ราชบุรี ในวันนี้(26 ต.ค.63 ) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีผู้หญิงไปขโมยเงินกฐิน โดยมีภาพจากกล้องวงจรปิด จับภาพผู้หญิงรูปร่างท้วม ผมยาว สวมเสื้อสีขาว สวมกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน สะพายกระเป๋า ได้เข้ามาที่วัดหนองปลาหมอ หมู่ 5 ต.หนองปลาหมอ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี เมื่อช่วงสายวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งทางวัดกำลังมีงานทอดกฐินสามัคคี โดยหญิงรูปร่างท้วมดังกล่าว เมื่อสบโอกาสได้แอบยกเอาพุ่มกฐินซึ่งมีเงินกว่า 2 หมื่นบาท ของชาวบ้านที่นำมาทำบุญไป จึงเดินทางไปตรวจสอบที่วัดโดยได้พบกับ ร.ต.อ.วิโรจน์ พันพลับ รอง สวป.สภ.บ้านโป่ง ทำหน้าที่หัวหน้าสายตรวจตำบลหนองปลาหมอ กำลังเข้าพบกับ พระครูประภัทรสรธรรม เจ้าอาวาสวัดหนองปลาหมอ และ นายพร้อม พรหมดี รอง นายก อบต.หนองปลาหมอ และเป็นหนึ่งในคณะกรรมการวัดด้วย เพื่อสอบถามรายละเอียด หลังจากเกิดเหตุมีหญิงคนร้ายฉกเงินพุ่มกฐินไป พร้อมทั้งขอภาพคนร้าย ที่กล้องวงจรปิดของวัด สามารถบันทึกไว้ได้ เพื่อจะนำไปตรวจสอบว่าคนร้ายซึ่งเป็นผู้หญิงอ้วนรายนี้ที่ก่อเหตุ เป็นใครเพื่อจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดี
โดยนายพร้อม พรหมดี รองนายก อบต.หนองปลาหมอ เปิดเผยว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านมา ทางวัดหนองปลาหมอ ได้จัดงานทอดกฐินสามัคคี ขึ้น โดยมีชาวบ้านทั้งในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงกว่า 10,000 คนมาร่วมงาน ระหว่างนั้นได้มี น.ส.เอ นามสมมุติ และเพื่อนๆอีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มพนักงานบริษัทหนุ่มสาวทัวร์ และครู ก.ศ.น. อ.บ้านโป่ง ได้นำพุ่มกฐิน ซึ่งมีเงินกว่า 20,000 บาท ไปวางไว้บริเวณประรำพิธีรวมกับพุ่มกฐินของคณะเจ้าภาพและชาวบ้านคนอื่นรวมอยู่ด้วยจำนวนมาก จากนั้น น.ส.เอ กับเพื่อนๆ ก็เดินออกไปช่วยทางวัดจำหน่ายผ้าไตรตรงจุดบริการ แต่เมื่อเดินกลับมาเพื่อจะนำพุ่มกฐินไปทำพิธีเดินแห่รอบพระอุโบสถ ปรากฎว่าพุ่มกฐินได้หายไป ทางคณะกรรมการจึงได้ตรวจสอบจากภาพกล้องวงจรปิด ก็พบว่ามีผู้หญิงรูปร่างอ้วน ผมยาว สวมเสื้อสีขาว สวมกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน สะพายกระเป๋า ได้เข้ามายังประรำพิธี ยืนสำรวจหาเจ้าของพุ่มกฐินและชาวบ้านที่อยู่ในงาน เมื่อสบโอกาสจึงอุ้มพุ่มกฐินดังกล่าว เดินไปฝากไว้ที่โต๊ะแผนกการเงินของคณะกรรมการ โดยอ้างว่าจะไปเข้าห้องน้ำ เวลาผ่านไปประมาณ 20 นาที จึงเดินย้อนกลับมานำพุ่มกฐินไปยังบริเวณข้างหลังโบสถ์ แล้วปลดเงินออกจากพุ่มกฐิน ทิ้งพานและไม้ปักกฐินไว้ จากนั้นคนร้ายยังได้เดินไปทั่วบริเวณวัด ก่อนหลบหนีออกไป ซึ่งตนเองเป็นกรรมการวัดมาแล้วว่า 40 ปี ยังไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน โดยเมื่อชาวบ้านรู้ว่ามีสาวใหญ่รูปร่างอ้วนขโมยพุ่มกฐินไป ต่างเสียใจและวิพากษ์วิจารณ์ ถึงการกระทำของคนร้ายว่าจิตใจทำด้วยอะไร ถึงก่อเหตุเช่นนี้ได้ มันเป็นบาปเป็นกรรม เงินที่ได้ไป เป็นเงินทำบุญของชาวบ้านที่ยกมือท่วมหัว ตั้งใจนำมาถวายเพื่อต้องการจะให้ทางวัด นำไปบูรณปฏิสังขรณ์และพัฒนาวัดให้เจริญ แต่คนที่ก่อเหตุกลับไม่เกรงกลัวบาปกรรม สำหรับเงินรายได้จากการทอดกฐินทั้งหมด ทางวัดจะนำไปบูรณะศาลาการเปรียญไม้อายุเก่าแก่กว่า 100 ปี ที่ปัจจุบันดำเนินการไปได้แล้วกว่าร้อยละ 50 ซึ่งนอกจากพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนจะได้ใช้ประกอบพิธีทางศาสนาแล้ว ยังเป็นการอนุรักษ์ศิลปะวัฒนธรรมของชาวไท-ยวน ให้คนรุ่นหลังได้เห็นและสืบทอดต่อไปอีกด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: