ปราจีนบุรี – น้ำป่าไหลหลากท่วม 2 หมู่บ้านกลางดึก ถนนสาย 304 และอุโมงค์จมน้ำ ส่วนที่ อ.นาดี มีผู้สูญหาย 2 คน พร้อมบ้านยังไม่พบตัว
เมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 1 ต.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชัยวัฒน์ เอี่ยมละออ ปลัดอำเภออาวุโส อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน ม.8 บ.วังใหม่ ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี หลังเกิดฝนตกหนัก เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมหมู่บ้านและหลากเข้าท่วมหมู่บ้านพื้นที่ ม.3 ,ม.5 บ.วังมืด น้ำท่วมเข้าถนนและหมู่บ้านฉับพลัน ขณะที่ได้รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้านดังกล่าวว่า มีประชาชนติดอยู่ภายในหมู่บ้านและบนหลังคาหลายราย จึงลงพื้นที่พร้อมกับ นายสนธยา เฟืองจรัส ปลัดอำเภอนาดี พบว่า น้ำท่วมถนนสาย 304 กบินทร์บุรี-นครราชสีมา ต่อมา หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรีร่วมลงพื้นที่ พร้อมที่จะให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมฉับพลัน แต่ยังไม่สามารถเข้าถึงในหมู่บ้านดังกล่าวได้ ต้องรออยู่บนถนนสาย 304 นานกว่า 2 ชั่วโมง ขณะนี้น้ำท่วมถนนสาย 304 บริเวณจุดดังกล่าวสูง 50 เซนติเมตร ระยะทาง 100 เมตร ทำให้การจราจรขาเข้านครราชสีมาและขาออก ไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้
ข่าวน่าสนใจ:
- ปราจีนบุรี สลดหนุ่ม 45 ถูกช้างป่าอ่างฤาไนทำร้ายเสียชีวิต
- เชียงใหม่- อบจ.มอบ 10 ล.เปิดศูนย์ รับ PM2.5 ปี 68
- พบช้างป่าอยู่ใกล้ที่ทำร้ายคนเสียชีวิตเร่งผลักดันหวั่นเกิดเหตุซ้ำ จ.ปราจีนบุรี
- นายกฯ ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ พร้อมสั่งการหน่วยงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัด นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร…
ปลัดอำเภออาวุโส อ.นาดี กล่าวว่า ขณะนี้ได้ประสานผู้นำหมู่บ้านแต่ละหมู่บ้านให้เฝ้าระวังและช่วยเหลือประชาชนที่ถูกน้ำท่วมตลอดเวลา ขณะนี้ปริมาณน้ำดังกล่าวได้ค่อย ๆ ลดลงและหลากเข้าท่วมท้ายหมู่บ้านคือ ม.3 และ ม.10 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานความ คืบหน้าน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมบ้านวังใหม่กลางดึกที่ผ่านมา โดยมีคนสูญหาย 2 คน พร้อมบ้าน ขณะนี้ยังไม่พบตัวบุคคลทั้งสองราย หลังนายชัยวัฒน์ เอี่ยมละออ ปลัดอำเภออาวุโส อ.นาดี และ กอ.รมน., ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ส.อบต. และชาวบ้านวังใหม่ 10 คน เดินเท้าเข้าไปที่บ้านเลขที่ 163 ม.8 บ้านวังใหม่ ซึ่งมีรายงานว่า มีบ้านเรือนถูกกระแสน้ำพัดหายไป 1 หลัง พร้อมกับเจ้าของบ้าน 2 คน ใช้เวลาเดินเท้าลุยโคลนเข้าไป 10 นาที ระยะ 500 เมตร ยังไม่พบตัว สภาพโดยทั่วไปมีต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกถอนรากถอนโคนหลายต้น และเป็นดินทรายให้เห็นหลายแห่งคล้ายกับทะเลทราย
จากการสอบถาม นางเสน่ห์ แถมพรมราช อายุ 55 ปี กล่าวว่า บุคคลที่สูญหายไปกับน้ำเมื่อคืนที่ผ่านมาคือ พี่ชายของตน นายสำเนียง แถมพรมราช อายุ 65 ปี และนางโอ๋ แถมพรมราช ภรรยา ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมาเกิดฝนตกหนักและมีน้ำป่าไหลหลากเชี่ยวกราด พัดทุกอย่างหายไปกับสายน้ำ พี่ชายกับพี่สะใภ้ขึ้นไปอยู่บนบ้านชั้น 2 ซึ่งในหมู่บ้านดังกล่าวมีอยู่ประมาณ 8 หลังคาเรือน พากันหนีออกมาได้ทัน แต่ทั้ง 2 หนีขึ้นไปอยู่บนชั้น 2 กระทั่งรุ่งสางไม่มีคนพบบ้าน และไม่สามารถติดต่อบุคคลทั้งสองได้ ขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมว่า อยู่ทางไหนญาติได้จุดธูปบอกเจ้าที่เจ้าทาง ขอให้พบร่างบุคคลทั้งสองด้วย
โดยเมื่อเวลา 08.00 น เป็นต้นมา มวลน้ำที่ไหลมาจากหมู่ 8 ได้ไหลท่วมบ้านบุพราหมณ์ ท่วมบ้านเรือนประชาชนเสียหายหลายหลัง หนึ่งในนั้นเป็นบ้านของ นายวีระศักดิ์ ยุติคุณภารัตน์ ซึ่งมีบ้านอยู่ติดกับคลองพญาธาร พัดบ้านพังและทรัพย์สินพังเสียหาย หมูถูกน้ำพัดหายไปกับสายน้ำ 2 ตัว และลอยไปติดเกาะจับคืนมาได้ 1 ตัว เหลือในเล้า 3 ตัว ขณะเดียวกัน น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านทับลานและท่วมอุโมงค์ทางข้ามสัตว์ป่า รถไม่สามารถผ่านได้ ทั้งขาขึ้นนครราชสีมาและเข้า อ.กบินทร์บุรี
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ประชาชนที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว ต่างพากันเก็บข้าวของหนีออกจากบ้าน ซึ่งมีน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร นายชัยวัฒน์ เอี่ยมละออ ปลัดอำเภออาวุโส กล่าวว่า ขณะนี้น้ำในพื้นที่ลดลง แต่ไหลไปท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำเป็นวงกว้าง ทางอำเภอได้รายงานให้จังหวัดทราบแล้ว และให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีฝนตกลงมาเป็นระยะ ๆ
————————-
ข่าว-ภาพโดย/ลักขณา สีนายกอง ,ยุทธพงศ์ พุ่มเพ็ชร์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: