จังหวัดน่าน หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 สำนักงานพัฒนาภาคที่ 3 ปล่อยแถวขบวนรถ กำลังพลพร้อมเครื่องมือ เครื่องจักรกลหนัก และยุทโธปกรณ์ออกให้การช่วยเหลือราษฎรที่ประสบปัญหาภัยพิบัติจากน้ำป่าไหลหลากในช่วงฤดูฝนที่ผ่านมา
ที่หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 บ้านดอนทรายทอง ตำบลศิลาเพชร อำเภอปัว จังหวัดน่าน (27 ตุลาคมที่ผ่านมา) พันเอก รฐนนท รัตนโสภณ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 ปล่อยแถวกำลังพล และเครื่องมือยุทโธปกรณ์เครื่องจักรกลหนักและ เข้าให้ความช่วยเหลือชาวบ้าน บูรณาการซ่อมแซมอาคารสถานที่ ที่เสียหายจากผลกระทบจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชันและความเสียหายในห้วงวันที่ 31 กรกฎาคม ถึง 4 สิงหาคม 2563 ฤดูฝนที่ผ่านมา
โดยให้กำลังพลของหน่วย ออกชุดปฏิบัติการซ่อมแซมและให้ความ ช่วยเหลือชาวบ้านในหลายพื้นที่ อาทิ บ้านน้ำปุ๊ บ้านน้ำปูน ตำบลน้ำพาง และ บ้านสว่าง ตำบลหนองแดง อำเภอแม่จริม ทั้งนี้ เป็นไปตามแผนงานโครงการประจำปี ตามที่ พลเอก นเรนทร์ สิริภูบาล ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชากองทัพไทย ได้มอบนโยบายให้แร่งฟื้นฟูความเสียหายให้บ้านเรือนชาวบ้าน
จากสถานการณ์ในห้วงฤดูฝนที่ผ่านมา ทำให้หลายพื้นที่ของจังหวัดน่าน เกิดฝนตกชุกและตกหนักมากทำให้น้ำป่าไหลหลากกัดเซาะเส้นทางสัญจร โดยเฉพาะที่อำเภอทุ่งช้างทางเชื่อมต่อระหว่างหมู่บ้านที่มีระยะทาง 3 -5 กิโลเมตร เป็นเส้นทางที่ชาวบ้านในสังคมชนบทใช้สัญจรไปมาหาสู่กัน
รวมทั้งการส่งบุตรหลานเข้ารับการศึกษาเล่าเรียน การติดต่อราชการ การเข้ารักษาพยาบาล จากโรงพยาบาลของรัฐ ซึ่งถนนสายดังกล่าวได้รับความเสียหาย ไม่สามารถใช้สัญจรไปมาได้ ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนและส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันด้วย
ทางกองบัญชาการกองทัพไทย โดยหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 สำนักงานพัฒนาภาค 3 ได้จัดกำลังพลพร้อมเครื่องจักรกล เข้าซ่อมแซมถนนสายดังกล่าวให้ชาวบ้านได้รับสะดวกสบายในการสัญจร
เพื่อให้ชาวบ้านสามารถใช้เส้นทางสัญจรได้เป็นปกติ เป็นไปตามนโยบายของ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ที่ได้ให้หน่วยขึ้นตรงไว้ว่า “ทุกข์ของประชาชน คือ ทุกข์ของเรา”
กำลังพลของหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 สานักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา จึงได้ออกปฏิบัติงาน ตามแผนงานโครงการพัฒนาช่วยเหลือราษฎร์ ประจำปี 2564 จุดเริ่มต้น ได้เข้าดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมเส้นทาง และถมคอสะพานที่ขาด และลำห้วย ที่ถูกน้ำป่ากัดเซาะ ถูกดินโคลนถล่ม ซึ่งปิดช่องทางการจราจร คาดว่าจะแล้วเสร็จภาย ใน 3 วัน จากนั้นจะเข้าดำเนินการ ในพื้นที่หมู่บ้านเป้าหมาย ในพื้นที่ของ อำเภอนาน้อย และอำเภอนาหมื่น ที่ได้รับผลกระทบต่อไป
77ข่าวเด็ด ประจำจังหวัดน่าน รายงาน
