ฉะเชิงเทรา – คนหลั่งไหล เดินเที่ยวงานเทศกาลเดือนสิบสองนมัสการหลวงพ่อโสธร และงานประจำปีของชาว จ.ฉะเชิงเทรา อย่างคับคั่งในคืนแรก ถึงขั้นต่อแถวเรียงคิวยาวไกลรอผ่านด่านเข้าตรวจคัดกรองโควิด19 นับร้อยเมตร ขณะภาคเอกชนผู้ให้การสนับสนุนการจัดงานเสริมความยิ่งใหญ่สมบารมีองค์หลวงพ่อ ขนนำนวัตกรรมด้านพลังงานมาอวดพร้อมสร้างความฝันให้คนแปดริ้ว
วันที่ 28 ต.ค.63 เวลา 20.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเดินทางมาเที่ยวงานเทศกาลเดือนสิบสองนมัสการหลวงพ่อโสธรและงานประจำปี จ.ฉะเชิงเทรา ที่บริเวณสนามหน้าศาลากลาง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งในคืนวันนี้เป็นคืนแรก ได้มีประชาชนเดินทางมาท่องเที่ยวในงานอย่างคับคั่ง จนถึงขั้นต้องต่อคิวเรียงแถวรอผ่านด่านเข้าเครื่องเทอร์โมแสกน เพื่อคัดกรองโรคโควิด 19 ยาวนับร้อยเมตร
โดยที่หน้าประตูก่อนเข้างานได้มีการแจกจ่ายหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันโรคติดต่อให้สำหรับผู้ที่ไม่ได้นำติดตัวมาด้วย ขณะที่กลุ่มบริษัทอีเอในนามผู้จัดตั้งโครงการนิคมอุตสาหกรรมฉะเชิงเทรา บลูเทคซิตี้ ได้นำนวัตกรรมด้านพลังงานสะอาด เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า กังหันลมไฟฟ้า SMART HOME & ENERGY การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ (โซล่าเซลล์) ในครัวเรือน
พร้อมจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน รถเมล์ไฟฟ้า และอากาศยานไร้คนขับสำหรับการบินสำรวจ (โดรน) มาแสดงในงานด้วย ซึ่งในวันนี้ ได้มีพิธีเปิดบูธการจัดแสดงเป็นวันแรก โดยมี นายไมตรี ไตรติลานันท์ ผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรา เดินทางมาเป็นประธานเปิดบูธการแสดง พร้อมด้วยนายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทพลังงานบริสุทธิ์จำกัด (มหาชน) หรืออีเอ นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มอีเอ
น.ส.กุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา ผู้ก่อตั้งนิคมอุตสาหกรรมบลูเทคซิตี้ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทราโดยมี ดร.อภิชาติ ทองอยู่ ประธานคณะทำงานประสานงานด้านการพัฒนาบุคลากรเขตพื้นที่การพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC-HDC) เดินทางมาร่วมงาน พร้อมแขกเหรื่อรับเชิญจนเต็มบูธการจัดแสดง
ขณะที่นายสมโภชน์ กล่าวบนเวทีระหว่างการเปิดงานว่า อยากขอชาวแปดริ้วเข้ามาเป็นลูกหลวงพ่อโสธร และถือเป็นน้องใหม่ที่จะเข้ามาลงทุนใน จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีความตั้งใจที่อยากจะมาทำอะไรดีๆ มาทำให้ชาว จ.ฉะเชิงเทรา มีความเจริญ และพัฒนาพื้นที่ เพื่อรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ เนื่องจาก จ.ฉะเชิงเทรา นั้นเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของเขตพื้นที่การพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) โดยต้องการเข้ามาก่อตั้งโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสำหรับยานยนต์
ซึ่งถือเป็นโรงงานแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในต้นปีหน้า (2564) พร้อมกันนี้ยังได้ก่อตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติไทย ภายใต้ชื่อ “มายด์ โมบิลิตี้” และยังมีนวัตกรรมอีกหลากหลายด้าน เช่น เรือไฟฟ้า ที่จะนำไปเปิดให้บริการสาธารณะในลำน้ำเจ้าพระยา และจะนำมาสนับสนุนส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว ในลำน้ำบางปะกงด้วยต่อไป
จากการที่ได้รับการสนับสนุนจากโครงการอีอีซี ทางกลุ่มอีเอจะพลิกโฉมอุตสาหกรรมไทยในอนาคต เนื่องจากเป็นโครงการที่สนับสนุนอุตสาหกรรมสะอาด และเป็นโครงการที่ช่วยส่งเสริมมูลค่าเพิ่มให้แก่ประเทศไทยมากขึ้น โดยรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังจะสร้างโรงงานผลิตขึ้นในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา นั้น จะใช้วัสดุในประเทศไทย มากกว่าร้อยละ 80-90 จากการที่เราเคยเป็นประเทศที่สร้างรถยนต์มานาน แต่เรายังไม่มีโอกาสได้สร้างรถที่เป็นสัญชาติไทย และสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่เราอย่างจริงจัง
ถึงวันนี้เราจะเป็นน้องใหม่ ที่ได้เข้ามาในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา แต่อยากฝากตัว อยากจะมาสร้างสิ่งดีๆ ให้แก่จังหวัดฉะเชิงเทรา และขอสัญญาว่าเรามาที่นี่แล้ว เราอยากจะขอมาเป็นลูกของหลวงพ่อโสธรด้วยอีกคนหนึ่ง และจะตั้งใจทำแต่สิ่งดีๆ ให้เกิดขึ้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ให้ได้ และทำให้ประเทศไทยเราหลุดพ้นจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางในอนาคตต่อไปด้วย นายสมโภชน์ กล่าว
–ฟื้นคืนความยิ่งใหญ่อีกครั้ง ขบวนแห่หลวงพ่อโสธร 130 ปี สมศักดิ์ศรีพระดังระดับโลก
–เตรียมยกระดับ งานนมัสการหลวงพ่อโสธร เป็นงานระดับชาติก่อนก้าวสู่ระดับโลก
–ปลุกฟื้นคืนความยิ่งใหญ่อีกครั้ง ขบวนแห่หลวงพ่อโสธร130 ปีสมศักดิ์ศรีพระดังระดับโลก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: