สงขลา-สะเดา หนุ่มขับรถบรรทุกหัวลาก ควงแฟนสาวจะไปส่งใบกระท่อม 15 กิโลกรัม ให้กับลูกค้า เจอตำรวจตั้งด่านตรวจออกอาการมีพิรุธ ก่อนตัดสินใจขับรถหนีขณะที่เจ้าหน้าที่ขอตรวจค้น และโยนของกลางทิ้งระหว่างทาง สุดท้ายไม่รอดถูกรวบตัวได้ สารภาพซื้อใบกระท่อมมาจากพื้นที่ปาดังเบซาร์ เพื่อไปส่งให้กับลูกค้าในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
วานนี้ ( 26 พ.ย.) เวลาประมาณ 20.00 น. ขณะที่ ร.ต.ท.เอ็มหรอน ชอบงาน รอง สว ( ป ) สภ.คอหงส์ พร้อมกำลังชุดวิหค สภ.คอหงส์ รวม 7 นาย กำลังปฎิบัติหน้าที่ โดยตั้งจุดตรวจจุดสกัด ตามคำสั่งของ พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ มีแสง ผกก.สภ.คอหงส์ บริเวณถนนปลักธง – ควนจง ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อเป็นการป้องกันการก่ออาชญากรรม และการกระทำผิดกฎหมายต่างๆ
ได้สังเกตเห็นรถบรรทุกแบบหัวลากยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 71-5968 สงขลา ขับมาถึงบริเวณจุดตรวจ คนขับแสดงอาการมีพิรุธจึงส่งสัญญาณให้จอดรถ เพื่อขอทำการตรวจค้น โดยขณะที่ ด.ต.มูหำหมัด นุกูล เข้าไปเปิดประตูรถสังเกตเห็นถุงดำ จำนวน 2 ถุง วางอยู่ระหว่างคนขับและคนนั่งข้างคนขับ ซึ่งยังไม่ทันได้ตรวจค้น คนขับได้ตัดสินใจขับรถหลบหนีไปทางแยกคลองหวะทันที
เจ้าหน้าที่ได้ขับรถไล่ตามและสังเกตเห็น มีสิ่งของถูกโยนทิ้งออกมาจากประตูรถด้านซ้าย พบเป็นใบกระท่อม ก่อนที่จะไล่ติดตามรถคันดังกล่าวได้บริเวณพื้นที่ ม.4 ต.คลองหรั่ง อ.นาหม่อม จ.สงขลา ซึ่งทราบชื่อคนขับคือนายพีระพงษ์ ภักช่วย อายุ 24 ปี อยู่ที่ 356 ถ.ปลักธง-ควนจง ต.คอหงส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา พร้อม น.ส.กิติยา ซุ่นสั้น อายุ 23 ปี อยู่ที่ 26 ซ .1 ปุณณกัณฑ์ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งนั่งโดยสารมาด้วยกัน
เบื้องต้นนายพีระพงษ์ ภักช่วย ยอมรับว่าใบกระท่อมดังกล่าวเป็นของตนเอง จำนวน 15 กก.ซึ่งได้ขับบรรทุกหัวลากซึ่งเป็นรถของบริษัทแห่งหนึ่ง ใน อ.สะเดา ไปซื้อมาจากพื้นที่ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อนำไปส่งให้กับลูกค้าชื่อเล่นนายต้า บริเวณหน้าห้างดังกลางเมืองหาดใหญ่ ในราคา กก.ละ 400 บาท โดยแวะรับแฟนสาวเพื่อไปส่งใบกระท่อมด้วยกัน แต่หลังจากเจอด่านตรวจกลัวถูกจับ เลยขับรถหนี และสั่งให้แฟนสาวโยนใบกระท่อมทิ้ง แต่สุดท้ายก็หนีไม่รอด
ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการบันทึกจับกุม พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 ( ใบพืชกระท่อม ) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย ก่อนที่จะควบคุมตัวทั้งสองคน พร้อมด้วยของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คอหงส์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
