กรุงเทพฯ – ‘เพนกวิน-พริษฐ์’ ขึ้นเวทีฉีกหนังสือที่เขียนโดย 1 ในตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมประกาศรายชื่อ ก่อนเผา ด้าน ‘รุ้ง-ปนัสยา’ อัด รัฐประหาร ปิดกั้นเสรีภาพ ทำลายประชาธิปไตย บังคับอุ้มหาย ส่วน ‘ทนายอานนท์’ ประกาศ ปีหน้าจะยกระดับชุมนุมเข้มข้นกว่านี้ ท้าสั่งซื้อแก๊สน้ำตาเพิ่ม
วันที่ 2 ธันวาคม 2563 ที่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว การชุมของกลุ่มคณะราษฎร #ม็อบ2ธันวา ช่วงค่ำ ยังหนาแน่น มวลชนยังรวมตัวฟังการปราศรัยของแกนนำ ซึ่งวันนี้ คึกคักเป็นพิเศษ เนื่องจากมีการวิพากย์วิจารณ์การทำหน้าที่ของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ กรณีคำวินิจฉัยการพักบ้านพักทหารของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไม่ผิด
โดยเวลา 20.15 น. นายพริษฐ์ หรือเพนกวิน ชิวารักษ์ แกนนำคณะราษฎร 2563 ขึ้่นเวทีปราศรัย ระบุว่า รัฐธรรมนูญคือกฎหมายสูงสุด กฎหมายใดที่ขัดหรือแย้งรัฐธรรมนูญ ใช้ไม่ได้ ระเบียบกองทัพบกใหญ่มาจากไหนถึงล้มล้างรัฐธรรมนูญได้ รับไม่ได้ที่บอกว่า พลเอกประยุทธ์ ทำคุณงามความดีให้แก่บ้านเมือง และเป็นผู้จงรักภักดี สมควรแล้วที่กองทัพบกจัดบ้านพักหรูหราให้อยู่ พลเอกประยุทธ์ต้องออกไป ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีความชอบธรรมใด ๆ เพราะแต่งตั้งมาจาก สนช. มาจาก ส.ว. ซึ่งทั้งหมดมาจากพลเอกประยุทธ์ จึงต้องอุ้มชูกัน ประเทศไทยไม่จำเป็นต้องมีศาลรัฐธรรมนูญ ควรยุบทิ้ง ถ้ายังมีมโนสำนึก ให้ไปลาออกจากตำแหน่ง
เพนกวิน ยังฉีกหนังสือ ‘ความคิด ความรู้ และอำนาจการเมืองในการปฏิวัติสยาม 2475’ ของนายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งปัจจุบันเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมอ่านชื่อประจานตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้่ง 9 คน และว่าใครเจอที่ไหนให้ชูนิ้วใส่ อย่าให้มีที่ยืนในสังคม ก่อนเผาหนังสือและกระดาษรายชื่อพร้อมรูปใบหน้า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญทั้่ง 9 พร้อมขู่ว่า หลังนักศึกษาสอบเสร็จ ชาวนาเกี่ยวข้าวเสร็จ ทัพใหญ่จะมาอย่างแน่นอน
ด้าน น.ส.ปนัสยา หรือรุ้ง สิทธิจิรวัฒนกุล แกนนำคณะราษฎร 2563 ปราศรัยตอนหนึ่งว่า ผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญวันนี้ ทำให้ พลเอกประยุทธ์ รอดจากความผิดอีก วันนี้ จะพูดเกี่ยวกับข้อเรียกร้องข้อที่ 9 ของประกาศแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม คือ เรื่องการอุ้มหายและการฆาตกรรมจากภาครัฐ ความโหดร้ายของคณะรัฐประหาร ไม่ใช่แค่เรื่องของการปิดกั้นเสรีภาพ หรือการทำลายระบอบประชาธิปไตย หรือ ทำให้เกิดการชะงักการพัฒนาของประเทศไทย แต่สิ่งหนึ่งที่คณะรัฐประหารทำมาตลอด คือ การบังคับสูญหายการอุ้มฆ่า ผู้เห็นต่างจากคณะรัฐประหาร โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมา มีผู้ถูกอุ้มหายจำนวนมาก และหลายคนต้องลี้ภัยทางการเมือง อย่างการสลายการชุมนุมเมื่อปี 2553 ที่ใช้กระสุนจริง มีผู้เสียชีวิต 99 ศพ พร้อมการเปิดคลิปวิดีโอเหตุการณ์สลายการชุมนุมดังกล่าว โดยกลุ่มผู้ชุมนุมยืนไว้อาลัย
ส่วนนายอานนท์ นำภา แกนนำกลุ่มราษฎร อีกคน ปราศรัยตอนหนึ่งว่า ไม่คิดว่าการชุมนุมจะมาไกลขนาดนี้และไม่กลัวแม้แต่นิดเดียว แม้มีการฉีดแก๊สน้ำตา ก็ยังต่อสู้ให้ได้ประชาธิปไตยที่มี 10 ขั้น ตอนนี้ยังไม่ถึงขั้นที่ 5 นี่คือขั้นนวดให้เห็นแผล และปีหน้ารูปแบบการชุมนุมจะเข้มข้นขึ้นกว่านี้ ถ้าอยากรังแก ให้สั่งซื้อแก๊สน้ำตามาเพิ่ม ปีหน้า 64 บวกเป็นบวก ยืนยันจะต่อสู้ด้วยสันติวิธีต่อไป
ขอบคุณภาพจาก เพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม – United Front of Thammasat and Demonstration และทวิตเตอร์ @noirisaesthetic
