ฉะเชิงเทรา – ม็อบสามนิ้วโผล่ชุมนุมแปดริ้ว ขณะอดีตนักเคลื่อนไหวเสื้อแดงดาหน้าโผล่แจมร่วมก๊วนกลุ่มการเมืองวัยละอ่อน ก่อนสลับกันปราศรัยด้วยข้อมูลด้านเดียวโจมตีฝ่ายรัฐบาล ทั้งยังด่าทอนายกรัฐมนตรีด้วยคำหยาบคายตลอดการปราศรัย และปลุกระดมให้มวลชนชูสามนิ้วขึ้นเป็นระยะ ด้าน ส.ส.ก้าวไกลในพื้นที่ปรากฎตัวท้ายรายการ ระบุไม่ต้องเป็นคนดีแต่แค่ทำหน้าที่ของตนเองก็พอ
วันที่ 18 ต.ค.63 เวลา 20.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานหลังการรวมตัวชุมนุมของกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อขับไล่รัฐบาล ที่ได้มีการนัดแนะให้มารวมตัวชุมนุมกันผ่านทางโลกโซเชียล ยังที่บริเวณลานศาลาไทย (ศาลาจตุรมุข) หน้าศาลากลางจังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อแสดงพลังแฟลชม็อบในพื้นที่ ซึ่งครั้งแรกได้มีการนัดหมายกันไว้ยังที่บริเวณสี่แยกคอมเพล็กซ์ (สี่แยกกองพลทหาราบที่ 11 ) ต.บางตีนเป้ด อ.เมืองฉะเชิงเทรา
แต่ได้มีการแจ้งเปลี่ยนที่นัดหมายในการชุมนุมก่อนถึงช่วงเวลานัดหมายชุมนุมในเวลา 17.00 น. ให้ย้ายมายังที่บริเวณด้านหน้าศาลากลาง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งหลังการแจ้งเปลี่ยนที่หมายย้ายที่รวมตัวชุมนุมมายังศาลากลางแล้ว ได้เริ่มมีมวลชนทยอยเดินทางมารวมตัวกันยังที่บริเวณลานศาลาไทย ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับศาลากลาง จ.ฉะเชิงเทรา โดยที่ผู้ร่วมชุมนุมพากันทยอยเข้ามามากถึงกว่า 1 พันคน และใช้ฐานของเสาธงชาติใหญ่หน้าศาลากลางเป็นเวทีในการขึ้นปราศรัย
โดยมีรถติดตั้งเครื่องขยายเสียงเจ้าประจำที่เคยคอยให้การสนับสนุนการชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดงในอดีต มาจอดคอยให้บริการในการสนับสนุนทางด้านระบบเสียงในการชุมนุม ซึ่งในการปราศรัยได้มีการพูดปลุกระดมให้มีการชูสามนิ้วอยู่เป็นระยะ สลับกับการปราศรัยขับไล่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือลุงตู่ ด้วยการเปลี่ยนคำเรียกชื่อคำนำหน้าให้ใหม่เป็นอย่างอื่น
โดยมีแกนนำซึ่งเป็นบุคคลที่เคยเคลื่อนไหวทางการเมืองในซีกของคนใส่เสื้อสี (แดง)ในอดีตเป็นผู้กล่าวปราศรัยหลัก สลับกับการให้เด็กและเยาวชนรุ่นใหม่ๆ ได้ลุกขึ้นมาปราศรัยแสดงความคิดเห็นสลับกันอยู่เป็นระยะ ซึ่งส่วนใหญ่ได้แสดงความคิดเห็นและปราศรัยทางการเมืองไปตามแนวทางความคิดของกลุ่มตนเอง หรือมีการใช้ข้อมูลแต่เฉพาะด้านของฝ่ายตนตามที่ได้รับมาเพียงด้านเดียว
พร้อมกับเรียกชื่อและใส่คำด่าถึงนายกรัฐมนตรี และเรียกร้องให้มวลชนพูดขับไล่ให้ออกไปอยู่เป็นระยะ ขณะที่เยาวชนบางรายมีความเก็บกด หลังจากที่คนในครอบครัวเคยถูกเจ้าหน้าที่ในยุค คสช.บุกเข้าไปในบ้าน เพื่อเข้าไปดำเนินการต่อเจ้าหนี้นอกระบบกับทางผู้ปกครอง ที่มีธุรกิจปล่อยเงินกู้นอกระบบ และนำมากล่าวปราศรัยโจมตีถึงการทำงานของเจ้าหน้าที่ในครั้งนั้นว่า
ไม่สามารถช่วยแก้ปัญหาอะไรได้ เพราะคนไทยยังคงเป็นหนี้กันอยู่คงเดิมทุกคน โดยระบุว่าทางครอบครัวนั้นปล่อยเงินกู้นอกระบบเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านตาดำๆ ที่เดือดร้อนเข้ามาขอเงินจากมารดาของตน ทั้งยังมีการกล่าวโจมตีถึงกรอบยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี อย่างผู้ที่ยังไม่มีความเข้าใจในความหมายว่า เหตุใดจึงต้องมีการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ หรือแผนในการพัฒนาไว้ในระยะยาวก่อนล่วงหน้า
นอกจากการปราศรัยโจมตีรัฐบาลแล้ว ยังมีผู้ปราศรัยบางรายนั้นกล่าวโจมตีด่าทอไปถึง ส.ส.ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ที่เคยสังกัดพรรคอนาคตใหม่ แต่ได้ย้ายพรรคไปสังกัดพรรคภูมิใจไทย หลังจากพรรคถูกยุบว่าเป็นงูเห่า โดยมีผู้ร่วมชุมนุมบางรายนั้นได้ใส่คำนำหน้าชื่อที่ไม่สุภาพให้ใหม่ แบบเดียวกับนายกรัฐมนตรีอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีการปราศรัยเชิญชวนให้ไปช่วยกันเลือกตั้ง ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา จากพรรคก้าวไกล และกล่าวโจมตีถึง นายก อบจ.คนปัจจุบัน ว่ารับใช้เผด็จการ
ต่อมาในช่วงท้ายของการชุมนุม ก่อนที่จะมีการสลายตัวพากันกลับไป ในเวลาประมาณ 20.00 น. ได้มีนายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ ส.ส.พรรคก้าวไกล ได้เดินทางมาขึ้นเวทีกล่าวปราศรัย โดยระบุว่าตนเองไม่สามารถที่จะพูดอะไรได้มากนัก เพราะยังเป็น ส.ส.อยู่ แต่ได้เข้ามาทำหน้าที่ของผู้แทนราษฎร เพื่อมาสังเกตการณ์ว่าประชาชนนั้นคิดเห็นอย่างไร เพื่อนำไปใช้ในรัฐสภา
จากนั้นได้พูดไปถึงยังในเรื่องของการทำงานของตนเองในสภา ที่ระบุว่า คนเป็นตัวแทนของประชาชนไม่จำเป็นต้องเป็นคนดี แค่ให้ได้ทำหน้าที่ของตนเองก็พอ อย่างเช่นการที่ตนทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้นก่อนขึ้นเวทีเมื่อกี้นี้ ก็ถือว่าไม่ได้เป็นคนดี แต่ได้เข้าไปทำหน้าที่ตัวแทนของประชาชนในสภาก็พอ ขอให้ดูกันที่ผลงาน ถ้าเอาคนไม่ดีมาทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร แล้วเขาทำหน้าที่ผู้แทนราษฎร เอาเสียงของประชาชนไปใช้ในรัฐสภา จริงๆ โดยที่ไม่ฟังใคร ไม่มีประโยชน์แอบแฝงพอไหม มันก็พอแล้วไม่ใช่หรือ
การแก้รัฐธรรมนูญสำคัญที่สุด ซึ่งมันไม่ใช่แค่นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันคนเดียว แต่มันสั่งสมมานานแล้ว เพราะนี่คือการยังคงอยู่ต่อไปของระบบเผด็จการ และเป็นสัญญาณที่ดีที่สื่อแขนงหลักหลายช่องทาง ได้มีการถ่ายทอดสดการชุมนุมเริ่มตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว หากมีการชุมนุมที่นี่ก็ดีเพราะตนจะได้ไม่ต้องเดินทางไปสังเกตการณ์ถึงในกรุงเทพ ตนจะได้มาสังเกตการณ์คนบ้านเราดีกว่า สำหรับ จ.ฉะเชิงเทรา ยังไม่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ผู้ชุมนุมสามารถรวมตัวกันเคลื่อนไหวได้ ตามนั้น นายจิรัฏฐ์ บนเวทีกล่าวปราศรัย
–ม็อบสามนิ้วมาอีก พร้อมความฉาวสาวหน้าสวย โชว์ป้าย “ห” นำหน้าศาลากลาง
