนผึ้ง ท้องถิ่น ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะเร่งแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน โดยน้ำหลากเป็นปัญหาหนึ่ง แต่ปัญหาที่เกิดจากน้ำหลากตามมาก็คือการกัดเซาะที่ดิน ที่อยู่อาศัยและทำกินของประชาชน เป็นปัญหาที่เกิดซ้ำซากตามมาเป็นระยะเวลาที่ยาวนาน
ข่าวน่าสนใจ:
อย่างไรก็ตามทางคณะ ส.ส.ราชบุรี ได้นำข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องอุปโภค บริโภค นมกล่อง มามอบแก่ประชาชนในหมู่บ้านดังกล่าว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ความช่วยเหลือต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: