ศึกช้างชนช้าง คน ปชป.สนามอบจ.ตรัง นายบุญเล้ง นำทีมกิจปวงชนสมัครครบ 30 เขต พร้อมประกาศแม้ตนเองจะมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง แต่จะไม่รับงานก่อสร้างของอบจ.ตรัง อย่างเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เกิดคำครหาว่าเข้ามาหาผลประโยชน์จากงบประมาณก่อสร้างของ อบจ.ขณะที่นายกิจ หลีกภัย กล่าวมั่นใจทีมกิจปวงชนยังรักษาเก้าอี้ได้ ด้านครอบครัววงศ์หนองเตย ส่งน้องชายคนเล็กมามอบดอกไม้ให้กำลังใจนายบุ่ญเล้ง คู่แข่ง พร้อมมอบจดหมายน้อยต่อโกเล้ง เพื่อเปิดใจถึงเหตุผลตระกูลวงศ์หนองเตยส่งพี่ชายลงสมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.ด้วย ถือเป็นวิถีทางประชาธิปไตย ให้เป็นทางเลือกของประชาชน ยืนยันไม่ได้มีความขัดแย้งใดๆกัน โดยนายสาธร จะนำลูกทีม “ตรังพัฒนาเมืองตรัง” เข้ายื่นใบสมัครวันพฤหัสบดีที่ 5 พ.ย.นี้
วันที่ 2 พฤศจิกายน 2563 ซึ่งเป็นวันสมัครรับเลือกตั้งนายก และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ภายในโรงยิมเนเซี่ยม 4000 ที่นั่ง สนามกีฬาทุ่งแจ้งเทศบาลนครตรัง อ.เมือง จ.ตรัง มีบรรดากองเชียร์ได้เดินทางมาให้การต้อนรับ และให้กำลังนายบุ่ญเล้ง โล่สถาพรพิพิธ ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.ตรัง และลูกทีมผู้สมัคร สจ.เขต ของทีมกิจปวงชนกันเป็นจำนวนมากมีการเตรียมพวงมาลัย เพื่อให้กำลังและแสดงความยินดีบรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก โดย กกต.ได้อำนวยความสะดวกให้กับผู้สมัคร กองเชียร และผู้สังเกตการณ์อย่างเต็มที่ มีการตั้งโต๊ะคัดกรองวัดไข้ และทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ทั้งนี้ หลังยื่นสมัครแล้วเสร็จ ทางกองเชียร์หลายร้อยคน ซึ่งหอบดอกไม้ ช่อดอกไม้ พวงมาลัย มาให้กำลังใจผู้สมัครอย่างคึกคัก
นอกจากนั้น ครอบครัววงศ์หนองเตย ได้ส่งนายสาวุฒิ วงศ์หนองเตย น้องชายคนเล็กมามอบดอกไม้ให้กำลังใจ และแสดงความปราถนาดีกับนายบุ่ญเล้ง และครอบครัวโล่สถาพรพิพิธ ทีมคู่แข่งพี่ชายด้วย พร้อมมอบจดหมายน้อยต่อโกเล้ง (ชื่อเล่น นายบุ่ญเล้ง ) เปิดใจถึงเหตุผลที่นายสาธรลงสมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ.ด้วย และมายืนยันว่าการเสนอตัวของพี่สาธร เป็นการเสนอตัวเพื่อให้พี่น้องประชาชนได้มีทางเลือก เช่นเดียวกับที่ “โกเล้ง” เสนอตัว เป็นการแข่งขันตามระบอบประชาธิปไตยเพื่อทำงานการเมืองให้จังหวัดตรัง ไม่ใช่เรื่องส่วนตัวและยืนยันไม่ได้มีความขัดแย้งส่วนตัวกัน เชื่อมั่นว่าไม่ว่าผลการเลือกตั้งในอีกไม่กี่วันข้างหน้าจะเป็นเช่นใด “การร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์สังคม พัฒนาจังหวัดตรังให้เจริญ” รุ่งเรืองให้ยิ่งกว่าอดีตระหว่างทั้งสองเป็นสิ่งที่ต้องทำต่อไป โดยนายสาธร จะนำลูกทีม “ตรังพัฒนาเมืองตรัง” เข้ายื่นใบสมัครวันพฤหัสบดีที่ 5 พ.ย.นี้
นางสาวอรพิน อาชีวะสุข ผอ. กกต. กล่าวว่า โดยภาพรวมก็มีผู้สมัครที่สนใจมาสมัครก็จำนวนค่อนข้างมาก และบรรยากาศทั่วไปเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพราะว่าทางอบจ.มีการจัดระเบียบให้แก่ผู้สมัครและมีผู้ติดตามเข้ามาได้จำนวน 1 คน ในการเข้าไปในสถานที่รับสมัคร ส่วนกองเชียร์จัดให้อยู่อีกโซนหนึ่งตามอัฒจรรย์ ในส่วนของเรื่องประเด็นหากมีการร้องเรียนขึ้นมาทางสำนักงานกกต.เราจะพิจารณาในเบื้องต้น ส่วนคนที่วินิจฉัยชี้ขาดจริงๆเราจะส่งเรื่องไปให้กับทางคณะกรรมการการเลือกตั้งส่วนกลางพิจารณาอีกครั้ง โดยภาพรวมในวันนี้ยังไม่มีปัญหาแต่อย่างใดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
ต่อมา นายกิจ หลีกภัย อดีตนายก อบจ.ตรัง พี่ชายนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และอดีตหัวหน้าทีมกิจปวงชน อดีตนายก อบจ.ตรัง เดินทางมาให้กำลังใจนายบุ่นเล้ง หัวหน้าทีมกิจปวงชนคนใหม่ และผู้สมัคร สจ.เขตทีมกิจปวงชนทั้ง 30 เขต มีการพบปะทักทายพูดคุยกับบรรดากองเชียรอย่างเป็นกันเอง และคาดว่าการสมัครตำแหน่งนายก อบจ.ตรัง วันแรกทีเพียงทีมกิจปวงชนมาสมัครเพียงทีมเดียว และผู้สมัคร สจ.เขต อิสระเท่านั้น ส่วนทีมนายสาธร จะนำลูกทีม “ตรังพัฒนาเมืองตรัง” เข้ายื่นใบสมัครวันพฤหัสบดีที่ 5 พ.ย.นี้
นายกิจ กล่าวว่า วันนี้ได้มาเห็นหน้าพี่น้องชาวบ้านที่มาคอยเชียร์มาให้กำลังใจ เป็นเรื่องสำคัญ ตนเกษียณเมื่อปี 2538 ลงสมัครเลือกตั้งอยู่ในตำแหน่งมา 25 ปี ผลงานที่ภูมิใจคือ การสร้างท่าเรือนาเกลือ และหลังจากนี้เรื่องช่วยทีมกิจปวงชนหาเสียง คงพาไปพบบ้าง แต่คงทำไม่ได้ทุกที่ ส่วนใหญ่ก็เป็นคนที่เขาคัดกรองมาก่อน และในกรณีที่มีคู่แข่งนั้น ตนเองแปลกใจว่าเดิมทีเขาคุยกับสมชาย ขอว่าให้น้องเขาได้ลงเป็นรองนายก พอยอมแล้วเขาขอสจ.เขตทั้งหมด 5 คน ก็เลยเป็นเรื่อง ซึ่งก็ทราบเรื่องมาประมาณนี้ ในส่วนของฐานเสียงนั้นส่วนตัวเชื่อว่า ส่วนใหญ่ชาวบ้านยังให้การสนับสนุนทีมกิจปวงชนอยู่ และคิดว่าน่าจะมีโอกาสมากกว่าคู่แข่ง ไม่ได้รู้สึกหนักใจอะไร ส่วนปัญหาความขัดแย้ง เมื่อคนของพรรค ปชป.แยกออกเป็น 2 ทีมแบบนี้ ตนเองก็ไม่อยากได้ยินสิ่งเหล่านี้ และไม่อยากให้เกิดความแตกแยกกันเอง ซึ่งคาดว่าไม่น่าจะมีความขัดแย้ง ส่วนนายชวนก็ยังไม่ได้แจ้งอะไรมา ส่วนนโยบายที่ตนยังฝากต่อไปยังนายบุ่ญเล้ง คือ โครงการตรวจเฝ้าระวังสุขภาพคนตรัง เพราะที่ผ่านมาพบทั้งคนเป็นโรคเบาหวาน ไขมัน ความดัน ถ้าดูแลเรื่องนี้ต่อไป จะดีมาก คนตรังได้ห่างโรค และเรื่องถนนหนทางนั้น ส่วนตัวก็ทำไว้หมดแล้วทุกหมู่บ้านทุกตำบล
ทางด้านนายบุ่นเล้ง ให้สัมภาษณ์ ภายหลังสมัครรับเลือกตั้ง นายก อบจ.ตรัง ได้เบอร์ 1 กล่าวว่า ตนมาสมัครวันแรกมีผู้มาให้กำลังใจเป็นจำนวนมากรู้สึกดีใจ สำหรับคู่แข่งซึ่งเป็นน้องชาย นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย สส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ไม่หนักใจเป็นเรื่องของการเมืองท้องถิ่นไม่ใช่ระดับชาติ จริงๆแล้วก่อนหน้านี้ได้มีการหารือกันแล้วแต่ไม่สามารถตกลงกันได้ ในเมื่อความตั้งใจทั้งสองทีมเต็มร้อยจึงปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติคือแข่งขันกันไปตามวิถีทาง ให้ชาวบ้านเป็นผู้ตัดสินใจ ตนยังเชื่อมั่นว่าจะไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น ยังไงก็ยังเป็นพี่น้องกัน และนายสาวุฒิก็ได้มามอบดอกไม้ให้กำลังใจตนด้วย
นายบุ่งเล้ง กล่าวว่า ในส่วนของนายกิจอดีตนายกอบจตรังก็ได้ช่วยแนะนำตนเอง เพราะจะเป็นที่ปรึกษาช่วยทำนโยบายหาเสียงให้ด้วย หลังจากนี้ก็จะเดินหน้าหาเสียงเลย ตะลอนหาเสียงไหว้พบปะชาวบ้าน ส่วนเรื่องผลงานหรือประวัตินั้นก็จะสามารถเปิดออกมาให้คุณดูได้ ตนเองอายุ 66 ปี แล้ว ทำงานมานาน ครอบครัวก็สมบูรณ์ ฐานะก็ไม่ได้ลำบากอะไร พร้อมจะรับใช้ประชาชน ในส่วนของเรื่องผลงานที่จะสานต่อนั้นจะทำในเรื่องของท่องเที่ยว และเศรษฐกิจปากท้องของชาวบ้านว่าจะทำอย่างไรให้ชาวบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และทั้งนี้ ในส่วนของธุรกิจของตนเองคือ รับเหมาก่อสร้าง นั้น ก่อนหน้านี้ชนะการประกวดงานก่อสร้างต่างๆของอบจ.และทำงานมาตลอด แต่หากตนได้รับตำแหน่งนายก อบจ. ขอประกาศให้สัญญาเลยว่าจะไม่รับงานของอบจ.เด็ดขาด จะไม่เอางานก่อสร้างของอบจ.เลย ซึ่งธุรกิจส่วนตัวของตัวเองนั้นจะส่งต่อให้ลูกทำแทน ขอให้ประชาชนสบายใจจะไม่เข้ามาหาผลประโยชน์ทางธุรกิจจากงบประมาณก่อสร้างของ อบจ.อย่างแน่นอน
