สงขลา-สะเดา คืบหน้ากรณีกลุ่มกองทัพมดขนใบกระท่อมจากประเทศไทย ปีนข้ามกำแพงรั้วชายแดนมาเลเซีย จนพบกับเจ้าหน้าที่ PGA หรือตำรวจสนาม เกิดการยิงกันสนั่นส่งผลให้เจ้าหน้าที่มาเลเซียชีวิต 1 รายบาดเจ็บสาหัส 1 ราย คนไทยถูกจับกุมได้ 2 ราย ส่วนที่เหลือบาดเจ็บ 3 ราย หนีตายกลับมารักษาตัวที่โรงพยาบาลในอำเภอสะเดา และโรงพยาบาลหาดใหญ่ ด้านสื่อมาเลเซียให้ความสนใจเป็นข่าวใหญ่วันนี้
ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ 24 พ.ย. 63 พล.ต.ต.ดุษฏี ชูสังกิจ รอง ผบ.ภ 9 พล.ต.ต.อาชาน จันทร์ศิริ ผบก.ภ.จว.สงขลา พ.อ.ศุภชัย สงสังข์ รอง ผบ.ฉก.ร.5 พ.ต.อ.อนุรธ อิ่มอาบ รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา และพ.ต.อ.ธรรมรัตน์ ภิรมย์รักษ์ ผกก.สภ.ปาดังเบซาร์ พร้อมเจ้าหน้าที่ ตชด.437ได้มีการประชุมเครียดที่ สภ.ปาดังเบซาร์ นานนับชั่วโมงแต่รายละเอียดการประชุมยังไม่เป็นที่เปิดเผย
ในส่วนของเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ปาดังเบซาร์ นำโดย พ.ต.ต.ฉัตรพงศ์ คงเจริญ สวป.สภ.ปาดังเบซาร์ พร้อมกับทหารชุด ร้อย ร.5021 และฝ่ายปกครอง อ.สะเดา ได้ทำการอายัดตัวนายราเชน อนุมาร ซี่งถูกยิงได้รับบาดเจ็บที่แขนไปชี้จุดที่เกิดเหตุพร้อมเส้นทางเข้า-ออก และเส้นทางที่ใช้หลบหนี พร้อมกับแกะรอยกลุ่มขบวนการทั้งหมดที่ยังหลบหนีไปได้
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ สื่อของประเทศมาเลเซียได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก อย่างเช่น Berita Harin รายงานว่าตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 03.10 น. ส่งผลให้สิบโท บาฮารุดดิน รามลี อายุ 54 ปีเสียชีวิตหลังจากถูกยิง 2 ครั้งที่หน้าอกและหน้าท้อง ขณะที่สิบโท อริฮัน A / L ทารี เพื่อนร่วมงานของเขาอายุ 39 ปี ถูกยิงอย่างรุนแรงที่ช่องท้องด้านขวา
ข่าวน่าสนใจ:
Datuk Surina Saad หัวหน้าตำรวจรัฐเปอร์ลิส กล่าวก่อนเกิดเหตุสมาชิก PGA สองคนที่เกี่ยวข้องกำลังลาดตระเวนในระยะทางประมาณ 600 เมตร จากกำแพงชายแดนก่อนที่จะเจอกับกลุ่มลักลอบขนจะขน เขากล่าวว่าสมาชิกสองคนที่เกี่ยวข้องได้ทำการจู่โจมในช่องหนูที่กลุ่มลักลอบขนมารวมตัวกันทำให้เกิดการยิงต่อสู้กันขึ้น “ สิบโทโนรีฮานที่ได้รับบาดเจ็บเช่นกันก็พยายามขอความช่วยเหลือจากสมาชิก PGA คนอื่น ๆ ที่ตำแหน่ง 9 ก่อนที่พวกเขาจะลงมือตามล่าผู้ลักลอบขนของเถื่อน” เขากล่าวในงานแถลงข่าววันนี้
ซูรินากล่าวว่าสมาชิก PGA ร่วมกับทีมคอมมานโด 69 (VAT69) สามารถตรวจจับผู้ลักลอบเข้าเมือง 2 คนที่ซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ป่าใกล้เคียงและยึดใบกระท่อมประมาณ 500 กิโลกรัมและยาแก้ไอจำนวนหนึ่ง ส่วนศพของ Corporal Baharuddin ผู้ล่วงลับถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล Sultanah Bahiyah Hospital (HSB) Alor Setar เพื่อชันสูตรพลิกศพและคาดว่าจะถูกนำกลับบ้านเพื่อฝังศพใน Bahau, Negeri Sembilan
อย่างไรก็ตามมีการเปิดเผยจากเจ้าหน้าที่ว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ซึ่งมีความผิดขั้นร้ายแรง เพราะมีการก่อเหตุอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมายทั้ง 2 ประเทศ เบื้องต้นคนไทยยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่ได้กลับบ้านอย่างที่เป็นข่าว ซึ่งการกระทำความผิดเกิดขึ้นในต่างประเทศ ต้องให้ทางผู้ใหญ่และหน่วยงานประสานแนวแดนไทยมาเลเซีย ว่าจะมีมาตราการอย่างไร ซึ่งในขณะไม่ได้ตั้งข้อหาใดๆกับคนไทยที่บาดเจ็บ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: