อุบลราชธานี-ไฟลมหนาวไหม้กุฏิวัดดังวอด 3 หลัง เสียหายนับสิบล้านบาท
เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 1 ธ.ค. พ.ต.ท.ฉลอง อุคะ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุบลราชธานี ได้รับแจ้งมีไฟไหม้กุฏิที่วัดปากน้ำ บุ่งสระพัง บ้านปากน้ำ ต.กุดลาด อ.เมืองอุบลราชธานี จึงเดินทางพร้อมรถดับเพลิงของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด องต์การบริหารส่วนจังหวัด เทศบาลนครอุบล อบต.กุดลาด อบต.ปทุม กว่า 10 คัน รุดเข้าฉีดน้ำสกัดไฟ
โดยกุฏิหลังแรกที่สร้างเป็นครึ่งปูนและครึ่งไม้ ส่วนด้านล่างทำเป็นโรงครัว ถูกไฟไหม้เสียหายหมดทั้งหลัง และไฟได้ลุกลามไปติดกุฎิหอฉันท์ที่เป็นตัวอาคารปูน 2 ชั้น ใช้เป็นที่พักของพระและเณรที่อยู่ติดกันอีก 2 หลัง เพราะระหว่างเกิดเหตุมีลดหนาวพัดแรง ทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรุนแรงและรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ผจญเพลิงพยายามช่วยกันฉีดน้ำสกัดไฟ แต่ภายในกุฏิหอฉันท์ทั้ง 2 หลัง ซึ่งใช้เป็นที่เก็บวัตถุโบราณ พระพุทธรูป รวมทั้งหนังสือใช้เรียนศึกษาปริยัติธรรมของพระและเณร ทำให้เป็นเชื้อไฟอย่างดี
ซึ่งระหว่างเกิดเหตุ พระเณรและชาวบ้านใกล้เคียงวัดได้ช่วยกันขนย้ายทรัพย์สินเป็นพระพุทธรูปและเฟอร์นิเจอร์ออกมาจากกุฏิเกิดเหตุได้บางส่วน และเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงให้สงบลงได้ โดยทำความเสียหายให้กับกุฏิทั้ง 3 หลังมูลค่าเกือบ 10 ล้านบาท
จากการสอบถามพระมหาไพฑูรย์ เลขาของวัดเกิดเหตุทราบว่า กุฏิต้นเพลิงมีพระและเณรพักอาศัยอยู่จำนวน 6 รูป ขณะเกิดเหตุพระและเณรทั้งวัดเกือบ 20 รูป ออกไปบิณฑบาตตามกิจของสงฆ์ แต่มีเณรบางรูปที่ป่วยไม่ได้ออกบิณฑบาทมาเห็นไฟลุกไหม้จากชั้นล่างที่เป็นโรงครัว จึงวิ่งไปตามชาวบ้านเข้ามาช่วยดับไฟ พร้อมแจ้งหน่วยดับเพลิงให้มาช่วย แต่ก็ไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้กุฏิถูกไฟไหม้เสียหายไป 3 หลัง ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือไม่ ต้องรอให้หน่วยพิสูจน์หลักฐานจังหวัดเข้าตรวจสอบ เพื่อยืนยันสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่ชัดเจนอีกครั้ง
สำหรับวัดปากน้ำ บุ่งสระพังนี้ นอกจากเป็นวัดที่สร้างมานานแล้ว ยังเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อเงินอายุกว่า 700 ปี ซึ่งเป็นที่นับถือของประชาชนมากราบไหว้บูชาเป็นประจำด้วย
เกียรติรัตน์ ชัยสกุลวงศ์ ข่าว
