เชียงราย- จบด้วยดี กรณีกลุ่มวัยรุ่น ตามหาคนชื่อตี๋ แล้วคลิปภาพวงจรปิด จับภาพขณะขว้างก้อนหินและราวตากผ้าใส่บ้านชาวบ้าน ซึ่งเพิ่งคลอดลูกน้อย วัย 2 เดือน กลางดึก บริเวณบ้านเอื้ออาทรโครงการ 1 อ.แม่สาย จ.เชียงราย และทำลายกล้องวงจรปิดหมู่บ้านพังไป 1 ตัว เข้าไกล่เกลี่ยกับเจ้าของบ้านแล้ว ยอมรับเข้าใจผิดทำไปเพราะเข้าใจว่าเป็นบ้านคู่กรณี และจะไม่ทำอีก พร้อมชดใช้ค่าเสียหายให้หมด ผลจากพลังโซเชียลช่วยติดตาม
จากกรณีที่ เมื่อวันที่ 29 ต.ค.63 คุณต่าย (ขอสงวนนามสกุล) ว่าเมื่อกลางดึก เวลา ราว 00.50 น.ได้มีกลุ่มชายวัยรุ่นขับจักรยานยนต์ 2 คัน ราว 3-4 คน มาป้วนเปี้ยนที่หน้าบ้าน บ้านเอื้ออาทร โครงการ 1 #ต.โป่งผา อ.แม่สาย บริเวณ ซอย 1/24 และชาย 2 คน รูปร่างท้วมสูงใหญ่ กับชายผอมเล็กกว่า ได้กลับมาจอดรถตะโกนด่าทอมาที่หน้าบ้านของตนว่า “ไอ้ตี๋ออกมาเถอะ น้องไปทำอะไรเขาไว้ ออกมา ไปทำอะไรเขาไว้ เรียกมันออกมา” พร้อมมาใกล้ประตู เมื่อไม่เห็นใครตอบจึงเริ่มเหมือนโมโห
ต่อมาได้ตะโกนต่ออีกว่า“ลูกมึงไปแทงเขา ลูกมึงจะโดน…มึงยอมเหรอ …เรียกไปโรงพักเพื่อนกูโดนแทง” ฯลฯ ซึ่งพวกตนอยู่ในบ้านกับสามี และลูกน้อยวัย 2 เดือน ที่เพิ่งคลอด ในบ้านไม่มีคนชื่อตี๋และไม่เคยรู้จักคนชื่อตี๋ และไม่รู้จักกับวัยรุ่นกลุ่มนี้จึงหลบอยู่ในบ้าน ด้วยความหวาดกลัว วัยรุ่น 2 คน เห็นไม่มีใครออกมา คนตัวใหญ่จึงได้ใช้ก้อนหินขนาดใหญ่แถวนั้นซึ่งใช้รองขาร่ม 2-3 ก้อน ขว้างใส่ประตูรั้วเหล็กของบ้านตนเสียงดังสนั่น และยังไม่หนำใจ คว้าเอาราวตากผ้าหน้าบ้าน ทุ่มใส่ประตูอีก 1-2 ครั้ง ประตูเสียหาย ก่อนจะขึ้นจักรยานยนต์ 1 คันหลบหนีไป จนมีการลงข่าวในสื่อโซเชียลจนเป็นที่สนใจติดตามนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 19.00 น.วันที่ 1 พ.ย.นี้ ที่ สำนักงานหมู่บ้านเอื้ออาทรโครงการ 1 ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย นายนพชัย อายุ 23 ปี และ นายสุรพงษ์ อายุ 23 ปี ชาว อ.แม่สาย ได้เข้าพบกับ นายภูวนนท์ ยืนยงค์ ผู้นำชุมชนบ้านเอื้ออาทร โครงการ 1 และ รองประธานศูนย์เฝ้าระวังภัยแม่สาย กับ นายเฉลิม กุณาเลย ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 ต.โป่งผา โดยมี ผู้เสียหาย คือ นายสิทธิชัย สามีเจ้าของบ้านที่ภรรยาเพิ่งคลอดบุตรได้ 2 เดือน มาเจรจาไกล่เกลี่ยกัน
โดย นายนพชัย และ นายสุรพงษ์ ยอมรับว่าเป็นบุคคลในคลิปที่ได้ใช้ก้อนหินขว้างเข้าไปในบ้านเลขที่ 304/67 และใช้ราวตากผ้าทุ่มเข้าไปในบ้าน ทำให้รั้วบ้านและหลังคาบ้านเสียหาย และทำให้กล้องวงจรปิดหน้าหมู่บ้านเอื้ออาทรพังเสียหาย 1 ตัว เนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นคู่กรณีที่ทำร้ายพรรคพวกของตนจึงเกิดบันดาลโทสะ และยอมรับผิดจะไม่ทำอีก พร้อมชดใช้ค่าเสียหายค่าซ่อมกล้องวงจรปิด และค่าซ่อมแซมบ้านและรั้วและทรัพย์สินอื่นๆ ให้กับเจ้าของบ้านดังกล่าว ซึ่งเจ้าของบ้านเข้าใจและยกโทษให้ ซึ่งหากมีการชดใช้ค่าเสียหายให้หมดภายในสิ้นเดือน จะไปถอนแจ้งความให้ จึงลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานและพูดคุยกันด้วยดี เบื้องต้นได้ไปซ่อมกล้องวงจรปิดหมู่บ้านและชดใช้ซ่อมบ้านบางส่วนแล้ว ถือเป็นการช่วยกันแก้ไขปัญหาสังคมร่วมกันของชาวโซเชียล และผู้สื่อข่าวที่ติดตามข่าวและจากคลิปภาพต่างๆ และทางผู้นำชุมชนหมู่บ้านจะได้ช่วยกันดูแลความปลอดภัยในหมู่บ้านเอื้ออาทร 1 ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป เนื่องจากมีผู้อาศัยกว่า 600 หลัง
