สระแก้ว – เจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจตาพระยา กองกำลังบูรพา สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย จำนวน 6 คน พร้อมผู้นำพา 1 คน ในพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้ว
เมื่อวันที่ 31 ต.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจตาพระยา กองกำลังบูรพา สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ภายหลัง พล.ต.อมฤต บุญสุยา ผบ.กองกำลงบูรพา สั่งการให้หน่วยกองกำลังชายแดน ป้องกันและเข้มงวดกวดขันปัญหาการลักลอบเข้าประเทศโดยผิดกฎหมาย โดยเฉพาะช่องทางธรรมชาติในช่วงปิดชายแดน เพื่อรับมือกับสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จ.สระแก้ว อย่างต่อเนื่องนั้น ล่าสุด พ.อ.เฉลิมเกียรติ ศิริสมบูรณ์ รอง ผบ.ฉก.ตาพระยา เปิดเผยว่า ภายหลังจัดกำลังพลชุดปฏิบัติการเคลื่อนที่เร็ว ฉก.ตาพระยา ทำการลาดตระเวนและซุ่มเฝ้าตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ ร่วมกับ สภ.โคกสูง ,กองร้อย ตชด.1241 และชุดปฏิบัติการข่าวกองร้อย ตชด.124 ได้รับแจ้งจาก ชุดข่าวลับ ว่า จะมีขบวนการลักลอบนำพาแรงงานต่างด้าว ชาวกัมพูชาเข้ามาในพื้นที่ จากบริเวณบ้านหนองจาน ม.3 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลัง วางกำลัง ซุ่ม ในพื้นที่เป้าหมาย
กระทั่ง เจ้าหน้าที่ทหารได้ตรวจพบรถยนต์กระบะ ตามที่ชุดข่าวลับรายงาน ได้ขับขี่เข้ามาในพื้นที่บ้านหนองจาน ผ่านบ้านโนนหมากมุ่น เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการส่งสัญญาณให้ผู้ขับขี่หยุดรถ แต่รถคันดังกล่าวได้พยายามเร่งเครื่องยนต์หลบหนีไปในพื้นที่บ้านโคกสูง เจ้าหน้าที่จึงได้ออกติดตาม และสามารถเข้าจับกุมได้ที่บริเวณถนนท้ายหมู่บ้านโคกสูง ม.1 ต.โคกสูง พร้อมได้ทำการแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบผู้ต้องหาคนไทยคือ นายสนธยา เพชรนาดี อายุ 36 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 12/3 ต.บางน้ำผึ้ง อ.บางประกง จ.ฉะเชิงเทรา ยอมรับว่าเป็นผู้นำพาและเป็นผู้ขับรถยนต์ ซึ่งตรวจพบต่อมาว่า ลักลอบนำชาวกัมพูชา จำนวน 6 คน ประกอบด้วย นายวืน แก้ว อายุ 39 ปี, นายดี วี อายุ 40 ปี ,นางแนว เมา อายุ 40 ปี ,นางเทือน นาน อายุ 40 ปี ,นางแนว ระ อายุ 25 ปี และนางแก้ว นม อายุ 18 ปี ทั้งหมดเป็นชาวกัมพูชา
พ.อ.เฉลิมเกียรติ กล่าวด้วยว่า จากการซักถามชาวกัมพูชาที่เดินทางมาจากกัมพูชา บอกว่าลักลอบเข้ามาตามเส้นทางธรรมมาชาติ ที่บริเวณบ้านหนองจาน ม.3 ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เพื่อจะเดินทางไปบ้านเขาพรหมสุวรรณ ต.หนองมากฝ้าย อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว เพื่อเข้าไปทำงานในประเทศไทย โดยจ่ายค่าโดยสารรถคนละ 1,200 บาท พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาชาวไทย ผู้ถูกจับที่ 1 ฐานช่วยเหลือด้วยประการใด ๆ อันตนรู้ว่า เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ให้พ้นจากการจับกุม ส่วนต้องหาที่ 2-7 ชาวกัมพูชา ถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่า เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งให้กับ พนักงานสอบสวน สภ.โคกสูง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและผลักดันออกนอกประเทศต่อไป
——————————-
