กรุงเทพฯ – นายกรัฐมนตรี สั่งตำรวจ-หน่วยงานเกี่ยวข้อง ทบทวนคำสั่งระงับการออกกาศของสื่อออนไลน์ เว้นกรณีแพร่ข้อมูลเท็จ บิดเบือน ยุยง ปลุกปั่นชัดเจน ส่วนสื่อมวลชนเองก็ต้องระมัดระวัง
วันที่ 20 ตุลาคม 2563 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงคำสั่งของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง ให้ตรวจสอบและระงับการออกอากาศรายการของสื่อและสื่อออนไลน์ ที่มีเนื้อหากระทบความมั่นคงและความสงบเรียบร้อยของประเทศ เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2563 ว่า สื่อมวลชนล้วนเป็นภาคส่วนสำคัญของสังคมไทย คือ พลังสำคัญที่จะสร้างความชอบธรรม สร้างสรรค์ และสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ดีให้แก่ประเทศได้ บทบาทของสื่อที่ทำหน้าที่อย่างมีสิทธิ เสรีภาพ มีความเป็นกลาง ได้สร้างคุณประโยชน์มากมายต่อประเทศ โดยเฉพาะการปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ ด้วยการเฝ้าระวัง ตรวจสอบสิ่งต่าง ๆ ในสังคม การตรวจสอบและการถ่วงดุลอำนาจ
วันนี้ ได้สั่งการพร้อมมอบแนวทางให้ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผู้ตัดสินใจออกคำสั่งดังกล่าว ขอให้ทบทวนคำสั่งระงับการออกอากาศต่าง ๆ และขอให้พิจารณาคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของสื่อมวลชนเป็นสำคัญ ยกเว้นบางกรณีที่มีการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ บิดเบือนข้อเท็จจริง ยุยงปลุกปั่น หรือ Fake News ที่ชัดเจน นำเสนอข่าวที่ตั้งใจบิดเบือนมีเนื้อหาก้าวล่วง ละเมิดสิทธิตามกฎหมายของผู้อื่น ให้ตำรวจยึดหลักการตามกฎหมาย และดำเนินการเฉพาะเป็นเรื่อง ๆ ไป จึงอยากสร้างความเข้าใจแก่ทุกภาคส่วน บางอย่างที่มีความจำเป็นต้องถูกระงับการออกกาศตามคำสั่งก็ต้องปฏิบัติตาม
“เป็นหน้าที่ของเราทุกคน ที่ต้องช่วยกันป้องกันกำจัดการกระทำที่มีเจตนาร้ายต่อประเทศ ความพยายามที่จะยุยงปลุกปั่น สร้างความวุ่นวายและความแตกแยกในประเทศไม่ต้องยอมให้เกิดขึ้น นายกรัฐมนตรีไม่เคยละเมิดสิทธิใคร แต่ทุกฝ่ายก็ต้องระวังการละเมิดสิทธิของผู้อื่นด้วย” นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำ
