เวลา 09.00 น.วันที่ 20 พฤศจิกายน ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ป่าชุมชนบ้านโป่งขาม ต.แม่ปุ อ.แม่พริก. จ.ลำปาง ยื่นหนังสือต่อนายวรวุฒิ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยมีนายมัญญา นาคพน พนักงานป่าไม้อาวุโส ทำหน้าที่หัวหน้าอุทยานแห่งาติแม่ปิง เป็นผู้รับหนังสือที่ อ.ลี้ จ.ลำพูน เพื่อร้องเรียนถึงความไม่โปร่งใสในการประการพื้นที่ป่าชุมชนในต.แม่ปุ ไม่ผ่านประชาคม และพื้นที่ป่าชุมชน 6 แห่ง อยู่ในบริเวณเดียวกัน ทับซ้อนกันบางส่วนบางป่ามีพิกัดที่ตั้งเดียวกัน และมีงบประมาณอุดหนุนมายังพื้นที่ป่าดังกล่าว
ในหนังสือระบุว่า เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ.2563 ที่ผ่านมา ทางปกครองอำเภอแม่พริก และเจ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้ ที่รับผิดชอบโครงการป่าชุมชนบ้านโป่งขาม ได้ลงพื้นที่ชี้แจง ทำความเข้าใจต่อกรณีที่ราษฎรบ้านโป่งขาม ได้เข้าร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ป่าไม้อำเภอแม่พริก และได้เข้าร้องเรียนต่อนายอำเภอแม่พริกก่อนหน้านั้น เหตุจากเจ้าหน้าที่ได้ทำการรังวัดและจัดการพื้นที่ป่าชุมชนของตำบลแม่ปุทั้ง 6 หมู่บ้าน โดยไม่ได้มีการทำความเข้าใจต่อราษฎรในหมู่บ้าน รวมทั้งได้จัดสรรพื้นที่ป่าชุมชนให้กับหมู่บ้านต่าง ๆ ในพื้นที่ตำบลแม่ปุไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงและยังทำการบิดเบือนข้อมูลบางส่วนให้แก่ราษฎรในตำบลแม่ปุ พร้อมกับได้ทำการโดยไม่โปร่งใสเกี่ยวกับการโอนงบประมาณอุดหนุนป่าชุมชนหมู่บ้านละ 70,000 บาท ทั้ง 6 หมู่บ้าน ในตำบลแม่ปุ ส่วนใหญ่เป็นการประสานงานกับผู้ใหญ่บ้านให้เปิดบัญชีรองรับงบประมาณ โดยที่ชาวบ้านไม่รู้เรื่องในการจัดการป่าชุมชนดังกล่าว จนเกิดความขัดแย้งในพื้นที่ขึ้น โดยมติที่ประชุมในวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ.2563 มีมติให้ชาวบ้านโป่งขามได้ประชุมปรึกษาหารือกันใหม่ให้ชัดเจนแล้วทำหนังสือมายังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในครั้งนี้ ซึ่งมีนายอำเภอแม่พริกเป็นประธานในที่ประชุมด้วย
ชาวบ้านโป่งขามจึงได้มีการกำหนดจัดตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาป่าชุมชนขึ้นมา เพื่อจัดการประชุมปรึกษาหารือถึงแนวทางที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหา ผลเป็นไปตามสิ่งที่ส่งมาด้วย 1, 2 และ 3 และมีข้อร้องเรียนเพิ่มเติม โดยให้เจ้าหน้าที่กรมป่าไม้เข้าตรวจสอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ที่จะทำการจัดทำโครงการป่าชุมชนบ้านโป่งขาม ซึ่งมีบุคคลทำฟาร์มเลี้ยงสุกร และแผ้วถางพื้นที่ในป่า พร้อมกับมีการขุดสระน้ำขนาดกลางในพื้นที่ ให้ดำเนินการตรวจสอบว่าอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติหรือไม่ หากอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติแล้ว ขอให้ดำเนินการยึดคืนพร้อมกับดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เนื่องจากมีราษฎรหลายรายที่รอดูว่าทางหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างไร หากไม่มีการดำเนินการต่อผู้กระทำผิด จะมีราษฎรอีกหลายรายบุกรุกพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อครอบครองเป็นของตนเอง เพราะผู้ที่กระทำก่อนหน้าไม่มีความผิดใด ๆ ทำให้เกิดความเสียหายต่อส่วนรวม นอกจากนี้ชาวบ้านบางส่วนยังลือกันว่า เจ้าหน้าที่ป่าไม้รู้เห็นด้วยในการทำฟาร์มเลี้ยงสุกรในป่าผืนดังกล่าว ต่อมาเจ้าของฟาร์มสุกร ได้อ้างว่าที่ดินแปลงนั้นมีเอกสาร สปก.4-01 ซึ่งหากมีเอกสารจริงจะเป็นการออกเอกสารทับซ้อนที่ป่าสงวนด้วยหรือไม่ เพราะเจ้าของที่ดินแปลงใกล้เคียงกันไม่รู้เรื่องการออก สปก.4-01 เลย
นอกจากนี้ราษฎรบ้านโป่งขาม หมู่ที่ 4 ตำบลแม่ปุ อำเภอแม่พริก จังหวัดลำปาง ยังได้ตรวจสอบเอกสารการขอจัดตั้งป่าชุมชน ปปช.3 มีการจัดทำข้อมูลเท็จหลายประเด็น เช่น ภาพประกอบการประชาคมกับปีที่อนุมัติคนละปี และไม่มีการประชาคมแต่อย่างใด ที่สำคัญมีการจัดทำรายชื่อขึ้นมาเองพร้อมกับปลอมแปลงลายมือชื่อจำนวนไม่น้อยกว่า 50 คน ประกอบรายชื้อผู้ที่เข้าชื่อขอจัดตั้งป่าชุมชนในครั้งนี้ นอกจากนั้นรายชื่อผู้เข้าร่วมประชุมที่แนบมาประกอบการประชุมวันที่ 5 มีนาคม 2560 จำนวน 81 คน เป็นเอกสารเท็จ ทั้งจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมของบ้านโป่งขามไม่เคยเกิน 30 คน ในรายชื่อมีบางคนที่ไม่สามารถเดินทางมาประชุมร่วมได้แน่นอน เพราะมีปัญหาสุขภาพ
ข่าวน่าสนใจ:
- พิธีเปิดนิทรรศการฟอสซิลช้างดึกดำบรรพ์และสัตว์ร่วมยุคในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
- มท.1 เยือนจังหวัดนครพนม เปิดงานมหกรรมเทศกาลปลาลุ่มน้ำสงคราม ประจำปี 2567 ครั้งที่ 21 ผลักดัน Soft Power อำเภอศรีสงคราม
- พะเยา หนุ่มขโมยย่องฉกเงินร้านข้าวมันไก่ 3 ครั้งเจ้าของสุดทนแจ้งตรจับ
- สอ.สามัญศึกษาเพชรบูรณ์ประชุมใหญ่ โชว์กำไร 52 ล้าน พร้อมเลือกตั้งกรรมการและผู้ตรวจสอบกิจการ
ต่อมาเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2563 ได้จัดทำหนังสือถึง ผู้อำนวยการศูนย์ป่าไม้จังหวัด ตามรายละเอียดที่ส่งมาด้วย 1 นอกจากทางศูนย์ป่าไม้จังหวัดลำปางไม่ได้ดำเนินการตามข้อร้องเรียนของชาวบ้านแล้ว ยังได้นำเอาข้อมูลในหนังสือดังกล่าว ไปบอกผู้ใหญ่บ้านโป่งขามหมู่ที่ 4 ซึ่งเป็นผู้ที่มีส่วนในการปลอมแปลงข้อมูล นำมาข่มขู่ชาวบ้านที่เข้าชื่อกันร้องเรียนในเกิดการตรวจสอบดังกล่าว ทำให้ปัญหาไม่ได้มีการแก้ไขแต่อย่างใด แล้วก่อเกิดความแตกแยกในชุมชนเพิ่มขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้การตรวจสอบรายละเอียดโครงการป่าชุมชน ที่กรมป่าไม้อนุมัติในพื้นที่อำเภอแม่พริก จังหวัดลำปาง ยังพบว่าพิกัดของป่าชุมชนทับซ้อนกันเช่น ป่าชุมชนบ้านแม่เชียงรายบน หมู่ที่8 ตำบลพระบาทวังตวง พิกัดทับซ้อนหรือเป็นพิกัดเดียวกันกับบ้านท่าไม้ หมู่ที่1 ตำบลแม่ปุ คือพิกัด E518789 N1938066 เหมือนกันทังสองหมู่บ้าน ทั้งๆที่อยู่ห่างกันหลายกิโลเมตร และบ้านท่าไม้ หมู่ที่ 1 ตำบลแม่ปุ ที่ตั้งอยู่ติดแม่น้ำวัง ไม่มีพื้นที่ป่าแต่อย่างใดแต่กลับมีพื้นทีป่าชุมชนถึง 1,119 ไร่ ตอนที่นำป้ายโครงการไปติดประกาศ ได้นำไปติดประกาศในเขตพื้นที่บ้านห้วยไร่ ตำบลผาปัง เป็นเหตุให้กำนันตำบลผาปัง สั่งรื้อป้ายเพราะไม่ถูกต้อง
จากการสอบถามเบื้องต้นทราบว่า ทุกโครงการป่าชุมชนของตำบลแม่ปุ อำเภอแม่พริก 6 โครงการ ทางกรมป่าไม้ ได้โอนงบประมาณอุดหนุนให้ทุกโครงการแล้ว 70,000 บาท
ในเมื่อหน่วยงานในระดับจังหวัด ไม่มีความจริงใจในการแก้ปัญหา จึงได้นำเรียนมายังท่านช่วยดำเนินการตรวจสอบโครงการป่าชุมชนทั้งอำเภอแม่พริก ว่ามีการขึ้นทะเบียนโดยมิชอบหรือไม่ หากไม่ถูกต้อง ให้มีการดำเนินการใหม่ให้ถูกต้อง และให้มีการดำเนินการตามข้อร้องเรียนในสิ่งที่ส่งมาด้วย 1ด้วย
หวังเป็นอย่างยิ่งว่าท่านซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวง และเห็นท่านมีความมุ่งมั่นตั้งใจ ที่จะพัฒนาป่าไม้ของประเทศไทยให้ถูกต้องและได้ประโยชน์ต่อส่วนรวมมากที่ ก่อให้เกิดความชัดเจน บริสุทธิ์ ยุติธรรมต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา และขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้
ขอแสดงความนับถือ ราษฎรบ้านโป่งขาม หมู่ที่ 4ตำบลแม่ปุ อำเภอแม่พริก จังหวัดลำปาง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: