ชัยภูมิ – ล่าสุดสุดทน นำภาพจากกล้องวงจรปิดที่จับภาพชายหนุ่มรายนี้ไว้ได้เต็มๆ ขณะลงมือก่อเหตุถือก้อนหินขนาดใหญ่วิ่งเข้ามาปาใส่บ้านจนกระจกแตก และมีทรัพย์สินภายในบ้านเสียหาย นำไปโพสต์เฟซบุ๊กฝากเตือนภัยคนเพื่อนบ้านข้างเคียงรายอื่นๆ ควรช่วยกันระวังพฤติกรรมดังกล่าวที่เป็นบุคคลอันตรายต่อคนในชุมชนรายอื่นอีกได้ ก่อนนำภาพวงจรปิดไปเป็นหลักฐานเข้าเจ้าความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้เป็นหลักฐาน เพื่ออยากให้ญาติผู้ก่อเหตุชายหนุ่มรายนี้ควบคุมญาติตัวเองไม่ให้มาก่อเหตุแบบนี้กับใครได้อีก หรือถ้าหากผู้ก่อเหตุมีอาการป่วยทางจิตและเสี่ยงเป็นอันตรายต่อประชาชนใกล้เคียงอื่นๆ ได้อีก อยากให้ทางญาติรีบพาไปรักษาตัวให้หายจากอาการป่วยในลักษณะนี้โดยเร็วจะดีกว่า ซึ่งครั้งนี้ทางญาติและสาวบ้านผู้เสียหายที่โพสต์ภาพข้อความดังกล่าวออกมาต้องการเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้น ซึ่งยังให้โอกาสกับทางญาติๆ ของผู้ก่อเหตุรายนี้อยู่ แต่ก็ควรที่จะมีการไปตักเตือนกันและรีบให้ชายผู้ก่อเหตุหยุดพฤติกรรมดังกล่าวโดยเร็วจะดีกว่า ซึ่งหากมีการเข้ามาก่อเหตุ ขวางปาหิน ยิงหนังสติ๊กใส่บ้านพังเสียหายซ้ำอีก จะขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุดทันทีต่อไป!
( 5 พฤศจิกายน 2563 ) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อว่า Petcharat Wangkeeree ได้โพสต์ระบุข้อความและภาพว่า #เตือนภัย..ค่ะ บ้านตัวเอง บ้านแดง ต.หนองตูม อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ (ความอดทนคนเฮามีขีดจำกัด) อยู่ดีๆกันบ่ได้แม่นบ่ จักผิดใจหยังกัน เอาส่ะจนลูกผวาอยู่กันแบบหวาดระแวง ลูกได้ยินเสียงรถจอดกะแล่นลี้ ได้ยินเสียงหมาเห่ากะแล่นเอิ้นแม่
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านเลขที่ 100 ในหมู่บ้านแดง หมู่ที่ 13 ตำบลหนองตูม อำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งด้านข้างบ้านได้เปิดเป็นร้านรับซ่อมรถยนต์ ภายในบ้านดังกล่าวมี นายบุญสนอง กิตยะวงษ์ อายุ 66 ปี เป็นเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ส่วนสาวผู้โพสต์ได้ออกไปประกอบอาชีพขายของที่ตลาดไม่อยู่บ้าน
สอบถามไปยังนายบุญสนอง วัย 66 ปี เจ้าของบ้านและนางแสงเดือน อายุ 62 ปี ภรรยาเจ้าของบ้านรายนี้เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งดื่มกาแฟอยู่บริเวณด้านในตัวบ้าน ลูกสาวได้วิ่งมาบอกว่ามีนายประดิษฐ์ อายุ 39 ปี เพื่อนบ้านในละแวกบ้านใกล้กันได้นำก้อนหินมาปาใส่กระจกหน้าบ้าน จนเด็กเล็กที่อยู่ในบ้านตกใจวิ่งออกมา ตนจึงรีบวิ่งออกมาดูพบกระจกแตกเสียหาย ซึ่งก่อนหน้าเกิดเหตุชายรายนี้ก็จะมีการชอบมาขับ จยย.วนเวียนอยู่ถนนหน้าบ้านผู้เสียหายบ่อยครั้งก่อนที่จะมาจอด รถ จยย.นำหนังสติ๊กมายิงใส่ตัวบ้านหลายครั้ง แต่ไม่โดน ลูกหินไปโดนเพียงต้นไม้ที่อยู่หน้าบ้าน ก่อนหลบหนีไป และล่าสุดวิ่งนำหินวิ่งเข้ามาหน้าบ้านปาใส่บ้านทรัพย์สินเสียหายอีกครั้งนี้ ซึ่งก็พบว่าชายรายนี้มีแอบมาทำในลักษณะนี้มาแล้วบ่อยครั้ง
ซึ่งล่าสุดด้านลูกสาวของตนได้เดินทางเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.ภูเขียว แล้วซึ่งทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุที่บ้านของตนเองผุ้เสียหาย และได้ไปที่บ้านของนายประดิษฐ์ ผู้ก่อเหตุเพื่อให้เจ้าตัวพร้อมญาติทราบแล้ว ซึ่งในครั้งนี้ทั้งทางนายบุญสนองและลูกสาว เห็นว่าเป็นเพื่อนบ้านใกล้ละแวกเดียวกันไม่ควรมาทำรุนแรงกันแบบนี้อีก ซึ่งยังไม่อยากติดใจเอาความให้ดำเนินคดี แต่อยากเตือนทางญาติๆ เพื่อนบ้านผู้ก่อเหตุรายนี้ไว้ก่อน ว่าอยากให้ญาติผู้ก่อเหตุชายหนุ่มรายนี้ควบคุมญาติตัวเองไม่ให้มาก่อเหตุแบบนี้กับใครได้อีก หรือถ้าหากผู้ก่อเหตุมีอาการป่วยทางจิตและเสี่ยงเป็นอันตรายต่อประชาชนใกล้เคียงรายอื่นๆ ได้อีก ก็อยากให้ทางญาติผู้ก่อเหตุรีบพาไปรักษาตัวให้หายจากอาการป่วยในลักษณะนี้โดยเร็วจะดีกว่า ซึ่งครั้งนี้ทางญาติและสาวบ้านผู้เสียหายที่โพสต์ภาพข้อความดังกล่าวออกมาต้องการเก็บไว้เป็นหลักฐาน เบื้องต้น ซึ่งยังให้โอกาสกับทางญาติๆของผู้ก่อเหตุรายนี้อยู่ แต่ก็ควรที่จะมีการไปตักเตือนกันและรีบให้ชายผู้ก่อเหตุหยุดพฤติกรรมดังกล่าวโดยเร็ว ซึ่งหากมีการเข้ามาก่อเหตุ ขวางปาหิน ยิงหนังสติ๊กใส่บ้านพังเสียหายอีก ก็จะขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุดทันทีต่อไป
