ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีชาวบ้านทั้งในและนอกพื้นที่ต่างพากันเข้ามาดูชมช่อฟ้าหัสดีลิงค์วัดใหม่ท่ากลอง หรือวัดท่ากลองสุวรรณเภรี หมู่ 1 ตำบลบ้านใหม่ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา เพราะถือว่าเป็นวัดที่สร้างช่อฟ้า ใบระกาที่มีความแปลกตา แตกต่างจากวัดอื่นที่สร้าง ช่อฟ้าใบระกาด้วย ด้วยเศียร ของพญานาค แทบทั้งสิ้นแต่วัดใหม่ท่ากลอง ทางคณะสงฆ์และสาธุชนชาวบ้าน ตำบลบ้านใหม่ ได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างอุโบสถหลังนี้ขึ้นมาเมื่อปี 2559 ด้วยงบประมาณ 10 ล้านกว่าบาท โดยนำแบบมาจากจังหวัดลำพูน เป็นศิลปะล้านนา ทาด้วยสีทองเหลืองอร่ามประดับด้วยกระจกแก้ว บานประตูและหน้าต่าง แกะสลักด้วยไม้ตะเคียนทอง ทั้งหมด
สำหรับอุโบสถกว้าง 10 เมตรสูง 15 เมตรยาว 40 เมตร โดยบนหลังคา หรือหน้าจั่วและหน้ามุก จะมีช่อฟ้าใบระกาเป็นนกหัสดีลิงค์ จำนวน 6 ตัว ชูเด่นสง่าอยู่บนหลังคาอย่างสวยงาม โดยเฉพาะช่วงกลางวันที่มีแสงแดดสาดส่อง นับว่าเป็นอุโบสถของวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดพะเยา ที่มีช่อฟ้าใบระกาเป็นนกหัสดีลิงค์ นับว่าเป็นเพียงวัดเพียงแห่งเดียวของจังหวัดพะเยาที่มีช่อฟ้าใบระกาเป็นนกหัสดีลิงค์
นกหัสดีลิงค์ตามตํานาน “นกหัสดีลิงค์” เป็นสัตว์หิมพานต์ชนิดหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ มีกำลังมหาศาล ลำตัวเป็นนกมีปีกและหาง แต่ส่วนหัวเหมือนช้าง มีงวงและงา ซึ่งคนโบราณ 3 ได้มีความเชื่อว่านกหัสดีลิงค์ สัตว์ที่มี พลาอานุภาพ ทุกด้าน จนเป็นที่เชื่อถือของพระสงฆ์และคนโบราณ จนนำเอาสัญลักษณ์ของนกหัสดีลิงค์ มาประกอบพิธีต่างๆ ที่สำคัญ ด้วยดังกล่าว จนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะถิ่นล้านนา และถิ่นอีสาน
นายสี ใจแข็ง อายุ 65 ปี ชาวบ้านใหม่ท่ากลอง ตำบลบ้านใหม่อำเภอเมืองจังหวัดพะเยากล่าวว่า อุโบสถวัดใหม่ท่ากลอง หรือวัดท่ากลองสุวรรณเภรี สร้างเมื่อปี 2559 เป็นแบบศิลปะล้านนา นำแบบมาจากจังหวัดลำพูน ทำการสร้างขึ้นมาใหม่แทนอุโบสถหลังเก่า ซึ่งอุโบสถหลังนี้ทางเจ้าภาพ ที่สร้าง ได้นำเอาศิลปะรูปปแบบล้านนา โดยช่อฟ้าใบระกาจะเป็นรูปนกหัสดีลิงค์ประดับไว้บนหลังคาหน้าจั่ว อุโบสถ และหน้ามุกของอุโบสถ รวมทั้งหมด มีนกหัสดีลิงค์จำนวน 6 ตัว สำหรับอุโบสถที่มีนกหัสดีลิงค์ก็เพิ่งเคยเห็นเพราะโดยปกติจะไม่เคยเห็นที่ไหนในพื้นที่จังหวัดพะเยาและถือว่าเป็นอุโบสถเพียงหลังเดียวของจังหวัดพะเยาที่มีช่อฟ้าใบระกาเป็นนกหัสดีลิงค์
